ในช่วงวันหยุดดิฉันได้ไปเดินซื้อของศูนย์การค้า บังเอิญได้ยินคำโฆษณาเชิญชวนบรรดาผู้สนใจรถที่มาตั้งโชว์ เป็นรถรุ่นที่วัยจ๊าบนิยม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนมามุงดู
คำโฆษณาเชิญชวนมีว่า "ดาวน์ต่ำมากๆ ผ่อนเดือนละนิดเดียว และให้ผ่อนสบายๆ นานถึง 84 เดือน ไม่กระทบกระเทือนกับค่าใช้จ่ายประจำวันในการศึกษาเล่าเรียนของท่านมากนัก"
ฟังแล้วก็ตกใจ อะไรกันนี่ คำเชิญชวนเหล่านี้ทำให้เด็กๆ หลงเชื่อและคล้อยตามได้ง่ายๆ อาจเป็นมูลเหตุจูงใจให้หาแนวทางทั้งที่ดีและไม่ดีในการได้เงินมาดาวน์และผ่อน เคยอ่านพบจากคอลัมน์ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งจากเรื่องเล่าสู่กันฟังมาว่า พอดาวน์รถปุ๊บก็จะแถมประกันชั้นหนึ่งให้ด้วย เผื่อไว้ตอนตามยึดรถคืน
การดำรงชีวิตในปัจจุบัน น่าเป็นห่วงมากๆ เพราะข้อมูลข่าวสารทั้งที่ดี & ถูกต้อง และไม่ดี & ไม่ถูกต้องมีมากมาย การมีสติในการเลือกบริโภคเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ เป็นห่วงเด็กๆ จะมีสักกี่คนที่คิดได้บ้าง
ทำให้ดิฉันนึกถึงบทความที่ พญ. คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ กล่าวถึงวิกฤติในสังคมไทย ประการแรก คือ การละวางธรรมะแห่งพุทธ แต่หันไปเทิดทูนบูชาวัตถุ ทั้งการวางเป้าหมายในชีวิตเพื่อให้มีซึ่งวัตถุอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมไปถึงการยกย่องนับถือผู้มีความสามารถในการสะสมวัตถุว่าเป็นบุคคลสำคัญมากกว่าการศรัทธาผู้มีความดี
ในที่สุดก็ต้องคิดถึงการฝึกปฏิบัติธรรม ต้องฝึกปฏิบัติให้ครบทั้ง 4 ประการ คือ
1. เมตตา
2. กรุณา
3. มุทิตา และ
4. อุเบกขา
เพื่อให้การดำรงชีวิตเป็นสุขค่ะ
อาจารย์อาจอง เคยเล่าให้ฟังว่า เยาวชน เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของนักการตลาดทั้งหลาย ซึ่งน่าเป็นห่วงมากๆ ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ดูแล
ขอขอบคุณธนูและปิ่งมากๆ นะคะ อย่างไรก็ตามคิดว่าการปลูกฝังหลักเศรษฐกิจ "พอเพียง" ตั้งแต่วัยเยาว์เป็นเรื่องสำคัญมากๆ จะพยายามใช้กับหลานน้อยด้วยค่ะ