ความงามจากข้างใน


การทำความดีจากใจ ก็ชัดเจนในตัวเองว่าไม่ต้องรอรางวัลจากใคร และไม่ต้องไปประกาศความดีของตัวเองเลย การปฏิบัติจะเป็นการประกาศความงามภายในของคนๆนั้นเอง

วันหยุดยาวที่ผ่านมาได้มีโอกาสดูรายการโฆษณาผ่านทางทีวี หลายสิบเรื่องต่อวัน แต่ก็นานๆจะเจอโฆษณาที่สั้น แต่ได้ใจ ไม่ต้องแปลความสักครั้งค่ะ

          ก็ไม่เชิงว่าจะตำหนิหรือไม่ชอบโฆษณาอื่นๆ ส่วนหนึ่งเพราะคิดว่าการโฆษณาก็คงมีกลุ่มเป้าหมายต่างๆวัยกันไป อย่างเช่นเรื่องสื่อสารการโฆษณาก็มักจะเน้นวัยรุ่น และใช้ผู้หญิงเป็นพรีเซนเตอร์ เหมือนจะนำเสนอว่า กลุ่มผู้หญิงเป็นกลุ่มที่พูดมากจึงต้องใช้การสื่อสารที่ราคาถูกและมีโปรโมชั่นมาก

         หรือโฆษณาบรรดาผงซักผ้า สบู่ ก็มักจะให้ผู้หญิงเป็น แรงงาน ในการซักพิสูจน์ หรือ "ทำหน้าอมภูมิ" ว่า ได้เป็นคนเลือก แต่ถ้ามององค์ประกอบการเลือกใช้ผงซักผ้าหรือสบู่นั้นๆ ก็มีผู้ชายอยู่เบื้องหลัง เช่นทำหน้าที่เป็นคนชักจูง  เป็นวิทยากรแนะนำ หรือเป็นคนที่ให้รางวัลว่าภรรยาและลูกว่า พ่อบ้านนั้นพอใจกลิ่นมะลิที่เลือกมาให้ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง นานๆจะมีโฆษณาที่พ่อบ้านทำครัวและเลือกใช้ซีอิ้วยี่ห้อหนึ่ง แต่นั้นอาจเป็นเพราะพรีเซนเตอร์เป็นดาราชายดังสูงอายุที่สังคมรับรู้ว่า เป็นคนรักครอบครัวมาก่อน

        บางโฆษณาก็เป็นแม่ใช้ให้ลูกตากผ้า แต่ก็ทำน่ากลัว มีเท้าเด็กแขวน แล้วค่อยๆเฉลยว่า เด็กไม่อยากถอดเสื้อจนต้องนำตัวเองขึ้นแขวนด้วย ดูตอนแรกใจหายนึกว่าเด็กยุคใหม่ถูกใช้งานนิดหน่อยก็แขวน(คอ)เลยหรือ

         วันหยุดดูโฆษณาแล้ว ก็นึกถึงว่าโฆษณาเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเน้นชัดเจนว่า แม้ประเทศจะเปลี่ยนไป ผู้หญิงมีบทบาทนอกบ้านมากขึ้น  กว่า ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของแรงงานเป็นผู้หญิง และแนวโน้มว่า ผู้หญิงจะเข้าสู่แรงงานระดับวิชาชีพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนผู้ที่เข้าเรียนในระดับวิชาชีพที่เป็นประชากรผู้หญิงเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ภาพลักษณ์ของผู้หญิงในแวดวงโฆษณา ยังติดกับ งานบ้าน และยังอยู่ภายใต้การชี้นำโดยผู้ชาย

       โดยส่วนตัวไม่รังเกียจต่อการที่ผู้หญิงจะได้รับคำแนะนำจากผู้ชายหรือเด็กหรือใครๆ แต่อยากเห็นโฆษณาที่ผู้หญิงเลือกหรือปฏิบัติด้วยการใช้ความรู้ ความสามารถที่มีด้วย และมีความสุขได้โดยไม่ต้องไปรอจนกว่าจะมีคนอื่นมาให้รางวัลค่ะ

                มีโฆษณาหนึ่งที่นึกนิยมคนคิด คือของธนาคารหนึ่ง ที่ผู้หญิงสองคนอยู่ในลิฟท์ และมีผู้ชายบอกว่า รอด้วย คนสวยด้วยการปรุงแต่ง รีบกดปิด และยังทำท่าไม่พอใจที่อีกคนกดเปิด แต่เมื่อผู้ชายรายนั้นเข้าลิฟท์มาแล้ว กล่าวขอบคุณผิดคน ...จุดที่ประทับใจอยู่ตรงนี้ค่ะ คือคนที่กดเปิด แค่อมยิ้มและมีความสุขโดยไม่ไปประกาศตัวเองว่าเป็นคนทำความดีนั้น

       โฆษณาชิ้นนี้สอนให้คิดว่าการทำความดีจากใจ ก็ชัดเจนในตัวเองว่าไม่ต้องรอรางวัลจากใคร และไม่ต้องไปประกาศความดีของตัวเองเลย  การปฏิบัติจะเป็นการประกาศความงามภายในของคนๆนั้นเองค่ะ 

หมายเลขบันทึก: 66605เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2006 09:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

เรียน  ท่านอาจารย์

โฆษณาในทุกวันนี้ถือว่ามีบทบาท  มีอิทธิพลต่อความคิดความเข้าใจของผู้ดูอย่างมาก และถือว่าเป็นสิ่งเร้าที่กระตุ้นพฤติกรรมของผู้บริโภคในด้านต่าง ๆ อีกด้วยโฆษณาที่เห็นเป็นรูปธรรมทางด้านจิตใจที่ชื่นชอบตอนนี้คือ  โฆษณาของ บริษัทไทยประกันชีวิต  ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีมาก และให้แง่คิดหลายอย่าง แต่ผู้ดูบางคนอาจจะต้องดูหลายครั้งเพื่อความเข้าใจ  และสะท้อนให้เห็นจิตใจภายในที่งดงามของความเป็นพ่อที่มีต่อลูก  อีกทั้งยังแอบสะท้อนสังคมวัยรุ่นไทยในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี   ถือว่าเป็นจุดขายที่มีความงดงามอยู่เช่นกัน

  • สวัสดีครับท่านอาจารย์จันทรรัตน์
  • ถูกต้องอย่างที่สุดเลยครับ การทำความดีเราจะได้ดีอย่างฉับพลันเลยครับ เพราะทำให้เราสุขใจ
  • เมื่อก่อนทำงานหนักได้เงินเยอะ ก็ไม่สุขใจเท่าตอนนี้ที่ได้มาอยู่บ้านและทำงานให้กับแม่ เป็นทาสของแม่และพ่อ ได้ความสุขอย่างฉับพลันเลยครับ
  • โฆษณาดี ๆ เดี๋ยวนี้เริ่มมีเยอะมากขึ้นเลยครับ แต่สัดส่วนก็ยังมีน้อยไปหน่อยครับ ต้องพยายามให้โฆษณาดี ๆ แบบนี้มีมากขึ้นครับ

สวัสดีค่ะ คุณคนข้างหลังและอาจารย์ปภังกร

นานๆได้ดูทีวีสักครั้งค่ะ ..พอดูแล้วก็ชอบดูโฆษณาค่ะ ...มีอะไรน่าสนใจเยอะ ..ส่วนรายการอื่นเช่นละครเป็นตอนๆไม่ค่อยได้ดูเพราะไม่ชอบซีรี่ส์ที่ต้องติดตาม ชอบดูหนังจบเป็นเรื่องๆมากกว่า..เลยมีแนวคิดจากการดูผ่านโฆษณาค่ะ...

โฆษณาของประกัยภัย ถูกตัดลงสั้นลง คงเป็นเพราะราคาต่อนาที??...เรื่องนี้มีแนวคิดวิจารณ์กันค่อนข้างหลากหลายดีค่ะ..มองเชิงบวก..สังคมกำลังต้องการโฆษณาที่อยู่บนฐานความจริงและใกล้ตัวกันมากขึ้น

โฆษณาก็คงคล้ายๆ การดำเนินชีวิตกระมังคะ...อะไรที่หวือหวา มาเร็วมักจบเร็ว อะไรที่สร้างความประทับใจในความดีงามภายในของคนมักจะติดตาอยู่นาน

มีโฆษณาที่ดีๆ กรุณาแนะนำด้วยค่ะ..(ชอบดูโฆษณา...อย่างที่บอกค่ะ) 

สวัสดีครับอาจารย์ โฆษณาตัวนี้ประทับใจตรงที่คนที่ไม่ได้กดลิฟท์ให้ ทำหน้าแบบละอายใจในคำขอบคุณครับ แต่มีประเด็นนึงที่เห็น คิดว่าที่ผู้ชายขอบคุณผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่ใช่เพราะความสวยครับ แต่คิดว่าตำแหน่งที่ยืนอยู่ตรงแป้นกดพอดี (ถ้าเข้าใจไม่ผิด คิดว่าแป้นกดมีด้านเดียว เพราะผู้หญิงที่กดให้เอื้อมมือมา) เลยคิดว่าผู้ชายอาจจะขอบคุณเพราะคิดว่าผู้หญิงที่ยืนใกล้เป็นคนกดให้ ไม่ใช่เพราะความสวย

สุดท้ายเห็นด้วยกับอาจารย์ในเรื่องที่ทำความดีแล้วมีความสุขโดยไม่ต้องประกาศให้คนรู้ครับ อยากให้สังคมมีน้ำใจกันเยอะๆ ครับ

เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะ เป็นโฆษณาที่มีไอเดียดี ช่วยผลักดันให้อยากทำความดีขึ้นเยอะเลย หวังว่าคงมีโอกาสได้อ่านเรื่องดีๆอย่างนี้อีกนะคะ

มาเยี่ยม...

ทำความดีมีมาเอง  นะครับ

ทำความดี  ดีอำนวยอวยสุขทุกสมัย...นะครับ

ขอบคุณครับ...

ขอบคุณค่ะคุณเจษฎา คุณnut และท่านอาจารย์ umi

คุณเจษฎาช่างสังเกต..ค่ะ ..เห็นคล้อยตามว่า ที่กดลิฟท์อยู่ด้านเดียวและคนขอบคุณคงเข้าใจเช่นนั้น...

คุณnut คงได้เห็นเรื่องราวดีๆ เช่นกัน มาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ

ท่านอาจารย์umi

"ดีอำนวยอวยสุขทุกสมัย" คล้องจองและจำง่ายค่ะ ขอบคุณค่ะ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท