@Moui
ภูมิจิต ศิระวงศ์ประเสริฐ

มาเลเซียในสายตาของฉัน ตอน กฏหมายบังคับหญิงต่างศาสนาห้ามแต่งตัวอุจาด


ลองฟังมุมมองมาเลเซียผ่านสายตาของดิฉันดูบ้างไหมคะ

วันนี้สะดุดตาข่าวหน้าใน ของหนังสือพิมพ์ Post Today หัวข้อข่าวคือ ‘เสือเหลือง’ห้ามคนนอกแต่งเซ็กซี่เจอปรับ5พัน ซึ่งเป็นข่าวที่แปลมาจากหนังสือพิมพ์มาเลเซียที่ชื่อ The Star จากหัวข้อข่าวเดียวกันคือ Women workers outraged by RM500 fine for sexy dressing (ดิฉันขอยึดข่าวจาก The Star ต้นฉบับแทน Post Today ที่พบว่า เมื่ออ่านข่าวจากสองที่ แล้วมี 'sense' ที่แตกต่างกันค่ะ)  

ในข่าวเป็นการกล่าวถึงเครื่องแต่งกายประจำชาติของสาวมาเลย์ (สาวมาเลย์หมายถึง หญิงมาเลเซียนที่เป็นมุสลิมค่ะ) ที่เป็นชุดยาว แขนยาว กระโปรงยาวกรอมเท้า (ถ้าเคร่งจัดต้องใส่ถุงเท้าด้วย) และต้องคลุมผมมิดชิด (คนใกล้ตัวบอกว่า เป็นความเชื่อทางศาสนาที่ว่า ห้ามผมของหญิงสาวต้องแสงแดด - แต่ไม่ยักกะบอกเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเช่นนั้น) ชุดประจำชาติแบบนี้ เรียกว่าชุด tudung ค่ะ

ความน่าสนใจของข่าวนี้มีหลายประการ เป็นต้นว่า

  •  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่รัฐกลันตัน รัฐนี้เป็นรัฐมุสลิมหัวโบราณ เคร่งครัดต่อกฏศาสนาเป็นอย่างมาก ดิฉันเคยไปเที่ยวที่เมืองหลวงของรัฐนี้ คือ เมืองโกตาบารู รู้สึกได้ถึงความเคร่งจริง ที่แตกต่างไปจากรัฐเมืองหลวงของประเทศ คือรัฐสลังงอห์ (เมืองหลวงของรัฐสลังงอห์คือ กัวลาลัมเปอร์ - คนท้องถิ่นออกเสียงเป็น กัว-ลา-ลอม-ปอร์)
  • ปกติชุดประจำชาติ tudung ไม่บังคับว่าหญิงที่นับถือศาสนาอื่นจะต้องสวมใส่ หญิงมุสลิมเท่านั้นที่ถูกกำหนดว่า ต้องใส่ชุดแบบนี้เป็นชุดประจำชาติ
  • ศาสนาอื่น ที่เป็นที่นับถือ นอกเหนือจากมุสลิมได้แก่ พุทธ ฮินดู และคริสต์
  • ผู้นำของรัฐกลันตันนั้น ประกาศให้หญิงสาวที่ทำงานในร้านค้าทั่วไป และในร้านอาหาร จะต้องแต่งตัวมิดชิดรัดกุม โดยมีนัยยะว่า ชุดที่รัดกุมนั้นคือชุดประจำชาติ tudung นั่นเอง
  • ชุด tudung นั้นเป็นชุดที่รุ่มร่าม ดังนั้นในบางอาชีพจึงเป็นชุดที่ไม่เหมาะสมในการทำงาน
  • รัฐอื่นๆ รวมถึงรัฐเมืองหลวงนั้น อะุลุ้มอะล่วยให้หญิงสาว (แม้จะเป็นมุสลิม) แต่งตัวให้เหมาะสมกับอาชีพ ถ้ามีใครไปกัวลาลัมเปอร์ จะเห็นหญิงมาเลย์แต่งชุดไปรเวทเหมือนสาวไทยจำนวนมาก จริงอยู่มีหญิงมาเลย์แต่งชุด tudung แต่หญิงมาเลย์ไม่ได้แต่ง tudung ทุกคนไป บางคนก็ใส่ชุดกระชับรูปร่างด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นสาวจีนมาเลย์ หรือสาวอินเีดียมาเลย์ ก็จะแต่งตัวได้วาบหวิวได้มากกว่าหญิงมาเลย์แท้ๆ
  • กฏใหม่ที่รัฐกลันตันบังคับกับหญิงสาว จะไม่เพียงกระทบต่อหญิงมุสลิม แต่จะรวมไปถึง หญิงพุทธ หญิงฮินดู และหญิงคริสเตียนไปด้วย
  • ซึ่งปกติแล้ว ในมาเลเซีย จะมีตำรวจศาสนา (มุสลิม) คอยทำหน้าที่ตรวจจับชาวมาเลย์มุสลิมที่ทำผิดกฏศาสนาเสมอๆ ตำรวจศาสนาจะไม่ไปก้าวก่ายจับกุม บุคคลที่นับถือศาสนาอื่นโดยเด็ดขาด เพราะผิดหลักรัฐธรรมนูญ
  • แต่กฏหมายใหม่ของรัฐกลันตัน จะไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในการแต่งกายของผู้หญิงนอกศาสนา (มุสลิม) ไปด้วย
  • จึงเป็นเหตุให้มีการออกมาต่อต้านว่า การบังคับให้หญิงทำงานแต่งชุดให้รัดกุมนั้น เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพในการดำรงชีวิตระดับหนึ่ง
  • อนึ่ง กฏหมายนี้ จะใช้บังคับเฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่ในรัฐกลันตันเท่านั้น
  • และนี่จึงเป็นที่มาว่า กับแค่เสื้อผ้า 1 ชุด ทำไมถึงกับต้องออกมาต่อต้านประท้วงกัน นี่ถ้ามาเจอเสื้อพวก SSSS ของไทย ผู้ครองรัฐฯ จะออกมาสั่งตัดหัวกันไหมนี่
  • เสริมเล็กๆ เมื่อหลายปีก่อน ผู้นำรัฐนี้ ก็มาออกกฏหมายประหลาดๆ (ในที่สุด ถูกคัดค้านจนไม่กล้าประกาศใช้จริง) ว่า หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยงามขอให้ไม่ต้องทำงานนอกบ้าน แต่ให้หญิงสาวใบหน้าธรรมดา ได้ออกไปทำงานนอกบ้าน เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะหาคู่ครองได้เพิ่มขึ้น ว่าที่กฏหมายฉบับนี้ ร้อนไปถึง ดร.มหาเธร์ (นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) จำเป็นต้องออกมาเบรค โดยพยายามให้ความเห็นว่า ความสวยนั้นมันสอบวัดเป็นเกรดยาก ต่างไปจากการสอบวัดผลอื่นๆ ระดับความสวยในสายตาของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน กฏหมายฉบับที่่ว่า น่าจะทำให้มีปัญหาอย่างมากต่อผู้หญิงกลันตันทุกคน (ในความคิดดิฉันนะคะ ถ้ามีกฏหมายนี้จริง ดิฉันจะไม่ออกไปทำงานนอกบ้านเลย เพราะดิฉันถือว่าดิฉันเป็นผู้หญิงสวยนี่!)

ปล. สายตาดิฉันอาจจะไม่ใช่สายตาอย่างคนอื่น ความเห็นบางประการก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล 
ไม่มีกฏเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์มาเป็นตัวบ่งชี้ได้ ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
หมายเลขบันทึก: 65644เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2006 23:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 17:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • แวะมาขอบคุณและมาอ่านครับ
  • ดีใจที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • เป็นกฎหมายที่แปลกมากค่ะ และจะออกแนวขัดสิทธิมนุษยชนด้วยค่ะ

คุณขจิตคะ ยินดีต้อนรับสู่ blog นี้ค่ะ ดิฉันเป็นคนขวางโลก บางทีคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนขาวบ้านเค้าน่ะค่ะ บางทีเหมือนดี แต่บางครั้งผู้ใหญ่ก็รับไม่ค่อยได้

คุณดวงเด่นคะ เรื่องของสิทธิมนุษยชนในมาเลเซียเนี่ย ไม่ต้องไปพูดถึงดอกค่ะ ดิฉันรับทราบ ได้อ่านข่าว ได้รับรู้จากปากคนที่นั่นเสมอๆ คนที่นั่น ถูกบังคับจนเคยชิน จึงอาจจะยอมรับเรื่องที่เป็นการริดรอนสิทธิส่วนบุคคล ได้ง่ายดายเกินคาดค่ะ

อ่านแล้วได้เรียนรู้ประเทศเพื่อนบ้านครับ

1241228836_m

727850228_m

          I Am Terror

เป็นกฎหมายที่ดีมาก ถ้าให้ดีกว่านั้นต้องไม่ใช้กฎหมายบังคับ แต่ทำตามกันทุกคน

ร่วมขบวนการ"ไร้การก่อ"กันเถอะ

  •  
    • โดยส่วนตัวแล้วดิฉันไม่แน่ใจว่าคุณรู้จักอิสลามมากแค่ไหน  และคุณเข้าใจพอที่จะแยกแยะคำว่าิอิสลาม มุสลิม และมลายูรึเปล่า 
    • แต่จากที่อ่านงานเขียนของคุณมา  สิ่งที่สะท้อนออกมาอย่างเห็่นได้ชัดคือ ความมีอคติที่คุณใส่มันลงไปด้วย  
    • ดิฉันเป็นมุสลิมที่เคร่งครัด(อย่างมีความรู้)และopen minded พอสมควร 
    • ดิฉันเรียนและศึกษาทั้ง islamic study และ muslim studyมาแล้ว ดิฉันเกิดและเติบโตมาในพื้นที่3จว.ชายแดนได้ มีความผูกพันและสัมพันธ์กับ malaysia โดยสายเลือด(สัญชาติ)
    • ซึงทุนทางความรู้/ภูมิปัญญา ทุนทางสังคม และต้นทุนทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ดิฉันมีอยู่และสั่งสมมามันมากพอที่จะบอกได้ว่าสิ่งที่คุณแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นมานั้นมันไม่ถูกต้องซะทีเดียว
    • ดิฉันเข้าใจค่ะว่างานเขียนของคุณเป็นการแสดงความคิดเห็นในสิทธิส่วนบุคคลแต่ที่คุณทำลงไปได้ส่งผลกระทบค่อนข้างมากนะคะ เพราะสร้างความเข้าใจที่คาดเคลื่อนต่อคนอื่นๆ ที่เป็นคนต่างพื้นที่และต่างศาสนาต่างวัฒนธรรม
    • ในความเป็นจริงแล้วรัฐกลันตันเป็นรัฐที่คนในพื้นเคร่งครัดในศาสนาอิสลาม  แต่่นั่นก็ไม่ได้มากไปกว่าคนในพื้นที่สามจว.ชายแดนใต้ของไทยเลย
    • หากคุณคิดอย่างใคร่ครวญตรึกตรองโดยปราศจากอคติแล้วคุณจะพบว่าการแต่งกายอย่างมิดชิดรัดกุมตามแบบฉบับของศาสนาอิสลามนั้นมีแต่ส่งผลดีดีค่ะ เพราะมันช่วยปกป้องความบริสุทธิ์ของสตรีจากการถูกรบกวน ถูกระรานทั้งทางความคิด คำพูดและการกระทำจากบุรุษเพศ
    • ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะคะว่าทำไมประเทศไทยถึงมีข่าวคุกคามเกียรติ และความบริสุทธิ์ต่อสตรีอยู่บ่อยๆ เป็นข่าวหน้าหนึ่งไม่เว้นวันทั้งข่าว ข่มขืนผู้หญิง/เด็ก คลิปแอบถ่าย ฯลฯ ซึ่งดิฉันคิดว่านี่ต่างหากที่เป็นการคุกคาม กดขี่เกียรติ์และสตรีเพศอย่างแท้จริง
    • และก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะที่กลันตันเป็นเมืองที่ค่อน้างสงบสุขมีข่าวอาชญากรรมที่กระทำในเชิงล่วงละเมิดต่อสตรีน้อย
    • "ถ้าเคร่งจัดต้องใส่ถุงเท้าด้วย".....อิสลามกำหนดให้สตรีมุสลิมสวมถุงเท้าเมื่อออกไปยังที่สาธารณะเพราะเท้าเป็นเอารอฮฺ(อวัยวะพึงสงวน)  สตรีุมุสลิมถูกกำหนดให้ปกปิดร่งกาย/อวัยวะทุกส่วนยกเว้นใบหน้าและฝ่ามือเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเิกิดขึ้นกับเธอค่ะ
    • "ต้องคลุมผมมิดชิด (คนใกล้ตัวบอกว่า เป็นความเชื่อทางศาสนาที่ว่า ห้ามผมของหญิงสาวต้องแสงแดด - แต่ไม่ยักกะบอกเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเช่นนั้น) " ...........อิสลามเป็นศาสนาที่มีเหตุมีผลค่ะ สาเหตุที่อิสลามสั่งใช้ให้สตรีปกปิดเส้นผมของตนเองต่อคนอื่นๆที่ไม่ใช่มะฮ์รอม*ก็ด้วยเหตุผลเดียกันคือเพื่อปกป้องความสวยงามของเธอไว้  ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ที่นำไปสู่การถูกคุกคามทางเพศ ไม่ใช่อิสลามไม่บอกเหตุผลหรอกค่ะ  แต่คุณไม่รู้เองต่างหาก
    • ดิฉันอยากให้ทุกคนบริโภคสื่ออย่างมีสติ และใช้ความรู้ ใช้เหตุผลมากกว่านี้ค่ะ
    • หากเราไม่ยอมทำความเข้าใจคนอื่น ภายใต้มุมมอง/กระบวนทัศน์(paradigm)ของเค้าดูบ้าง  เราก็จะไม่มีวันเข้าใจ(คนอื่น)ซึ่งกันและกันหรอกค่ะ
  • เรียนคุณมินิซีแย

     

     

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท