ศาตราภิชาน ไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ ได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง KM ในบริบทแห่งความเป็นไท เมื่อวันที่ 1 ธค. 49 ในงานมหกรรมความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 3
ศาตราภิชาน ไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ
สรุปเนื้อหาสาระสำคัญ ดังนี้
1. สิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการเมือง
2. สิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
3. สิ่งแวดล้อมทางสังคม
4. สิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยี
ตอนนี้ ในประเทศไทยเรา มีสิ่งแวดล้อมทางสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ 2-3 วันนี้ มีแต่พาดหัวข่าว ฆ่าเด็ก ตกใจเหมือนกัน คนยุคนี้ เป็นอะไรกันไปหมด
การเมืองยิ่งน่าทึ่งใหญ่ อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก พาดหัวข่าว "คนไทย เอาใจยากจริงหรือ" ในข่าวเขียนว่า ใครที่ขึ้นมามีอำนาจ มักบ่นว่า คนไทยใจร้อน เบื่อง่าย สมาธิสั้น ขี้บ่น ถ้าเป็นอย่างนี้จริง น่าจะเป็นปัญหาบุคลิกประจำชาติ
ความเป็นไท คืออะไรกันแน่
1. วิถีไท
- คนอเมริกา ทำอะไร เขาจะรู้ว่า นี่แหละอเมริกันเวย์ แล้ว ไทยเวย์ มีหรือเปล่า
2. คนไทย
- ทำอะไรแบบไทยๆ คนไทยมีความหลากหลายวิถี วัฒนธรรมไทย เป็นอย่างไร มีคนสิงคโปร์ บอกว่า เมืองไทยนี้มีดีทุกอย่าง ยกเว้น มีคนไทย
3. สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติไทย
- มีต้นไม้ใบหญ้า ที่มีอยู่แล้ว
4. สิ่งแวดล้อมที่สร้างขึ้นแบบไทย
- สิ่งที่สร้างขึ้นมา บ้านเมือง วิถีการทำมาหากิน เครื่องมือทำมาหากิน
5. องค์ความรู้เพื่อความเป็นไทย
- ตัวความรู้เป็นบริบท เป็นสิ่งแวดล้อมด้วย ความรู้บางอันก็เป็นสารสนเทศ มีความรู้จะแก้ไขสถานการณ์ได้ เชื่อว่าทุกคนมีความดี ชาว KM ใช้ความรู้เป็นตัวตั้ง ถ้าเอาเงิน เป็นตัวตั้ง คนจะแตกต่างกัน แต่ถ้าเอาความรู้เป็นตัวตั้ง แทนเงิน ทุกคนจะเท่าเทียมกัน
- คนไทย มีการแบ่งชนชั้น ไม่ใช่เฉพาะเงิน คนไทยที่ทำงานใช้แรงงาน จะไม่ค่อยภาคภูมิใจในงานที่ทำ เป็นเสมียน จะรู้สึกต่ำต้อย แต่ในสังคมญี่ปุ่น จะรู้สึกภูมิใจในงานที่ทำ แม้กระทั่งคนทำความสะอาด สังเกตุตัวอย่าง คนเช็ดกระจกที่สถานีรถไฟใต้ดิน ถ้าคนไทย เช็ดกระจก จะอาย แต่คนญี่ปุ่น จะทำด้วยความภาคภูมิใจ เช็ดกระจกด้วยความปราณีตทีละแผ่น เสร็จแล้วใส่กระจกกลับ และโค้งคำนับกระจก ขอบคุณที่มีงานดีๆให้ทำ
ปรัชญาของ สคส. พยายามทำให้ประเทศนี้ เป็นบริบทของเรา ที่ต้องสำรวจตัวเอง เราคิดว่าบริบท 5 อย่างนี้ เป็นอย่างไร เหมือนปลาที่อยู่ในน้ำเน่าทุกวัน จะไม่รู้ว่าไม่ดี เพราะอยู่มาตลอดชีวิต ซึ่งคนที่อยู่ในสภาพอย่างนั้น อาจไม่รู้ตัวว่าไม่ดี
วิถีวัฒนธรรมเปลี่ยนไป เมื่อก่อนมีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน เดี๋ยวนี้มีความหลากหลาย คนไทยนี้แปลก มีการหมั่นไส้คนได้ ฝรั่งไม่มี ประเทศอื่นไม่มี เป็นคุณลักษณะประจำคนไทย
1. ความเชื่อมั่นในเรื่องวิทยาศาสตร์ กับเรื่องอื่นๆ
- เป็นสิ่งท้าทายชาว KM องค์ความรู้ เราจะเชื่อมั่นทางวิทยาศาสตร์ กับไสยศาสตร์ ได้แค่ไหน เพราะว่ามันสุดโต่งไม่ได้ เช่น ครั้งหนึ่ง อะไรก็ได้ที่ขายได้ ตอนนี้เราจะอยู่อย่างไร เป็นลูกตุ้มที่สวิงมาอีกด้านหนึ่ง ต้องมีความพอดีในบางเรื่อง เช่น สคส. ผลงานจะเป็นนามธรรมเยอะ ก็รับได้ จะบ้ารูปธรรมไปทำไม เราต้องมีความพอดีระหว่างรูปธรรม กับ นามธรรม
2. ความถือมั่นในเรื่อง การพึ่งพาตนเอง กับการพึ่งพาคนอื่น
- เคยมีคนเตือนว่า อย่าทำตัวให้เก่ง ถ้าอยากเจริญ บางเรื่องต้องพึ่งพาตนเองให้ได้ มีลุงคนหนึ่ง เป็นช่างไม้ บ้านถูกน้ำท่วม น้ำลด ซ่อมบ้านไม่ได้ บอกว่า เดี๋ยวเขาไม่มาแจกของ เราต้องรู้ว่าเรื่องไหนต้องพึ่งพาตนเอง เรื่องไหนต้องพึ่งพาคนอื่น
3. ความยึดมั่นในเรื่อง ความมั่นคง กับการเปลี่ยนแปลง
- เจอการเปลี่ยนแปลงตลอดไม่ได้ จะไม่มั่นคง
คนที่ Early Retire ความรู้มันตามออกไปด้วย เช่น ช่างชลประทาน สร้างเขื่อน มีความรู้เทคนิค การดูเขื่อนที่ร้าว รู้เลยลึกลงไป 30 ซม. จากผิวน้ำ สามารถชี้ได้ว่า ร้าวตรงนี้ ตอนนี้ช่างเหล่านี้ ออกไปเลี้ยงไก่ชนหมดแล้ว Email ไปถามผู้เชี่ยวชาญที่เมืองนอก เจ้าที่ถูกที่สุด บอกให้จ่ายมา 100 ล้านก่อน จึงจะมาดูให้ เราเริ่มรู้ว่า Tacit Knowledge มีค่า ฝรั่งเรียกว่า ทรัพย์สินทางปัญญา แต่ไทยเราเรียกว่า เอื้ออาทร
การบริหารองค์ความรู้ในบริบทไทย จากการประเมิน สคส. ได้ชี้ให้เห็นว่า วัตถุประสงค์ของการบริหารความรู้ อยากพูดว่า การจัดการโดยอาศัยความรู้เป็นเครื่องมือ มีสิ่งรบกวน 5 ประการ คือ
1. KM ขจัดสิ่งปนเปื้อน รำคาญใจ
- มุ่งส่งเสริมความบริสุทธิ์
2. KM ช่วยลดความแตกต่างระหว่างบุคคล
- การทำให้ความรู้เป็นคน ไม่ใช่ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด
3. KM ช่วยลดความหลงผิด
- มุ่งส่งเสริมความมีวิชชา ขจัดอวิชชา
เช่น ในท้องถิ่น จะมี ภูมิปัญญาชาวบ้าน ความรู้ถ่ายทอดไม่ได้ ต้องสร้างบรรยากาศให้ผุดบังเกิด
4. KM ลดข้อกังขา
- เสริมสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง
5. KM ลดบุคลิกลักษณะที่ไม่ดี
-คนไทยชอบกระทบกระเทียบ เปรียบเปรย ควรส่งเสริมกัลยาณมิตร
บันทีกมา ลปรร.
นันทา ติงสมบัติยุทธ์
5 ธค. 49
ขอบพระคุณมากครับ และขออนุญาตล่วงหน้าเผื่อจะนำไปลิงค์ไว้ในบันทึกนะครับ