ร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. . . . . ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในวงการนิติศาสตร์ไทย โดยถือเป็นการร่างกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารไว้ค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวมถึงการเปิดช่องในประเด็นการดำเนินการของเขตเศรษฐกิจพิเศษ เหล่านี้เป็นที่มาของการถามหาวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของรัฐบาลว่าจำเป็นแล้วหรือที่ประเทศไทยจะต้องมีกฎหมายลักษณะดังกล่าวบังคับใช้
ฝ่ายรัฐบาลบอกว่านี่แหล่ะคือกุญแจดอกสำคัญที่จะเป็นตัวไขปัญหาการบริหารกิจการบ้านเมืองต่างๆให้ลุล่วงไปได้
แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่ามันเป็นกุญแจที่จะปิดตายอำนาจอธิปไตยของชาติอย่างชอบธรรม
ดังนั้นจึงควรมองหาว่าอะไรคือจุดสมดุลของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ?
การวิจารณ์ร่างกฎหมายฉบับนี้จะอิงจากฐานข้อมูลหลักที่เสมือนกรอบที่ล้อมรอบตัวร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เองไว้ . . .
ส่วนใดที่เห็นว่าเกิดเลยกว่าที่กรอบจะผ่อนปรนได้ ก็จำเป็นจะต้องมีการเจรจากันว่าจะแก้ไขอย่างไร
ฐานข้อมูลหลักที่จะนำมาประกอบการวิจารณ์หนังสือในวันนี้คือ
(ส่งเที่ยงคืนพอเดีเลย)
เขตเศรษฐกิจแห่งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์
น่าจะเป็นจังหวัดนครนายก เพราะที่นาที่จังหวัดนี้ได้รับการยกเว้นอากร ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีหรืออากรอย่างใดๆ ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากประเทศไทยในรัชสมัยของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ เร่งให้มีการการเพาะปลูกข้าว จึงมีการจูงใจประชาชนให้เข้ามาเพาะปลูกในพื้นที่ดังกล่าว และนี่ก็คือที่มาของชื่อที่ว่า "นครนายก" เพราะหลวงท่านยกค่าอากรให้
นอต
ปล.พอนึกถึงเมืองใหม่นครนายกตามนโยบายของอดีตท่านผู้นำตามองดาวเท้าติดดิน ก็เลยคิดว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษกำลังจะกลับมา ณ ที่เคยเป็นจุดกำเนิดของมัน . . . แต่บังเอิญตอนนี้เท้าของอดีตท่านผู้นำยังเหยียบไม่ติดแผ่นดินไทยเลย . . .