นินทาว่าร้าย


คนที่นินทาว่าร้ายผู้อื่นนั้น ก็เปรียบกับ คนที่ สร้างด้านมืด ออกมาให้กับตัวเอง เอาหัวใจที่ชั่วช้าของตัวเอง มองคนอื่น ก้ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่า คนๆนั้นในอนาคต จะเป็นคนเช่นไร
      เพื่อนๆ เบื่อกันไหมครับกับคำนินทาว่าร้าย เรา เมื่อก่อนนั้นผมหัวเสียมากเลยครับ กัยคำนินทาเหล่านี้ หงุดหงิดเสมอๆ
      เค้าว่าเราอย่านู่นอย่านี้บ้าง ก็หงุดหงิดซิครับ ผมจะมีปัยหากับเรื่องพวกนี้มากพอสมควร  
             พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้นะครับว่า การนินทาก็เหมือนควันไฟ ห้ามไฟไม่ใหห้มีควันไม่ได้หรอกครับ ก็เหมือนกับห้ามคนไม่ให้นินทา
มันเป็นเรื่องปรกติของจิต มนุษย์ธรรมดาทั่วไปนะครับ  
             คิดแบบนี้เลยนึกขึ้นมาได้ว่า อ่ะ แล้วอย่างนี้ เราจะไปเดือดร้อนทำไมเมื่อมีคนมานินทาว่าร้าย  เพราะยังไงๆ มันก็ต้องมี สู้ทำใจสู้เข้าใจกับมันดีกว่า ดีกว่าที่จะ
ไปเศร้าเสียใจยอมแพ้มัน  เรามีวิธีปรับใจดังนี้ครับ 
             คนเรานั้น มีตัวตนในสังคมอยู่ สามลักษณะครับ 1. ตัวตนที่เราใฝ่ฝันอยากจะเป็น
                                                                 2. ตัวตนที่เป็นเราจริงๆ
                                                                 3.  ตัวตนที่ เราไม่อยากเป็นคนอื่นยัดเยียดให้เป็น
เอาล่ะครับ ตัวตนที่ เราใฝ่ฝันอยากจะเป็นก็พวกดารา นักร้องนักกีฬา ใช่ไหมครับ ฝันกันอยู่ทุกวันๆ ผมยังแอบฝันเลย คิดแล้วมันมีความสุขดี 
    ส่วนตัวตนที่คนอื่นว่าร้ายเรา เราก็ไม่อยากจะเป็นใช่ไหมครับ  คนอื่นว่าเราเลย ว่าเรา ชั่ว เราก็ไม่ชอบใช่ไหมครับ ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็น 
ตรงนี้เหละครับเป็นทุกข์ เพราะทุกคนต้องเจอ
        ผมอยากจะแนะนำว่าเราควรรักษาตัวตนที่เป็นเราจริงๆเข้าไว้  ตัวตนที่เราใฝ่ฝัน สามารถทำได้นะครับ แต่อย่าให้มันครอบงำ ตัวตนที่เป็นเราจริงๆ อย่าให้มันหลอกเรา
เหลิงไปเพราะว่าเวลาเรากลับสู่ความเป็นจริงเราจะได้ระลึกรู้ว่าอ่อนี่ตัวเรานะ เวลาเราแย่ เราจะได้ไม่มองสูงไป จะได้มองสู่ความเป็นจริง ไม่ทุกข์มาก
        ส่วนคำนินทาว่าร้ายยัดเยียด ความ ไม่ดีความที่ไม่เป็นตัวเราให้กับเรานั้น ก็ในเราเฉยๆ เสีย กับคำว่าร้ายนั้น เพราะ มันไม่ใช่ตัวตนจริงๆของเราที่เราเป็น แต่มันเป็นตัวตนที่ผู้อื่นสรางและยัด เยียด มันให้กับเรา   
        ถ้าเราพึงไปเดือดไปร้อน เราจะกล้ายเป็นสิ่งๆนั้นจริงๆ เพราะความที่จิตนึก จิตคิดถึงแต่ตัวตนที่ไม่จริงนั้น มันจะสร้างตัวตนนั้นขึ้นมา ในจิตใต้สำนึกเรา อย่างไม่รู้ตัว
    คนที่นินทาว่าร้ายผู้อื่นนั้น ก็เปรียบกับ คนที่ สร้างด้านมืด ออกมาให้กับตัวเอง เอาหัวใจที่ชั่วช้าของตัวเอง มองคนอื่น ก้ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่า คนๆนั้นในอนาคต จะเป็นคนเช่นไร
   ผิดกับคนที่มองคนอื่นด้วยใจเมตตามองโลกในแง่ดี จิตใจของเค้าก็จะสะอาด บริสุทธิ์ ไปด้วย   เพราะฉะนั้น เราอย่าไปเดือด้อนเลยครับกับคนที่นินทาว่าร้ายเรา
ให้เค้านินทาไป ก้เราไม่ใช่ซะอย่างอย่าไปเดือดร้อน เฉยๆ ให้มองคนเหล่านั้นอย่างเมตตา เมตตาที่ว่า เค้ากำลังสั่งสมความชั่วให้กับตัวเองอยู่   ต่อไปโลกที่เค้าเหล่านั้นมองก็คงเลวร้าย อย่างที่เค้าคิดเหละครับ 
       อย่าลืมนะครับ ไม่ได้เป็น ก็อย่าไปเดือดร้อน มองให้เป็นเรื่องตลก มองคนที่นินทาเรา อย่างเมตตาสงสารนะครับ  
เราเป็นของเราอย่างนี้นะครับ อย่าไปใส่ใจสิ่งที่ไม่เป็นจริงนะครับ   หวังว่าจะเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ได้บ้างนะครับเพื่อนๆ 
    เจริยในธรรมครับ
คำสำคัญ (Tags): #นินทาว่าร้าย
หมายเลขบันทึก: 66232เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2006 15:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 18:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สู้ๆคะ ชีวิตไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีอะไรอีกเยอะเลยละคะ ขอเป็นกำลังใจให้คะ

 ลูกแกะน้อย

วันนี้ผมได้เรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวผมโดยตรงเลย จากนิสิต เป็นประโยชน์มาก เป็นบันทึกที่เข้ามาถูกจังหวะพอดี ทำให้ได้ทบทวนหลักคิด ขอบคุณ Mc มาก

ดีค่ะ  ได้ข้อคิดดี  ครูอ้อยมาเป็นกำลังใจค่ะ
เจริญในธรรม ในชีวิต มหา
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท