โรงเรียนข้างถนน : พลังของภาระทรงเปลี่ยนมาเสริมทัพ


การจับตามองอย่างชื่นชม และกำลังใจในการทำงาน น่าจะดีกว่า การจับตาแบบจับผิดและตำหนิติเตียน เพียงเพราะมีเถียรจิตต์ที่ ไม่ก้าวหน้า หรือคับแคบ จริงมั้ยครับ

     ครอบครัวเร่ร่อนครอบครัวหนึ่งที่อิสรชนเข้ามาทำงานเชิงแนวคิดและเสริมช่วยในการดำเนินชีวิตปกติได้ราว 3-4 ปีและทำงานอย่างลงลึกมาได้ ปีเศษ ตอนนี้ ครอบครัวนี้ พัฒนาตัวเองเข้าสู่การเป็นอาสาสมัครในพื้นที่ สนับสนุนการทำงานภาคสนามที่อิสรชนทำงานอยู่ นับว่าเป็นพลังแรกที่เปลี่ยนจากภาระมาเสริมทัพในการทำงานที่ทำได้จริงและเห็นผลอย่างชัดเจนและชัดแจ้ง 

     เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ใครได้รับอุบัติเหตุ ใครเจ็บไข้ได้ป่วย ใครแปลกหน้ามาใหม่ ใครจะคลอดลูก ครอบครัวนี้ จะแจ้งข่าวเข้ามายังอิสรชน และ เฝ้าดูแลเบื้องต้นก่อนที่เจ้าหน้าที่ของอิสรชนจะเข้าไปถึงพื้นที่ 

     ภาระที่แปรเปลี่ยนเป็นพลังครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ อิสรชนตั้งเป้าหมายไว้ในการทำงานตั้งแต่เริ่มแรก แม้ในระยะต้น จะมีความหวังไม่มากนัก แต่เมื่อผ่านการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง และมีกลุ่มเป้าหมายตั้งใจเปลี่ยนตัวเองจากภาระเป็นพลังในการขับเคลื่อนในการทำงานภาคสังคม  

     หากการทำงานอย่างต่อเนื่องและส่งผลที่ดี จนเปลี่ยนคนที่ รอรับมาเป็นคนที่เริ่มคิดจะให้ และกำลังมีการขยายผลออกไปอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ชื่นชมแล้ว เสียงชื่นชม ควรที่จะส่งตรงไปยังครอบครัวนี้ทันที เพราะอิสรชน เป็นเพียงผู้จุดประกายให้เกิดขึ้น และต่อจากนั้น เป็นศักยภาพและความคิดเพื่อสังคมที่เกิดขึ้นเองจากจิตใจที่ดีของเขาเอง 

     การจับตามองอย่างชื่นชม และกำลังใจในการทำงาน น่าจะดีกว่า การจับตาแบบจับผิดและตำหนิติเตียน เพียงเพราะมีเถียรจิตต์ที่ ไม่ก้าวหน้า หรือคับแคบ จริงมั้ยครับ

หมายเลขบันทึก: 65250เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2006 08:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท