ช่วงสุดท้ายที่ไม่น่าจะขาดได้ของการจัดการความรู้ ก็คือ AAR
ช่วงนี้ คุณศรีวิภาดำเนินการ ด้วยอิงประเด็นที่อยากจะรู้ว่า FA Note taker สมาชิกกลุ่ม และผู้สังเกตการณ์ คิดอย่างไรต่อการทำกระบวนกลุ่มเช่นนี้ ก็ได้ข้อคิดเห็นมาว่า
ตัวแทน FA
- คิดว่าต้องใช้ skill เยอะมาก และต้องมีสมาธิมากๆ ในการฟัง
- บางทีเราก็อยากรู้เรื่องที่เขาเล่า ก็ฟังเพลินไป
- ต้องรู้จักจับสิ่งที่เขาพูด และตี scope ว่า อะไรเป็นเทคนิค และอะไรเป็นความรู้ ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ อาจจะต้องทำอีกหลายครั้ง
- ยากตรงที่จับประเด็นที่แต่ละคนพูด
- พอฟังเรื่องแล้ว ก็ต้องคิดถึง Goal ของคนที่เล่าต่อว่า เขาจะเล่าเรื่องต่อไปอย่างไร เพราะเราต้องตั้งคำถามกับเขาตลอด
- ค่อนข้างเหนื่อยที่จะตามประเด็น
- ได้เรียนรู้วิธีการตั้งคำถาม ว่า ควรใช้คำถาม ... เพราะอะไร ทำไมจึงทำอย่างนี้ เพื่อที่จะ หา how to
- เรียนรู้ทักษะของการชื่นชม
- FA ก็ต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้า
Note taker
- เหมือนถูกตีกรอบให้ทำอะไร
- เรียนรู้ว่า เหมือนวิธีบันทึกของงานวิจัยเชิงคุณภาพ
- KM คือ การหาความคิด เทคนิค และได้เรียนรู้จากในกลุ่มที่ค่อนข้างชัดเจน
- คิดว่า ความสำคัญอยู่ที่หัวปลา บางประเด็นไม่ต้องทำก็รู้อยู่แล้ว เพราะว่า มันเป็น Ideal
- พยายามจดในทุกอย่างที่เขาเล่า
- ค่อนข้างเครียด
- ต้องมีสมาธิที่ดี ไม่ควรใส่ความคิดตัวเองเข้าไป
- ยากตรงที่เวลาเก็บประเด็น ไม่รู้ว่า สิ่งที่เราไม่ได้เขียนนั้น จะสำคัญหรือเปล่า
- จดไม่ค่อยทัน ถ้ากลุ่มพูดเสียงเบา เราก็จะเริ่มหลุด
- มีกลุ่มอยู่ใกล้ๆ กันมาก ก็จะมีเสียงรบกวน ทำให้เสียสมาธิง่าย
สมาชิกกลุ่ม
- ฟังไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ฟังไปสักพักก็รู้ว่า ต้องฟังอย่างตั้งใจ และมาคอยช่วยสรุปกันในตอนท้าย
- ได้รับความรู้ อย่างมีระบบจากการที่ได้คุยกัน
Observer
- เริ่มเล่าครั้งแรก ก็ไม่ค่อยมีคนถาม นั่งฟังกันเรื่อย พอคนที่สาม ก็เริ่มมีคำถามมากขึ้น
- ทุกคนยังไม่ค่อยรู้ถึงหน้าที่ในการทำ ยังเข้าใจไม่ชัดเจนนัก
- กะคำถามเพื่อให้ได้ประเด็น คือ ใช่หรือไม่ ได้อะไร
- ชื่นชมคนที่เล่าเรื่องที่ประทับใจมาเล่าให้ฟังทีละเรื่อง เพราะถ้าเล่าหลายเรื่อง มันจะไม่ได้ถึง How to
- เห็นใจคนจด เพราะว่าต้อง note ตามคำพูดที่เขาพูดทุกคน
วิทยากร
- วิทยากรช่วยทำให้ FA รู้ว่า จะต้องทำหน้าที่อะไร เป็นแนวช่วยเสริม แต่ไม่ได้เข้าไปมากนัก
และสุดท้าย คุณศรีวิภาได้เพิ่มเติมในการเรียนรู้การเป็น FA Note taker สมาชิกกลุ่มไว้ว่า
- ทุกครั้งของการเล่าเรื่อง ต้อง check กลับไปที่หัวปลาให้ได้
- ไม่พยายามไปสรุปคำพูดของเขา ต้องโยนมาให้กลุ่มช่วยกันคิด เพราะว่าเราต้องการ tacit ที่ออกมา
- Note ต้องเขียนตามประเด็น
- สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ปัจจัยแห่งความสำเร็จ แต่อยู่ที่เรื่องเล่า เพราะว่าจะมีความหมายของรายละเอียดความรู้อยู่ในแผ่น ที่ Note taker จดไว้
- ถ้าเรานำกลับไปพิมพ์ และมาอ่าน เราก็จะรู้ได้ว่า อ๋อ เขาทำอย่างนี้นี่เอง เขาถึงประสบความสำเร็จ ต้องทำวิธีนี้ พูดอย่างนี้ tricks แบบนี้นะ สิ่งนี้จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง
- ถ้ามีวิธีการแอบ Note ไว้เพิ่มเติม ถ้าเป็นศรีวิภา จะขีดเส้นใต้ หรือทำดาว เพื่อที่ว่าจะมาเชื่อมโยงการสรุปปัจจัย เพื่อนำมาสู่เรื่องเล่า
- ข้อสรุปทั้งหลายต้องมาจากกลุ่ม ช่วยกันแก้ปัญหา และคุยให้ได้เป็นข้อสรุปของกลุ่ม
- ควรสร้างกติกากลุ่ม เช่น เริ่มด้วยการอ่านตำรา เตรียม FA และ Note taker
- ถ้าลองไปอ่านเรื่องเล่าของเพื่อน จะทำให้เห็นบรรยากาศว่าต้องทำอย่างไร
- KM ไม่ทำไม่รู้ ลองดูเถอะค่ะ
- บางทีมี Note taker 2 คน เพราะเขารู้ว่า ทำไม่ไหว
- ถ้า Note taker กับ FA เชื่อมโยงกันได้ก็สุดยอด