อาหาร อากาศ อารมณ์ ผู้ทรงอิทธิพลของชีวิต


ผลการทดสอบด้วยตัวเอง (ห้ามอ้างอิง) พบว่า ปีนี้สวยเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อ 5 ปีก่อน แหะ (อิอิ อันนี้คนข้างๆบอกมา) แล้วในแต่ละวันที่ผ่านมาเราทำอย่างไร

     ใกล้จะผ่านไปอีก พ.ศ. นึงแล้ว  เราจึงต้องเริ่มทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิต เพื่อคัดกรองสิ่งดี และไม่ดี  ด้วยหวังจะใช้ชีวิตในอนาคตให้เกิดประโยชน์ สร้างภาระให้ตัวเอง และคนอื่นให้น้อยที่สุด

      ลองทดสอบประสิทธิภาพของตัวเอง ด้วยวิธี 

  • เล่นเกมส์ต่อคำ เกมส์คำนวณตัวเลข จับเวลา
  • ทดสอบประสิทธิภาพของร่างกายด้วยเครื่องออกกำลังกาย วัดความยืดเหยียด วัดฮาร์ตเรต
  • เข้า lab ตรวจค่าระดับสารต่างๆในเลือด โดยเฉพาะตรวจวัดหาระดับสารพิษ (โลหะหนัก) ในเลือด

     ผลการทดสอบด้วยตัวเอง (ห้ามอ้างอิง) พบว่า ปีนี้สวยเพิ่มขึ้นกว่า 5 ปีก่อน แหะ (อิอิ อันนี้คนข้างๆบอกมา) แล้วในแต่ละวันที่ผ่านมาเราทำอย่างไร

     ประเมินตัวเองดูว่า ชีวิตประจำวัน เราอยู่มีผู้ทรงอิทธิพลใดบ้างที่ควบคุมเราอยู่   พบแล้ว !!

  • อาหาร อากาศ อารมณ์ เจ้า 3 สิ่งนี้เป็นเครื่องมือตรวจวัด ประเมิน คุณภาพชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องพึ่งหมอดู ให้เดาอนาคตเลยว่าเราจะมีชีวิตแบบไหน  เพราะ  ถ้าเราอ่านเส้นทางเดินชีวิตตัวเอง จาก 3 สิ่งนี้ เราก็พอจะทำนายได้ว่า เราจะมีความสุข ความทุกข์ แค่ไหน

ได้แบ่งประเภทของ ทั้ง 3 อ. แบบนี้ค่ะ

  • อาหาร  แบ่งเป็น 

         อาหารที่จำเป็นต้องทาน (แต่อาจไม่ชอบ)  ก็พวกอาหารที่ให้พลังงาน วิตามิน แร่ธาตุ สำหรับคนไทยเราก็ไม่พ้น ข้าว แกง น้ำพริก ผัก ก๋วยเตี๊ยว ขนมหวาน ผลไม้ ตามฤดูกาล ราคาไม่แพง  

         อาหารที่ไม่จำเป็น แต่จะทาน (อันนี้ ชอบมาก) คืออาหารประเภทที่เราก็พอจะทราบกันทั่วไปว่าเป็นอาหารที่มีบรรจุภัณฑ์สวยงามทันสมัย ดูสะอาด ทานง่ายๆ ทานได้บ่อยๆ ได้ทุกเวลา ราคาสูงกว่าอาหารที่จำเป็น

        ปีที่ผ่านมาผู้เขียนได้เลือกทานแบบแรกมากกว่าแบบที่สอง ก็ลองเลือกกันดูนะคะว่า แต่ละมื้อเรามีอาหารประเภทไหนเข้าสู่ร่างกายแต่ละวันปริมาณเท่าไหร่  แล้วเราใช้จ่ายเงินใน เพื่อแลกกับอาหารแบบไหนมากกว่ากัน

  • อากาศ  คือ ส่วนผสมของก๊าซต่างๆ และไอน้ำ อากาศมีอยู่รอบตัวเรา แต่มองไม่เห็น ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส

        ใครก็ตามที่เคยวาดฝันอยากนั่งทำงานใน office ที่มีแอร์เย็นๆ และหากคุณได้สมปรารถนานั้นมาเป็นเวลานานแล้ว ต้องอ่านตรงนี้อย่างตั้งใจเลยนะ  "เราทั้งหลายทราบกันหรือไม่ว่า  อากาศภายในบ้าน หรือ สำนักงานที่ใช้เครื่องปรับอากาศ หลายแห่ง มีระดับมลพิษสูงกว่า ตลาดสด (ต่างจังหวัด)   เพราะห้องแอร์ อากาศหมุนวน ไม่ถ่ายเท ใครๆต่างก็หายใจเข้า และออก วนอยู่อย่างนั้น เอาลมหายใจเพื่อนไปฟอกเลือดในร่างกาย จะได้รู้สึกกลมเกลียว สมานฉันท์ 5555

      ทุกวันนี้ คนไทยเลยเป็นโรค "ภูมิแพ้"  กันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะทนอยู่นอกห้องแอร์ได้น้อย เดี๊ยวเหงื่อออก ตัวเหม็น สมองตื้อ เพราะร้อน ก็เลยต้องพากันจ่ายสตางค์ค่าแอร์ และค่ายา หรือวิตามิน รักษาอาการภูมิแพ้  (ฝรั่งรวย)  แต่สำหรับผู้เขียน ปีที่ผ่านมาเปิดแอร์ในห้องทำงานเฉพาะเวลาที่ร้อนมาก และเปิดเฉพาะวันที่มีเพื่อนร่วมห้องทำงานมากกว่า 3 คน (เพราะคนอื่นเค้าร้อน)

  •     อารมณ์   เจ้าตัวนี้ร้ายลึกนัก  มาโดยไม่ตั้งใจ ควบคุมสั่งการยากชะมัด  ตัวผู้เขียนเคยเป็นคนที่ชอบแสดงอารมณ์ ตรงไปตรงมา ทันทีทันควัน ปรู๊ดปร๊าด ชีวิตมีแต่เรื่องด่วนเสมอ (ถ้าไม่ด่วนยังไม่ทำ 555)  

        เคยลองสังเกตดู ระหว่างคนที่ชอบแสดงอารมณ์ กับคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์  ได้พบสิ่งนึงที่ทำให้ต้องคิดหนักคือ คนแบบหลัง จะแก่ช้า หน้าใสตึงเด้ง สีผมไม่ขาวเร็ว กิริยาอาการก็ช้าๆ ดูเฉื่อย เฉิ่ม เย็นชา ไม่สดใสกุ๊กกิ๊ก เหมือนพวกแรก ยิ่งคนที่ทำตัวได้อย่างกับพระพุทธ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครจะคิดจะว่ายังไงก็ช่าง แต่ทำไม๊ ทำไม เค้าถึงดู ไม่แก่ กลับดูมีพลังลึกลับบางอย่างทำให้เชื่อว่าน่าจะมีความสุข สงบ เยือกเย็น กว่าเรามากๆ  มิหนำซ้ำ คนแบบหลัง ถ้าให้พูด หรือแสดงความเห็นแต่ละอย่างละก็ ฉลาด เฉียบคม และลึกซึ้ง กว่าพวกพูดจ้อยๆ แบบเรามากเลย (สงสัยสุ่มเก็บข้อมูล)  

        ก็สรุปว่า ชีวิตในรอบปีที่ผ่านมา ได้ใส่ใจตัวเองเรื่อง อาหาร อากาศ และอารมณ์ มากขึ้นเลยรู้สึกชีวิตเริ่มอยู่ในสภาวะสงบได้บ้าง มลพิษทางสมองก็ลดลง   ก็หวังว่าบันทึกนี้คงจะมีประโยชน์ไว้เตือนตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในวันข้างหน้า  แต่หากใครสนใจก็ไม่ว่ากันค่ะ

 แก้มแหม่ม

คำสำคัญ (Tags): #สุขภาวะ
หมายเลขบันทึก: 64449เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2006 17:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ขอบคุณแก้มแหม่ม ที่แบ่งเล่าความรู้สาระดีๆ สำหรับชาวบล็อกครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท