Cutural Interface Design


เมื่อกี้เจอเข้าเต็มๆ บอกคำเดียวว่า อึ้ง! ไม่เก็บมาเล่า ก็คงจะไม่ได้แล้ว

รูปภาพนี้มาจากหน้าหลักของ MSDN คงต้องตั้งคำถามกันสักหน่อยว่ามีเหตุผลอะไรในการนำรูปเท้ามาขึ้นในหน้าหลักของเว็บ

การออกแบบ Interface เพื่อให้เข้าได้กับ users จากหลากหลายวัฒนธรรม (National culture) จะห้ามนำเอาอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายมาใช้เป็นองค์ประกอบ

ในกรณีนี้ webmaster ของ MSDN จะเน้นที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เฉพาะพวก computer geeks เรียกได้ว่า เน้น Professional culture เป็นหลักโดยไม่เน้นเรื่อง National culture เข้ามาเกี่ยวข้อง ดูแล้วรูปมันบ่งบอกถึงความเป็น Individualism สูง ประมาณว่า ฉันคือตัวฉันและฉันแน่

สำหรับดิฉันแล้ว มันบ่งบอกถึง ความไม่เป็นมิตร ไม่น่าเข้าไปร่วมเสวนา ดูเหมือนมีแต่คนที่มี Ego สุดๆ

คำสำคัญ (Tags): #interface#design
หมายเลขบันทึก: 6512เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2005 03:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เพราะอาจารย์มองอย่าง "คนทำงาน"  ใน "วงการศึกษา"  ถึงสื่อที่อาจารย์บอกเองว่าต้องการสื่อไปยัง "computer geeks" ไงคะ

คือถ้าเราเอาพวก label นั้นออกไป  หรือเปลี่ยนมันใหม่  เราก็จะมองเห็นมันอีกแบบน่ะนะคะ คิดว่า

หรือแม้แต่เราเอาหมวกใบใหม่มาใส่เสียเองด้วยล่ะค่ะ 

นี่พูดแบบภาษาพวก "นักคิด" ของวงการวิชาการตะวันตกน่ะนะคะ  ที่เขานิยมมีหมวกกันคนละหลาย ๆ ใบ หลาย ๆ สี

อย่างนั้นมันก็เปลืองเนื้อที่ตู้เสื้อผ้าเหมือนกันน่ะนะคะ  มีหมวกเยอะนี่ ฮิ ๆ

แต่ถ้าแบบตะวันออก  เรามีเกราะกั้นใจไว้อย่างหนึ่ง  ก็อาจมีสิทธิ์เฉย ๆ ได้เหมือนกันน่ะค่ะ

จะลองยกตัวอย่างแบบตะวันตกก่อนก็ได้ค่ะ

เช่น  สมมติว่า  ภาพนี้เป็นภาพ fashion ad ของ Spring Collection ของ Prada ที่อาจจะอยากเจาะกลุ่มคนทำงานด้านกราฟฟิคดีไซน์ผิวดำในทวีปอเมริกาเหนือ

ถ้านี่เป็นโฆษณารองเท้าแนวแฟชั่น ที่จุดขายมันอยู่ที่พื้นรองเท้าเป็นลายจุด ๆ อย่างนั้น  และเจาะกลุ่ม demographic profile หรือ lifestyle อย่างนั้น  ก็อาจจะกลายเป็นเหมาะเหม็งเลยก็ได้ใช่ไหมคะ  สำหรับภาพเปิดหน้าเวบ

ส่วนถ้ามองอย่างตะวันออก  พูดง่าย ๆ เลยก็คือมองอย่างการเจริญสติของพุทธเรานี่แหละ  ภาพใด ๆ มันก็แค่แสงที่ไปตกกระทบวัตถุแล้วมันมากระทบประสาทในการรับรู้ทางตาเราอีกทีนึง

โดยต้องมีใจที่อยากรู้ อยากดู กำกับอยู่

มันจึงจะ "เห็น"  เป็นรูปร่าง นั้น ๆ ขึ้นมาน่ะค่ะ

ถ้าเราสามารถฝึกให้ "เห็นสักแต่เพียงว่าเห็น"  ให้มันเป็นเพียงรูปร่าง โครงร่าง ให้รู้ว่าเป็นรูปของมนุษย์กำลังนั่งทำคอมพ์อยู่  ก็พอแล้ว 

คือพอที่จะรู้ว่านี่เป็นเวบประมาณว่าเกี่ยวกับคอมพ์นะจ๊ะตัวเอง  ไม่ใช่เวบขายขนม

ไม่ต้องรู้ไปด้วยซ้ำว่าเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย  สูงต่ำ ดำขาว ใส่เสื้อสีอะไร

จะว่าไปแล้ว  สิ่งที่เราเห็น  มันก็คือ จุดของแสงต่าง ๆ ที่มาเรียงตัวกันถี่ ๆ ให้เห็นเป็นรูปคุณผู้ชายท่านนั้นนั่งทำงานอยู่แค่นั้นน่ะค่ะ

จุดดำ ๆ เข้ม ๆ ด้านหน้า  รวมตัวกันหนาแน่นหน่อย  ประมาณได้ว่าน่าจะเป็นรูปรองเท้า

เวลาตาเราเห็นภาพ  แล้ว "ใจ" เรานี่แหละ ค่ะ  ที่ไปใส่ "ป้ายคำหลัก" ให้สิ่งต่าง ๆ ที่เราเห็น  แล้วก็ดึงเอา "สัญญา" เก่า ที่เราผนวกควบคู่กับสิ่งเหล่านั้นไว้ด้วยออกมา  โดยที่เรามักจะไม่ทันรู้ตัว

เช่น "การออกแบบหน้าตา interface  จะ **ห้าม** นำอวัยวะต่าง ๆ มาประกอบ"

ถ้าอะไรผิดไปจากนั้น  "ไม่เที่ยง" ไปจากนั้น  เราจะใส่ป้ายคำหลักว่า "ผิด" ทันที

มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปน่ะนะคะ

เพราะถ้าเวบนั้นขายแผ่นที่ใส่ในรองเท้าคัทชู  เพื่อให้เท้าคุณนุ่มเหมือนเดินบนปุยนุ่น  หรือเย็นเหมือนติดแอร์ล่ะคะ

หรือถ้ามีรูป ลูกตา คน อยู่หน้าแรกของเวบที่ให้บริการผ่าเลสิกล่ะคะ?  ไม่ได้หรือคะ?

ความจริงอาจารย์พิชัยเขียนเรื่องนี้ไว้ดีมากเลยค่ะ  แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับประสาทการรับรู้ด้านการได้ยิน

มีสไลด์ที่เกี่ยวกับคลื่นเสียงประกอบด้วยค่ะ

เข้าใจว่าอยู่ในบทความแรก ๆ ของบล๊อก

หาเจอเมื่อไหร่ จะนำมาแปะให้นะคะ

ส่วนหน้าเวบของ MSDN นี้  สามารถเอาไว้ใช้สอนอะไรเราได้หลายขั้นค่ะ  เห็นด้วย

จะสอนกันในเชิงการออกแบบเวบเฉย ๆ ก็ได้  แต่นั่นมันก็ธรรมดาไปน่ะนะคะ  แล้วก็อย่างที่บอก  ไปบอกอย่างนี้กับผู้ออกแบบเวบขายรองเท้า Prada เขาก็คงเฉย ๆ น่ะค่ะ

แต่ถ้าเราอาศัยหน้าเวบนี้  เอาไว้ฝึกสติของเรา  ในกระบวนการ "รับ" และ "รู้"  ในการเจริญสติตามหลักสติปัฏฐาน ๔ แล้ว

ยิ่งฝึกดู  ก็จะยิ่งมีวิทยายุทธแก่กล้าค่ะ  คิดว่าอย่างนั้นนะคะ

เก็บไว้มาเปิดดูบ่อย ๆ ก็ดีค่ะ  บางวันก็อาจแพ้  คือหงุดหงิด  แต่ก็เชื่อว่า  ต้องมีบางวัน  ที่สามารถดูแล้วใจสงบนิ่งเหมือนทะเลยามเช้า ๆ ได้

ลองดูนะคะ 

ถ้าสามารถยิ้มให้กับพื้นรองเท้าของคุณผู้ชายคนนี้ได้อย่างปลอดโปร่งสบายใจ ไม่รู้สึกมีอะไรมารบกวนใจเมื่อไหร่ล่ะก็  ข้าน้อยขอโขกหัวคารวะหนึงทีเลยค่ะ

ด้วยความเคารพ,

ณัชร

อาจารย์คะ,

เอาลิ้งค์ของบล๊อกอาจารย์พิชัยที่พูดเรื่องอย่าปล่อยให้คลื่นเสียงมารบกวนใจมาฝากแล้วค่ะ

มีตัวอย่างภาพคลื่นเสียงของการไอพร้อมอธิบายเป็นอภิธรรมประกอบด้วย น่าสนใจมากค่ะ

ชื่อบล๊อกของอาจารย์เองก็ชื่อ Human-Computer Interaction ไม่ใช่หรือคะ  ออกจะเป็นชื่อที่ชัดเจนให้ความหมายที่เห็นภาพได้ชัดดี

คอมพ์นั้นมันก็เป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น  เราอย่าปล่อยให้หน้าจอคอมพ์มันมาทำให้เราผู้เป็นมนุษย์เสียอารมณ์ไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ เป็นการเสียเวลาเลยค่ะ  สู้นึกขำ ๆ กับมันเสียยังจะดีกว่า

ถ้าอาจารย์เกิดอาการ "อึ้ง" อีก  เมื่อท่องเวบไปเจออะไรเข้าอีกน่ะนะคะ ทดลองถอดแว่นแล้วดูจอใหม่ก็ได้นะคะ  อาจจะได้มุมมองที่ต่างกันออกไป  สนุกดีค่ะ  เห็นไม่ค่อยชัดนี่แหละ 

แล้วจะงงค่ะ  ว่าทำไมฉันไม่โกรธแล้วล่ะ

นี่ล่ะค่ะ  ที่อาจจะทำให้อึ้งกว่า

หรือจะเล่นให้สนุกไปกว่านั้นก็ได้นะคะอาจารย์

เช่น หลับตามันเสียเลย  ถ้าเห็นรองเท้ายันหน้าจออย่างนี้แล้วยัวะ อยากจะยันกลับมั่ง ฮิ ๆ

ก็หลับตาเสีย  หายใจเข้าลึก ๆ แล้วนึกก่อนว่าตอนนี้นั่งท่าอะไรอยู่ (สวยหรือเปล่า) 

แล้วก็ดึงตัวขึ้นไปให้นั่งตรง ๆ ก่อน  ให้เลือดกับอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงสมองให้เยอะ ๆ สบาย ๆ

แล้วก็ลองเอามือยื่นไปคลำ ๆ ที่จอข้างหน้า อย่าเพิ่งลืมตาสิคะ  อย่าใจร้อน

พอรู้สึกว่าเป็นของแข็ง  ก็สังเกตุต่อไปว่า มันเย็น หรือมันร้อน ฯลฯ

บางทีถึงตอนนั้น อาจจะนึกขึ้นมาได้แล้วล่ะค่ะว่า  เราปล่อยให้ก้อนสสารแข็ง ๆ ร้อนๆ ก้อนหนึ่ง  มาทำให้เรากล้ามเนื้อไหล่และคอเขม็งตึง  รวมทั้งหัวใจเต้นแรง หายใจเร็ว อย่างนี้เชียวเหรอ?  โห....

ก็แล้วแต่จะเติมคำในช่องว่างค่ะ  แต่ละท่านย่อมไม่เหมือนกัน

สนุกดีค่ะ  เกมส์หน้าคอมพ์อย่างนี้  เป็นการพักสายตา  และยืดเส้นยืดสายไปในตัว

ดีกว่านั่งจุมปุ๊ก แบกเอาความรู้สึกอยากตั๊นหน้าเจ้าคนออกแบบเวบนั้นไปอีกสักครึ่งชม.เป็นไหน ๆ ใช่ไหมคะ?

เพราะอย่างน้อย   ตอนที่อาจารย์นำภาพและลิ้งค์ของเวบนั้นมาแปะ  พร้อมทั้งเล่าเรื่องราว

ความรู้สึกนั้นมันก็ไม่หายไปไหนหรอกค่ะ

มันก็นั่งเป็นเพื่อนอาจารย์อยู่ข้าง ๆ คอมพ์นั่นเอง

ความจริงนึกไปถึงขั้นสงสารคนออกแบบเวบคนนั้นยังได้เลยนะคะอาจารย์

โถ....ต้องนั่งมองพื้นรองเท้าตั้งนานแค่ไหนเนี่ย  กว่าจะจัดหน้าเวบให้ลงตัวในด้านภาพกราฟฟิค เรียบร้อย สวยงาม

ไม่ใช่ภาพทะเล ท้องฟ้า แม่น้ำ ต้นไม้ สายลม แสงแดด อะไรซะหน่อยใช่ไหมคะ

คิดไปให้ไกลอีกหน่อย  เงินเดือน เงินดาวน์ เขาก็อาจจะไม่เยอะหรอกค่ะ  ทำงานไมโครซอฟท์น่ะ (แน่ะ มีเม้าท์อีก)

อาจจะเป็นเด็กฝึกงานด้วยซ้ำไป

อาจจะเป็นเด็กที่หารายได้พิเศษช่วยพ่อแม่ที่ป่วยหนักอยู่ก็ได้

เห็นไหมคะ  เริ่มสงสารเด็กออกแบบเวบคนนั้นแล้วใช่ไหม

ภาพที่เขาออกแบบ  อาจจะเป็นความต้องการสุดโต่งที่เขาอยากจะหนีจากชีวิตที่เขาเป็นอยู่  เพื่อออกไปสู่ชีวิตอิสระของการทำงานคอมพ์  อย่างที่เขาวาดภาพเองว่า  มันน่าจะเป็นอย่างนายคนในภาพก็ได้ค่ะ

เด็กนักออกแบบกราฟฟิคคนนี้  อาจจะกำลังโหยหาการได้ทำงานคล้าย ๆ อาจารย์ก็ได้

อาจารย์อาจจะเคยเดินชนกับเขาในซูเปอร์มาร์เก็ตทึ่เมืองนอกมาแล้วก็ได้ ตอนที่เขารับจ้างเอาของใส่ถุง

เห็นไหมคะ  คนเราตกเป็นอำนาจของ "ใจ" เราเองทั้งนั้นเลย

ที่แท้ก็แค่จุดแสงบนจอภาพแค่นั้นเอง

รวมทั้งตัวหนังสือนี้ด้วย แหะ ๆ

สวัสดีค่ะ,

ณัชร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท