โครงการ
พัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์กลางการเรียนรู้
ณ วัดพระปรางค์ ตำบลเชิงกลัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
ดำเนินงานโดยต่อยอดจากฐานทุนเดิมในระยะของโครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข
(สรส.) ภาคกลาง ที่ผ่านมา
ทุนเดิมที่มีอยู่ ได้แก่
กลุ่มคณะกรรมการดำเนินงานพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจำนวน 22 คน
ในพื้นที่ 13 หมู่บ้าน
โดยใช้สถานที่วัดพระปรางค์เพื่อจัดกิจกรรม
นอกจากกลุ่มแล้วก็ยังได้ประสานงานกับส่วนราชการไว้บางส่วน เช่น อบจ.
อบต. สภาวัฒนธรรม ส่วนในระยะนี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ
ความร่วมมือเพื่อพัฒนาสถาบันการจัดการความรู้ท้องถิ่น
จึงได้ดำเนินงานต่อโดยเริ่มเฟ้นหาบุคคล
หรือแนวร่วมเพื่อมาเป็นแกนนำชุมชน
การเริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยที่วัดพระปรางค์มีเทศกาลงานประจำปี
และมีนักศึกษาจากม.ธรรมศาสตร์ ลงมาปฎิบัติงานภาคสนามในพื้นที่
ทางดิฉันกับคณะกรรมการจึงร่วมกับคณะนักศึกษาใช้เทศกาลนี้
ประชาสัมพันธ์การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ ผ่านกิจกรรม "ป่าโป่ง"
เพื่อหาทุนสมทบในการดำเนินงานจัดตั้งพิพิภัณฑ์
ช่วยกันโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในงานทั้งกลางวันและกลางคืน
จากกิจกรรมนี้ทำให้มีคนสนใจ สอบถามถึงความเป็นมา
และเราก็ได้สมาชิกและแนวร่วมเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังทำให้เราได้เห็นถึงความจริงใจและจริงจังของแกนนำที่มีอยู่เดิมที่ให้ความร่วมมือและช่วยกันตลอดงาน
คือท่านเจ้าอาวาสที่ให้ความสะดวกสบาย กำนันพยุง น้าชั๊ว น้าสด น้าฮวง
น้องปราณี ซึ่งพาลูกไปช่วยด้วยอีก 2 คน รวมทั้งคณะนักศึกษาอีก 5 คน
ซึ่งเป็นตัวหลักในการจัดงานครั้งนี้
ทำให้เราผู้เป็นนักจัดการความรู้ท้องถิ่น (นจท.)
มีกำลังใจเพิ่มขึ้น เมื่อเสร็จสิ้นงานก็ยังมีการบอกต่อๆ
กันไปอีก
จากกิจกรรมที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านเริ่มสอบถามกันมากขึ้นเกี่ยวกับการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน
ดิฉันจึงใช้โอกาสนี้จัดกิจกรรมขึ้นมาอีกคือ
กิจกรรมในเทศกาลวันสงกรานต์ ในวันที่มีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ
งานนี้ ผู้นำท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
อบต.จะต้องมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพียง
ทางดิฉันจึงใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์โดยการจัดบอร์ดแสดงกิจกรรมที่ผ่านมาของโครงการฯ
ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ในครั้งนี้
บ่งบอกจุดประสงค์
และประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์อย่างชัดเจน
จากจุดนี้เอง
ทำให้ชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นหันมาสนใจและร่วมกิจกรรมด้วย
เพราะมองเห็นว่าประโยชน์ที่ชุมชนและลูกหลานจะได้รับในภายภาคหน้า
ผลของการประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ ทำให้ นจท.เข้าหา อบต. ง่ายขึ้น
และได้สมาชิก อบต. มาเป็นแนวร่วมอีก คือ ป้ากุหลาบ ซึ่งเป็น
อบต.ของหมู่ 9 ลุงนิคม เป็นอบต.หมู่ 6 และลุงโกศล เป็นอบต.หมู่ 12
แถมท้ายด้วย นายก อบต. คุณเฉลียว ชัชวาลย์
ก็มาเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มด้วย
ช่วงนี้เรื่องการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์กำลังดังเปรียบเสมือนเหล็กกำลังร้อน
เราจึงสร้างโอกาสจัดกิจกรรมขึ้นมาเองอีกครั้ง
เป็นกิจกรรมทอดผ้าป่าสายสัมพันธ์สร้างพิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน
นำโดยพระครูวิริยโสภิต เจ้าอาวาสวัดพระปรางค์ และคณะกรรมการ
ซึ่งเห็นว่า การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ ชาวบ้านควรได้มีส่วนร่วมด้วย
ไม่ว่าจะเป็นด้านปัจจัย สิ่งของ สมอง หรือแรงงาน
จึงให้มีการทอดผ้าป่าขึ้น ( 19 เม.ย. 48) ซึ่งผลปรากฎก็คือ
ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านและผู้นำชุมชนทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่า จากอาหารที่นำมาถวายพระและเลี้ยงคนมีมากมาย
มาจากชาวบ้านที่นำมาด้วยความเต็มใจ
หากคิดเป็นมูลค่าแล้วคงเกือบสองหมื่นบาทเลยทีเดียว
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความเข้มแข็งของชาวบ้านที่มีความศรัทธาต่อการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน
งานวันนั้น นอกจากมีการจัดบอร์ด
แล้วยังมีการทำแผ่นพับแจกเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เพิ่มอีกทางหนึ่ง
เพื่อเป็นการนำไปเผยแพร่ให้กับผู้ที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนั้น
นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่จัดแล้วมีผู้คนมาร่วมงานมากมายเช่นนี้
และที่ดิฉันภาคภูมิใจที่สุดก็คือ ท่านอ.สายันต์ ไพรชาญจิตร์
(จากม.ธรรมศาสตร์) ได้สละเวลามาร่วมงาน ให้คำปรึกษา
และแนวทางในเรื่องของการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ในครั้งนั้นด้วย
ทำให้ดิฉันในฐานะ นจท.
รู้สึกภูมิใจและมีกำลังใจเพิ่มขึ้นที่จะทำงานด้านนี้ต่อไป
จากการจัดกิจกรรม ทั้ง 3 กิจกรรม ทำให้ดิฉันได้แนวร่วม
และสมาชิกเพิ่มเป็น 45 คน รวมทั้งที่ปรึกษาด้วย
นับเป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ฯ
ซึ่งดิฉันอาจจะต้องคัดเลือกเพื่อเป็นแกนนำ
และเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก่อนสัก 20 คน
เพื่อความคล่องตัวในการจัดกิจกรรมการออกแบบการเรียนรู้เพื่อให้ได้ความเหมาะสมและต่อเนื่อง...
โดย ปราณีต นาคะเสโน ;
นักจัดการความรู้ท้องถิ่นตำบลเชิงกลัด
อำเภอบางระจัน
จังหวัดสิงห์บุรี
โครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาสถาบันการจัดการความรู้ชุมชนท้องถิ่น
ไม่มีความเห็น