หลากสไตล์ในตลาดมืด


หลากชีวิต หลายสไตล์ ณ night braza ที่หลวงพระบาง

หลังจากแลกเงินกีบเต็มกระเป๋า และท้องอิ่มจากเอ็นย่างแกล้มข้าวเหนียวแล้ว ฉันและคณะ (ที่มีเพียง 1 คน) ก็เริ่มทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวทันที

  •   ตลาดมืดที่กำลังจัดร้านค้า จากมุมบันไดขึ้นภูสีมองเห็นพิพิธภัณฑ์

หรือวังเจ้ามหาชีวิตได้ชัดเจน

เราเริ่มด้วยการสำรวจสินค้าและราคา เปรียบเทียบกับตลาดเมืองไทย เปรียบเทียบระวห่างร้านค้าที่อยู่ต้นซอยและท้ายซอย ซึ่งครั้งนี้ฉันไม่ถลาเข้าใส่เหมือนตอนมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ฉันมองๆ หาของที่จะเอาไปฝากก๊วนเพื่อนที่ไม่ได้มาประมาณ 10 ชิ้นเท่านั้น

แต่ที่ประทับใจคือความลงตัวในหลากสไตล์ของอาหารการกิน ที่ประทับใจคือเบอเกอรี่ เค้กชอคโกแลตก็นุ่มลิ้นชุ่มด้วยรสชอคโกแลต นอกจากนั้นยังมีเค้กมะนาว เค้กมะพร้าว เค้กแครอท เค้กเผือก เป็นต้น และยังมีคุ้กกี้อีก ซึ่งมีขายในร้านอาหาร+เบอเกอรี่ และรถเข็น ซึ่งราคาขายไม่แพง ราคาชิ้นละ 20 บาทแต่บางชิ้นอาจแพงกว่านั้นขึ้นอยู่กับเครื่องผสม

  •   หน้าตาเบอเกอรี่ที่น่าทาน และรสชาติดี

หลังจากหมายตาเค้กที่จะซื้อกับไปกินที่เฮือนพัก เราก็เดินลัดเลาะหมู่คนและร้านค้าไปหาร้านอาหารมังสวิรัติ ที่ขายแบบบุฟเฟต์ ในราคาอิ่มละ 20 บาท  ซึ่งเคยมีการแนะนำในนิตยสารไทย ไม่แน่ใจว่าเป็น อะเดย์ หรือขวัญเรือน หาไม่ยากเลย ร้านอยู่ต้นซอยข้างวัดใหม่ ก่อนถึงสี่แยกตลาดม้ง อาหารจัดใส่ถาดหลากหลายอย่างให้ผู้ซื้อเลือกตักตามใจชอบ มีผักต้ม มักกะโรนี ผัดหมี่ ข้าวผัด ฯลฯ ได้แต่เสียดายที่อิ่มเอ็นปิ้งเสียพุงกาง ร้านนี้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาตินะ เห็นนั่งกันเต็มเลย

ถัดมาอีกซอยใกล้กับโรงแรมแอนเส็น จะมีซอยเล็กๆ ที่ขายอาหารพื้นเมืองแบบตักใส่ถุง มีแบบอาหารทอด ปิ้ง ย่าง ทั่วไป และอาหารลาว มีทั้งคนลาว และชาวต่างชาติเยอะแยะ ควันไฟ และความหลากหลายชวนให้น้ำลายสอ ไม่ว่าจะเป็นเมี่ยง ปอเปี๊ยะสด/ทอด ซึ่งแม่ค้าบอกว่าวันนี้ยังไม่อุดหนุนไม่เป็นไร หากอยากทาน ให้ตามไปซื้อที่ตลาดเช้าในวันพรุ่งนี้ จริงแล้วเราอยากจะถ่ายรูปบรรยากาศในตลาดมาเหมือนกัน แต่ที่ไม่ได้ถ่ายรูป เพราะเห็นชาวตะวันตกมาถ่ายเอา ถ่ายเอา ราวกับไม่เคยเห็น เราคิดไปเองว่าชาวลาวที่มาซื้ออาหารการกินคงรู้สึกว่าตนเองแปลกพิลึก ที่แค่ซื้ออาหารก็เป็นที่สนใจจนมีคนถ่ายรูป และอีกอย่างบ้านเราคือเมืองไทย บรรยากาศในตลาดก็ไม่แตกต่างเท่าไรนัก  อาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้าง แต่คงไม่ต้องถึงกับถ่ายรูปมาหรอก

ใกล้กับสี่แยกตลาดม้ง ยังมีแม่ค้าตั้งร้านอาหารแบบที่สามารถสั่งแล้วนั่งทานได้เลย เป็นอาหารพื้นเมือง เห็นมีหลายอย่างจำชื่อเรียกไม่ได้ แต่เป็นเส้นและตักน้ำซุปใส่ มีเครื่องปรุงให้ และต้องระวังผงชูรส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องปรุงด้วย

ราคาอาหารที่ตลาดมืดไม่ค่อยแพง หากท้องมีพื้นที่เยอะ ก็สามารถลิ้มลองอาหารได้มากอย่าง

ประมาณกึ่งกลางถนนในตลาดมืด ใกล้กับบันไดทางขึ้นภูสีมีซุ้มกาแฟที่ปรุงกาแฟสดขาย และยังมีกาแฟที่ผลิตในประเทศลาวจำหน่าย บรรจุภัณฑ์สวยงามด้วยนะ รวมถึงมีใบชาหลายชนิดขายด้วย เหมาะเป็นของฝาก

พ่อค้าแม่ขายต่างก็เฝ้าร้านขายของ สักพักจะมีรถเข็นน้ำที่ดัดแปลงใส่อาหารเข็นขาย มีอาหารประเภทเนื้อทอด ซุป (ลาว) ข้าวเหนียวนึ่งขาย เห็นเค้าเลือกซื้อกัน เราเองก็ไปเมียงมอง น่าสนใจแฮะ  คราวหน้าต้องหาเฮือนพักที่มีถ้วยชามให้ จะได้ซื้อไปกินที่เฮือนพักต่อ สำหรับข้าวเหนียวนึ่ง บางทีใช้ข้าวกล่ำ หรือข้าวเหนียวดำ แข็งหน่อยแต่ก็อร่อยดี บางเจ้าใช้ข้าวเหนียวธรรมดานี่แหละ แต่ข้าวเหนียวเมืองลาวเม็ดสั้นและแข็งกว่าข้าวเมืองไทยนะ (แฮะๆ ความคิดเห็นส่วนบุคคลนะ) มองไปมองมาเห็นคนญี่ปุ่นหรือไม่ก็เกาหลี ซื้ออาหารจากรถเข็นเหมือนกันแฮะ

หมายเลขบันทึก: 65336เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2006 20:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท