เย็นวันที่ ๒๘ ตค. ๔๙ ผมมีนัดที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร ไปคุยกันเรื่องการตั้งมหาวิทยาลัยชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทางประชาคมจังหวัดชุมพร ร่วมกับทางรชการของจังหวัดร่วมกันคิด และผลักดัน แกนนำของเขาเคยไปคุยกับผมที่กรุงเทพครั้งหนึ่ง คราวนี้เห็นว่าผมจะมาบ้านก็นัดคุยกัน
จังหวัดชุมพรมีวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษา ต่างๆ อยู่แล้ว ๗ วิทยาเขต เดิมเขาคิดจะรวม ๗ วิทยาเขตเข้าเป็นมหาวิทยาลัยชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ผมแนะนำว่าขั้นแรกต้องร่วมกันคิดให้ชัดเสียก่อนว่า จังหวัดชุมพรต้องการมีมหาวิทยาลัยไว้ทำอะไร คือต้องคิด function ก่อน แล้วจึงค่อยคิด structure ให้สอดคล้องกับความต้องการในการทำ function ที่กำหนด
ผมแนะนำว่า ในการคิด ต้องเข้าใจสภาพของการอุดมศึกษาไทยที่เปลี่ยนไปในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา มีการขยายเชิงปริมาณ จนขณะนี้ที่เรียนมีมากกว่าจำนวนนักศึกษาที่จะเข้าเรียน แต่ที่เรียนจำนวนมาก ไม่ตรงกับความต้องการของผู้เรียน และไม่ตรงกับความต้องการของสังคม หรือท้องถิ่น/ชุมชน การตั้งมหาวิทยาลัยชุมพรฯ เป็นสิ่งที่ดี มีความเหมาะสมที่จังหวัดชุมพรจะมีมหาวิทยาลัยของตนเอง สำหรับไว้ตอบสนองท้องถิ่น แต่ถ้าต้องการมหาวิทยาลัยที่ตอบสนองท้องถิ่นก็ต้องไม่ไปเลียนแบบมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ในกรุงเทพ ต้องคิดเรื่องวิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่จำเพาะของตนเอง และต้องมีวิธีการจัดการที่ทำให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการแบบตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น ในฐานะมหาวิทยาลัยประจำจังหวัด
ก่อนหน้านี้ ๓ - ๔ วัน ผมส่งบทความเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง "ภาคปฏิบัติ" การพัฒนาอย่างบูรณาการทั้งจังหวัด (link) โดย ศ. นพ. ประเวศ วะสี ที่ตีพิมพ์ในมติชนรายวัน วันที่ ๒๒ ตค. มาให้ผู้ที่จะเข้าร่วมประชุมอ่านก่อน เขาอ่านกันแล้วก็ชอบใจ ว่าชักมองเห็นช่องทางชัดขึ้น ผมแจ้งที่ประชุมว่า เมื่อวันที่ ๒๖ ตค. ผมพบ อ. หมอประเวศ และเรียนท่านว่าจะไปคุยกับทีมก่อตั้งมหาวิทยาลัยชุมพรฯ และจะไปขายความคิดเรื่อง มหาวิทยาลัยในรูปใหม่ หรือมหาวิทยาลัยชีวิต ตามที่อาจารย์เขียนลงมติชน ท่านบอกว่าดี และรับปากว่าถ้าทางชุมพรสนใจดำเนินการจริงๆ ท่านยินดีมาพูดให้ฟัง ผู้เข้าร่วมประชุมดีใจมาก สรุปว่ามีแนวโน้มจะจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดชุมพร
อ. หมอประเวศ ฝากไว้ว่าให้ประสานงานกับคุณดวงพร เฮงบุณยพันธุ์ ชาวอำเภอสวี จังหวัดชุมพร กับ ดร. วณี ปิ่นประทีป เพื่อจะได้ทำงานร่วมกัน
การประชุมครั้งนี้ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายพินิจ เจริญพานิช เป็นประธานการประชุม ท่านรองผู้ว่าฯ กับผมเป็นญาติกัน คุณพ่อของท่านคืออาพูนผล ลูกย่าทรัพย์ ย่าทรัพย์เป็นน้องสาวคนสุดท้องของย่าผม - ย่าคุ้ม
ผมมีความสุข ที่จะได้รับใช้บ้านเกิด ได้ช่วยแนะนำให้เกิดมหาวิทยาลัยในแนวใหม่ แนวขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัด ซึ่งถ้าเกิดและดำเนินการได้สำเร็จ ก็จะเป็นนวัตกรรมของอุดมศึกษาของประเทศไทย
วิจารณ์ พานิช
๒๙ ตค. ๔๙
บนรถยนต์กลับกรุงเทพ
ผมเป็นคนหนึ่งที่เฝ้าใฝ่ฝันที่จะมีมหาวิทยาลัยของจังหวัดชุมพร ผมรักการศึกษา รักบ้านเกิด อยากให้เด็กทุกคนเรียนหนังสือ ดีหรือไม่อย่างไร เขาก็ได้เรียนรู้ อย่างน้อยคือฐานกำลัง อีกอย่างหนึ่ง มหาวิทยาลัยฟรี และผู้ที่เข้าศึกษาไม่ต้องสอบเข้า เพียงแต่รับรองได้ว่า ตนเป็นคนดี นี้คือคุณสมบัติเฉพาะ (ได้แต่ฝัน) แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ กับสิ่งที่เราเห็น...ตอนนี้อยากไปดูงานที่โรงเรียนสัตยาไส
ดีใจด้วยครับ
เมื่อไหร่จะสร้างหรอค่ะ อยากให้มีจัง คนชุมพรจะได้เรียนในจังหวัดตัวเองไม่ต้องเปลืองเงินไปเรียนที่ไกลๆ
อยากให้มีมหาลัยในจังหวัดนานแล้วจะได้ไม่ต้องไปเรียนไกลจากบ้านเกิดตัวเอง จะได้อยู่ใกล้ครอบครัว และเด็กจะได้ไม่เสี่ยงต่อการติดยเสพติดเพราะมีผู้ปกครองคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และช่วยลดปัญหาครอบครัวในสังคมให้ลดน้อยลง และเพื่อเพิ่มทางเลือกให้เด็กรุ่นใหม่ได้มีตัวเลือกในการเรียนเพิ่มมากขึ้น ค่ะ