มีคำกล่าวว่า "ชีวิตของเราจะเป็นไปอย่างไรก็แล้วแต่เราจะคิดอย่างไร" ผู้ที่มีความคิดดี ทัศนคติดี ย่อมจะได้รับสิ่งที่ดีจากความคิดนั้นด้วย โดยส่วนใหญ่คนเรามักจะมีความคิดอยู่ 2 ด้าน คือ ด้านบวกและด้านลบ และมักจะคิดในด้านลบเสมอ จนกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุข อ.เปลื้อง ณ นคร ได้แนะนำไว้ว่า
1. อย่าเห็นว่าตนเองเป็นคนอาภัพ อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคร้าย เพราะการคิดเช่นนี้เป็นการคิดในแง่มุมเดียวเท่านั้น ทำให้มีแต่ความทุกข์
2. อย่าคิดอิจฉา ริษยา เพราะการคิดอิจฉา ริษยา เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี แล้วนึกถึงว่าตัวเองถึงไม่ได้ดีเช่นเขา ยิ่งทำให้เกิดความขมขื่นใจและเป็นการตอกย้ำความคิดด้านลบ
3. อย่าวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในทางไม่ดี เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ หรือนินทาว่าร้าย เป็นยาพิษที่ย้อนกลับมาทำลายตนเองโดยไม่รู้ตัว ทุกครั้งที่ให้ร้ายผู้อื่นผลร้ายย่อมตกอยู่กับตน การที่จะทำให้ตนดีขึ้นนั้นต้องคิดและเห็นความดีของผู้อื่นให้ได้
4. อย่าเป็นคนชอบวิตกกังวล เพราะการวิตกกังวลคือความเป็นห่วง ทำให้นึกถึงแต่เรื่องร้ายๆ เรื่องยุ่งยาก
5. อย่าเห็นว่าตนเองต่ำต้อย เรียนรู้อะไรก็ไม่เก่ง หรือคิดแต่ว่าเราคงทำไม่สำเร็จเป็นการลดค่าของตนเอง ให้คิดเสียใหม่ ให้คิดถึงผลสำเร็จในอดีตบ่อยๆ แม้จะเป็นความดีเล็กๆน้อยๆ ก็ตาม ทั้งนี้เพื่อปลุกใจให้มีความคิดในทางที่ดี สร้างความชุ่มชื่นให่จิตใจตลอดเวลา
"หากต้องการใช้ชีวิตที่คุ้มค่ามีความสุขและประสบความสำเร็จ จะต้องปรับความคิดในด้านบวกทันที เพื่อชีวิตวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า"
ไม่มีความเห็น