ฝ่ายพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน มีโครงการร่วมกับช่วงชั้นต่างๆ ในการพัฒนาบุคลากรจาก "ครูผู้สอน สู่ครูผู้สร้างความรู้ และแรงบันดาลใจในการเรียนรู้" ให้กับผู้เรียน
โครงการนี้จัดขึ้น ๒ ครั้งด้วยกัน โดยในครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ และครั้งหลังจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ ของเดือนเดียวกัน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรทั้งในส่วนการสอน และส่วนสนับสนุนได้รับทราบแนวทางการเรียนการสอนของโรงเรียน ได้วิธีคิด/วิธีการ ในการมองเด็ก ตลอดจนได้เห็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มวิชาต่างๆ ผ่านการทดลองปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการขยายประสบการณ์ของกันและกันออกไป
เพลินพัฒนามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะจัดการเรียนการสอนที่เอื้อให้ผู้เรียนได้คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้ด้วยตัวเองเป็น และแก้ปัญหาเป็น ในขณะเดียวกันก็มุ่งสร้างให้กระบวนการทำงานของครูและบุคลากร ก่อให้เกิดการเรียนรู้แก่ผู้ปฏิบัติด้วย
แต่การทำงานแบบ"เรียนรู้ไปบนหน้างานจริง"ของแต่ละคนที่เกิดขึ้นทุกๆวันนั้น ก็ยังไม่ทันต่อความต้องการในการพัฒนาคนและพัฒนางาน เพราะเด็กเติบโตขึ้นทุกวัน (และชื่อของพวกเขาคือ"วันนี้") ทางโรงเรียนจึงต้องจัดโครงการพัฒนาครูขึ้น
ช่วงของการตั้งสายตาเพื่อมองดูเด็กแต่ละช่วงวัยอย่างละเอียด นั้น โรงเรียนได้รับความกรุณาจากคุณครูต้อย-สุวรรณา ชีวพฤกษ์ มาช่วยเป็นวิทยากรให้ คุณครูต้อยสนใจการพัฒนามนุษย์ในแนววอลดอร์ฟ ที่สไตเนอร์ คิดขึ้น ซึ่งเป็นการมองมนุษย์ด้วยความเข้าใจอันละเอียดอ่อน ที่ครูทุกท่านน่าจะเอาเยี่ยง แต่ไม่จำเป็นต้องเอาอย่าง
การนำวิธีมองมนุษย์ของวอลดอร์ฟมาแสดงให้ครูได้เห็นก็เพื่อที่ครูจะได้เข้าใจว่าเด็กในแต่ละช่วงวัย มีจิตวิญญาณ และอาหารของวัยที่แตกต่างกันไปอย่างไร และหากเราจะมองเขาอย่างที่เขาเป็น ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แล้ว เราจะได้เห็นอะไรจากจุดสังเกตการณ์นั้นอีกมากมาย ซึ่งก็เป็นไปตามหลักของพุทธศาสนาที่มองเห็นสิ่งต่างๆ ว่าเป็นการประชุมกันของเหตุและปัจจัย
เมื่อครูมองเห็นเหตุและปัจจัยตามความเป็นจริงที่เกิดแล้ว ก็จะเกิดความพยายามในการมองหาหนทาง และวิธีการที่จะมาช่วยกันพัฒนาให้เด็กๆได้เติบโตเต็มตามศักยภาพขึ้นได้เอง
ตอนหน้าจะมาเขียนเล่าให้ฟังว่าคุณสไตเนอร์มองเด็กแต่ละช่วงวัยเอาไว้อย่างไรค่ะ
สวัสดีคะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ คิดถึงและห่วงใย