มีความเข้าใจผิดว่าการออกนอกระบบราชการของมหาวิทยาลัยจะทำให้มหาวิทยาลัยดีขึ้นบ้าง เลวลงบ้าง แพงขึ้นบ้าง วิชาการดีขึ้นบ้าง ผมมองว่าข้อสรุปเช่นนี้เป็นการด่วนสรุป
ผมมองว่าการออกนอกระบบราชการอาจมีผลให้มหาวิทยาลัยดีขึ้นก็ได้ หรืออาจทำให้มหาวิทยาลัยเลวลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับการจัดการของมหาวิทยาลัยนั้นๆ ถ้าจัดการดี มหาวิทยาลัยก็จะดีขึ้น ถ้าจัดการไม่ดี มหาวิทยาลัยก็จะเลวลง
การออกนอกระบบราชการในมุมมองของผม เป็นการออกจากกรอบราชการ ไปสร้างกรอบใหม่ของตนเอง ให้เหมาะสมต่อการทำหน้าที่มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยใดสร้างกรอบใหม่ผิดๆ ก็จะออกนอกกรอบราชการ ไปเข้าป่าเข้าดงไป คือยิ่งแย่กว่าเดิม มหาวิทยาลัยใดสร้างกรอบใหม่ที่ดี แต่จัดการไม่เป็น ก็แย่กว่าเดิม
เราจึงหวังว่า ในกระบวนการออกนอกระบบราชการ มหาวิทยาลัยจะสร้างกรอบใหม่ที่ดีกว่าเดิม และจัดการให้มหาวิทยาลัยทำประโยชน์แก่สังคมได้ดีกว่าเดิม
จุดที่สำคัญคือ สังคมโลกเปลี่ยนไปมาก การมีระบบอุดมศึกษาตามแนวที่มีอยู่จะกลายเป็นแรงถ่วงความเจริญของประเทศ เราต้องการ liberate & diversify สถาบันอุดมศึกษา liberate ออกจากกรอบระบบราชการที่ขึงตึง diversify วิธีการบริหารจัดการอุดมศึกษา และต้องการให้มีสถาบันอุดมศึกษาจำนวนหนึ่ง (ไม่ต้องมาก เพียง ๕ - ๑๐% ของทั้งหมด) ที่เป็นมหาวิทยาลัยวิจัย เน้นหน้าที่สร้างความรู้ให้แก่ประเทศ เน้นสร้างคนระดับปริญญาเอก และหลังปริญญาเอก ให้แก่ประเทศ มีศักดิ์ศรีเคียงบ่าเคียงใหล่กับสถาบันอุดมศึดษาชั้นยอดของโลก ที่จะทำหน้าที่เป็นกลไกสานสัมพันธภาพกับนานาประเทศผ่านระบบวิชาการ หรือระบบวิจัย ระบบสร้างคนระดับปริญญาเอก และหลังปริญญาเอก
ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องการมหาวิทยาลัยที่เกาะติดอยู่กับท้องถิ่น เป็นภาคีเหนียวแน่นอยู่กับท้องถิ่น สร้างความรู้เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สร้างบัณฑิตที่จะดำรงชีวิตพัฒนาท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี มี "ความเป็นเลิศ" ในวิชาการเพื่อท้องถิ่น
การออกนอกระบบราชการของมหาวิทยาลัย จะเป็นผลสำเร็จหรือล้มเหลว ไม่ได้ขึ้นแต่เฉพาะการจัดการของแต่ละมหาวิทยาลัยเท่านั้น ยังขึ้นกับ "การจัดการระบบอุดมศึกษา" ในระดับประเทศ ด้วย ผมมองว่าต้องจัดการแบบ "ล่อเป้า" คือบอกเป้าหลายเป้า ใคร "ยิง" ถูกเป้า ก็เอา "รางวัล" ไป รางวัลมีทั้งชื่อเสียง และเงินทุนสนับสนุน
วิจารณ์ พานิช
๔ ธค. ๔๙
โดยส่วนตัวดิฉันเองในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ ข้าราชการ คนนึงมาสิบกว่าปี ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงสำคัญกับตนเอง และครอบครัวไม่น้อย ดังนั้น ข้อมูลเพื่อตัดสินใจ จึงจำเป็นมาก และข้อมูลที่ต้องการได้รับอย่างถูกต้องครบถ้วน ส่วนหนึ่งจึงเป็นเรื่องของ
ด้วยความเคารพ
แก้มแหม่ม
ผมเห็นด้วยกับข้อความของอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง การบริหารของมหาวิทยาลัยยังเป็นการบริหารที่เกาะติดกับภาพในอดีต เป็นภาพที่เคยชิน จึงไม่กล้าที่ออกจากแนวคิดเดิมได้ หากต้องการที่คิดแบบใหม่ต้องสร้างความเป็นไปได้ เช่นการบริหารที่ตอบโจทย์ของประเทศ ท้องถิ่น ให้ได้ ควรสร้างคนในระบบอุดมศึกษาพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกับมนุษย์ต้องมีการเรียนวิชาความเป็นมนุษย์กัน เพื่อสร้างเส้นทางใหม่ของการจัดการอุดมศึกษา