8 วิธีป้องกันการติดเชื้อราบริเวณช่องคลอด

๘ วิธีป้องกันการติดเชื้อราบริเวณช่องคลอด

นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตรลำปาง

...

การติดเชื้อราบริเวณช่องคลอดอาจทำให้เกิดการเจ็บแสบรอบๆ ช่องคลอด ปวดเวลาปัสสาวะ หรือมีตกขาวสีขาวขุ่นได้ บางคนเป็นๆ หายๆ แล้วหลายครั้ง ทำให้รู้สึกไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เกรงไปว่า จะเป็นอะไรมากกว่านี้หรือเปล่า หรือถ้าเป็นแค่เชื้อราทำไมถึงเป็นซ้ำๆ ซากๆ

เว็บไซต์ของศูนย์การแพทย์ลอเดสเฮลท์ (Lourdes Medical center of Burlington county, USA) กล่าวถึงสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อบริเวณช่องคลอดดังต่อไปนี้ครับ...

q       น้ำหอม น้ำยาดับกลิ่น
สเปรย์ฉีดบริเวณช่องคลอด เช่น น้ำหอม น้ำยาดับกลิ่น ฯลฯ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น สบู่ ฯลฯ ผลิตภัณฑ์บางอย่างมียาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อแบคทีเรียลดจำนวนลง เชื้อราไม่มีคู่แข่ง(แบคทีเรีย)ก็จะแบ่งตัวขึ้นมาก ทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้

q       ฮอร์โมน
ฮอร์โมนบางอย่าง เช่น ฮอร์โมนชดเชยวัยทอง (hormone replacement therapy / HRT) ฯลฯ ทำให้เซลล์บริเวณช่องคลอดเปลี่ยนสภาพ และติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

q       ภูมิต้านทานลดลง
ภูมิต้านทานโรคที่ลดลง ไม่ว่าจะเป็นป่วยกาย เช่น อดนอน ขาดอาหาร เบาหวาน เอดส์ ฯลฯ ป่วยใจ(เครียด) การใช้ยาฮอร์โมนสเตอรอยด์ (steroid) มีส่วนทำให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย

q       ตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

q       ยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะทำให้เชื้อแบคทีเรียลดลง เมื่อแบคทีเรียลดจำนวนลง เชื้อราไม่มีคู่แข่ง(แบคทีเรีย)ก็จะแบ่งตัวขึ้นมาก ทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้

q       เสื้อผ้าไม่เหมาะสม
เสื้อผ้าที่ชื้น คับ หรือผ้าใยสังเคราะห์มีส่วนทำให้เกิดความชื้นบริเวณช่องคลอดเพิ่มขึ้น ทำให้เชื้อราเจริญเติบโต และแบ่งตัวได้มากขึ้น
วิธีป้องกันการติดเชื้อ

1)           หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าคับๆ
ไม่ควรสวมเสื้อผ้าคับๆ ชุดชั้นในใยสังเคราะห์(ไนลอน) และไม่ควรสวมชุดที่ทำให้อากาศถ่ายเทได้ยาก เช่น ชุดรัดรูปที่ยาวไปจรดขา (pantyhose) ฯลฯ ควรใช้ชุดชั้นในที่ทำด้วยผ้าฝ้าย ซึ่งจะช่วยซับน้ำได้ดี น้ำระเหยออกไปได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้ไม่เกิดภาวะอับชื้น

2)        หลีกเลี่ยงกางเกงยีนส์
ไม่ควรใช้กางเกงยีนส์ เนื่องจากมีผ้าหนา อากาศถ่ายเทได้ยาก ทำให้เกิดภาวะอับชื้นได้ง่าย ควรใช้ผ้าถุง กระโปรง หรือกางเกงที่มีผ้าค่อนข้างบางแทน

3)        อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลังออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรง มีเหงื่อออก ควรอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้า คำแนะนำข้อนี้คงเน้นสำหรับฝรั่ง เพราะฝรั่งบางคนไม่ชอบอาบน้ำ โดยเฉพาะเวลาอากาศหนาวเย็น

4)        เช็ดตัวให้แห้ง
หลังว่ายน้ำหรืออาบน้ำควรเช็ดตัวให้แห้งสนิท เพื่อลดภาวะอับชื้น

5)        หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด

6)        หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาดับกลิ่นหรือน้ำหอม
ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาดับกลิ่นหรือน้ำหอมบริเวณช่องคลอด

7)        รักษาสุขภาพ
การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบทุกหมู่ โดยเฉพาะให้ได้ข้าวกล้อง ถั่ว งา ผัก และผลไม้ทุกวัน ศึกษาหาวิธีจัดการกับความเครียด

8)        กินโยเกิร์ต
โยเกิร์ตมีเชื้อแบคทีเรียท้องถิ่นที่ดีกับสุขภาพ เปรียบคล้ายเจ้าบ้านที่ดี หรือเป็น “รปภ.” ประจำทางเดินอาหาร ช่วยไปแย่งอาหารเชื้อโรคอื่นๆ ทำให้แบคทีเรียที่ก่อโรค และเชื้อราลดลง เมื่อเชื้อราทางเดินอาหารลดลง โอกาสติดเชื้อราบริเวณช่องคลอดจะลดลงไปด้วย เปรียบคล้ายบ้านที่มีพลเมืองดีช่วยกันเป็นหูเป็นตา ผู้ร้ายจะปล้นจะจี้ก็ทำได้ยากหน่อย

คำแนะนำ:

q       ควรเลือกโยเกิร์ตที่มีไขมันและไขมันอิ่มตัวต่ำ เนื่องจากนมมีไขมันอิ่มตัวสูง ไขมันอิ่มตัวมีส่วนสำคัญในการทำให้โคเลสเตอรอลสูง โยเกิร์ตในประเทศไทยเกือบทั้งหมดใส่น้ำตาลมาก จึงไม่ควรกินเกินวันละ 1 ถ้วย โยเกิร์ตที่ไม่ใส่น้ำตาลมีในชื่อ “Plain Yoghurt (เพลน โยเกิร์ต)”

q       โยเกิร์ตมีกรดแลคติค ทำให้เคลือบฟันอ่อนลงชั่วคราว หลังกินโยเกิร์ตควรบ้วนปากด้วยน้ำหลายๆ ครั้ง ไม่ควรแปรงฟันทันที ถ้าแปรงฟันหลังกินทันทีอาจทำให้เคลือบฟันสึกได้ ควรรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาทีจึงค่อยแปรงฟันด้วยแปรงขนอ่อน และแปรงเบาๆ  

แหล่งข้อมูล:

q       ขอขอบคุณ > www.regardinghealth.com/oll/RHO/2005/11/Article.aspx?bmkEMC=21012 > Stave off yeast infections with self-care strategies >
November 2005. (Lourdes Medical Center of Burlington county, USA).

สาระสุขภาพ...

q       โปรดปรึกษาแพทย์ หรือบุคลากรสุขภาพที่ดูแลท่าน ก่อนนำคำแนะนำไปใช้
โดยเฉพาะท่านที่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงต่อโรคสูง // ขอขอบคุณ //

q       ยินดีให้นำไปใช้ได้เพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า //

จัดทำ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๘

[ภูสุภา]

การใช้แผ่นรองเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่ผ้าอนามัย เป็นประจำก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่เพิ่มปัญหาการติดเชื้อรา บริเวณนี้อย่างขัดเจน ค่ะ

[นพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์]

ขอขอบคุณครับ...