2-3ธค.49
ดิฉันลาพักร้อนเพื่อไปเที่ยวที่เมืองดูไบ ประเทศ United Urab Emirates(UAE) โดยไปกับคุณสุรีย์ เหมะพรรณ สถาปนิก ก.ฝ.ผ. ที่เคยมาช่วยสถาบันออกแบบ Master plan และคลองระบายน้ำและการผันน้ำ คุณสุรีย์มีลูกชายคนที่สองไปทำร้านอาหารร่วมกับชาวฝรั่งเศสโดยมีภรรยาเคยเป็นแอร์ ของดูไบ เราออกจากเมืองไทยประมาณ17.30และใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ทีมทั้งหมดมีคุณสุรียและภรรยา คุณสมบูรณ์เจ้าหน้าที่กฝผ และมีสถาปนิกของบริษัทที่เป็นเพื่อนคุณสุรีย์ไปด้วย 2คน ดิฉันไปกับสามี เราไปพักที่โรงแรมArabian Park Hotel
เป็นโรงแรมขนาด 3 ดาว ในราคาคืนละ 5000บาท อากาศหนาวประมาณ18องศา คุณสุรีย์และภรรยาแยกไปนอนกับลูกชาย พวกเรามาถึงก็นอนเลยค่ะเพราะดึกแล้ว
3-12-49
ดิฉันตื่นแต่เช้าโดยพกหนังสือของสคส.ไปอ่าน วันนี้น้องปูนลูกชายคุณสุรีย์ให้ทัวร์พาไปเที่ยวเมืองชาร์จ้าที่คล้ายๆอยุทธยาของเราโดยเดินทางไม่ถึงชั่วโมง เราแวะเที่ยวชายทะเลที่มีลมแรงมากๆ มาซื้อของที่ตลาดเก่าที่มีของขายมาก และไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงความเป็นอิสลาม พอถึงเวลาบ่ายสองโมงเรากลับดูไบและมากินอาหารจีนที่ดูไบ เย็นๆไปเดินเล่นที่โรงแรมและร้านค้าใกล้โรงแรมและกลับไปกินอาหารอินเดียที่apartmentของปูน
ถ่ายรูปกับสุเหร่าที่Sharjah ทะเลที่มีลมแรงมากๆ เที่ยวMuseum
ช่วงเดินทางพวกเราสังเกตเห็นว่า
1 ดูไบปกติอากาศจะร้อนแต่ช่วงที่พวกเราไปจะหนาว ในหนึ่งปีจะมีฝนตก5วัน ช่วงเรามามีฝนตกและเห็นน้ำท่วมเพราะไม่มีท่อระบายน้ำ
2 คนท้องถิ่นมีประมาณ 25% ทำให้รํฐมีการจูงใจให้คนท้องถิ่นแต่งงานกันโดยจะจ่ายเงินให้ 800000 บาท
3 ไม่มีการเก็บภาษีทำให้ดูไบกลายเป็นศูนย์กลางการค้า แต่มีการเก็บค่าเช่ารายปี ธุรกิจต่างชาติต้องมีคนท้องถิ่นร่วมหุ้นทำให้คนดูไบเหมือนคนที่คอยเก็บหัวคิว มีการฟ้องร้องเพราะมีการไปยึดกิจการถ้ามีกิจการดี จำนวนหุ้นที่ลงร่วมกันอาจจะไม่ตรงกับที่แจ้งรัฐ
4 คนไทยจะมีเครดิตกว่าเอเซียอื่นๆเพราะเรามีวัฒนธรรมากกว่า มีระเบียบกว่า แรงงานส่วนมากเป็นฟิลิบปินส์ อินโดนีเซีย
ระหว่างนั่งรถทัวร์กลับเรายิ้มและโบกมือให้คนในรถอีกคันทำให้ ไกด์ถามเราว่ารู้จักเหรอ เราบอกว่าไม่รู้จักแต่เราทักทายกันได้เพราะศาสนาสอนให้เราป็นพี่น้องกัน ( ไกด์คงรู้สึกงงเหมือนกัน)
ขอบคุณมากนะคะ ที่มาแบ่งปันความน่าประทับใจ จะตามไปเที่ยวบ้างคะ