ความสำคัญของปัญหาการทุจริตในทางระหว่างประเทศ
ปัญหาการทุจริตและคอร์รับชั่น เป็นปัญหาที่อยู่คู่สังคมมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน และเป็นปัญหาที่มีอยู่ในทุกกลุ่มชน ไม่ว่าประเทศนั้นจะเจริญก้าวหน้าไปเพียงใด จะแตกต่างกันก็เพียงขนาดของปัญหาว่ามีมากน้อยกว่ากันเท่าใด แต่ไม่มีสังคมใดที่ปราศจากการคอร์รับชั่นโดยเด็ดขาด1 และอาจกล่าวได้อีกว่าปัญหาการคอร์รับชั่น เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย
หลังจากยุคสงครามเย็น ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของนโยบายแบบคอมมิวนิตส์ โดยส่งผลกระทบทำให้การทุจริตขยายตัวอย่างต่อเนื่องไม่ว่าในประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนาก็ตาม ยิ่งในช่วงต่อมาที่เศรษฐกิจแบบเสรีนิยมขยายตัวอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก จึงเป็นการสร้างโอกาสที่ดีในการเพิ่มช่องทางในการทุจริต จากการที่เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น มีการไหลบ่าเข้ามาของธุรกิจระหว่างประเทศ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มเม็ดเงินที่ต้องจ่ายให้แก่การทุจริตมากขึ้นตามไปด้วย และยิ่งไปกว่านั้นคือ มาตรการเกี่ยวกับการค้าเสรี ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการทุจริตมากยิ่งขึ้น
การค้าเสรี และกลไกตลาด เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ส่วนการทุจริตนั้น คือ การทำลายกลไกตลาดอย่างหนึ่ง เช่น การที่บริษัทหนึ่งให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ในการทำสัญญาบางอย่าง ซึ่งเป็นการทำลายกฎเกณฑ์การแข่งขันที่เป็นธรรมต่อผู้ประมูลรายอื่นๆ โดยการทุจริต เป็นการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศชาติอย่างหนึ่งในระบบเศรษฐกิจแบบเสรี เพราะเป็นการเบี่ยงเบนผลประโยชน์ของสาธารณะไปสู่กระเป๋าของกลุ่มคนบางกลุ่มที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการให้เหตุผลสนับสนุนในการต่อต้านการทุจริตขององค์การระหว่างประเทศต่างๆ มีเหตุผลตรงกันว่า การเพิ่มขึ้นของการทุจริต เป็นการทำลายการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ขัดขวางผลประโยชน์ที่แท้จริงที่ประเทศควรได้รับทั้งจากภายในประเทศเอง และจากการช่วยเหลือจากภายนอก และเป็นการคุกคามต่อการให้ความสบับสนุนแก่เศรษฐกิจแบบรากหญ้าจากการช่วยเหลือจากต่างชาติ3
คำว่า ทุจริต ( Corruption ) ตามศัพท์ภาษาอังกฤษนั้น มีได้หลายคำนิยาม แต่เมื่อนำมาวิเคราะห์ แล้ว สามารถมองเห็นคำนิยามรวมกันได้ว่า การทุจริต เป็นการกระทำที่มีลักษณะพิเศษที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล หรือฝ่ายปกครองปฎิบัตหน้าที่ของตนเป็นไปในทางที่ผิด เป็นการทำลายความซื่อสัตย์ในการทำงานปฎิบติหน้าที่ของตน โดยการรับสินบน หรือ สนับสนุน ให้ประโยชน์ ในการใช้หนทางในการทุจริตจากรัฐ หรือ หน่วยงานของรัฐ ถือได้ว่าการทุจริตเป็นหนึ่งในวงจรของรัฐก็ว่าได้ หรือที่เคยมีคำเรียกขานว่าเป็นวงจรอุบาทว์
ในช่วงกลางทศวรรษที่ ๙๐ มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตกันอย่างแพร่หลายโดยองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ทั้ง องค์การสหประชาชาติ(United Nation) ธนาคารโลก ( WORLD BANK ) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ( OECD ) ได้มุ่งเน้นที่ปัญหาการทุจริตว่าเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยในช่วงยุคทศวรรษที่ ๙๐ การพัฒนาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจแบบเสรี โดยจุดประสงค์ของการพัฒนา คือ รายได้ประชาชาติที่เพิ่มที่สูงขึ้น ต่อหัวต่อคน และมีการจัดการทรัพยากรที่ดี โดยในการกำหนดนโยบายดังกล่าว จำเป็นที่จะต้องอาศัยหลักการปกครอง
การคอร์รัปชั่น เป็นปํญหาที่พูดกันอีกร้อยปีก็ไม่มีวันจบ การพัฒนาสู่จุดสูงสุดก้คือการเปิดโอกาศให้มีการคอร์รัปชั่นกันอย่างสะดวกที่สุด การเข้าสู่การค้าเสรีคือการเปิดโอกาศให้ผู้ที่มีโอกาศ(ซึ่งเป็นคนไทยเสียน้อยมาก)ได้หยิบฉวยได้อย่างเสรี โดยเป็นผู้วางกเกณฑ์เสียเองว่านั่นคือความเจริญและถูกต้อง จริงอย่างที่ว่าครับ ไม่มีชนชาติใดปราศจากการคอร์รัปชั่นโดยเด็ดขาด ถ้าเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังสนุกๆ ก็ดีครับ แต่คงแก้ใขอะไรไม่ได้ ถ้าคุณศิริรัตน์ได้มีโอกาศสำผัสกับรากหญ้าอย่างที่ผมเป็นอยู่จะมีโอกาศเห็นในอีกมุมหนึ่ง สดๆ ร้อนๆ ครับ เมื่อวานนี้ มีตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาขอเงินชาวต่างชาติที่เป็น representitive ที่ทำงานอยู่ในเมืองไทย(ที่ได้ทำสัญญาการทำงานในเมืงไทยแล้วแต่ยังไม่เรียบร้อย) โดยขอเป็นรายเดือนๆ ละ 10,000 บาท สิ่งที่ผมทำได้เพียงอย่างเดียวคือ "ทำใจ" และเดินออกไปให้ห่างที่สุด ไม่มีความเห็นอะไรนอกจากเก็บมาเล่าให้ฟังเฉยๆ ครับ ขอบคูณครับ |
ผมต้องการรู้เรื่องเกี่ยวกับการทุจริตของสังคมไทยในปัจจุบัน
และวิธีการแก้ไขปัญหา
.......................โปรดตอบกับด้วยนะครับ
...............................ขอบคุณครับ