เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นตอนที่แดจังกึมถูกส่งไปอยู่ในสถานที่ห่างไกล ซึ่งแทบถือได้ว่าถูกตัดขาดจากวังหลวง เพราะได้หนีออกจากวังไปช่วยเพื่อน ไปตามหาไก่ทองที่ทำหาย เพื่อมาทำอาหารเลี้ยงฉลองในวัง จากที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในห้องเครื่องมาสิบกว่าปีตั้งแต่เด็ก ได้เรียนรู้การทำอาหารและเคล็ดลับต่างๆ รวมทั้งความฝันที่จะได้เป็นหัวหน้าห้องเครื่องหรืออยู่ในตำแหน่งที่ใหญ่โตในวัง กลับต้องระหกระเหินไปอยู่ยังที่กันดาร ไม่มีความหวังใดๆ ผู้คนที่อยู่รายรอบก็เฉื่อยชา วันๆเอาแต่นอนเพื่อให้เวลาหมดไปเร็วๆ โดยไม่ทำงานทำงานอะไรเลย คนที่แอ็คทีฟอย่างแดจังกึมมีหรือจะยอมรับสภาพนี้ได้ ก็ต้องรู้สึกอึดอัดมากเป็นธรรมดา
หลังจากที่ร้องไห้จนสะใจแล้ว แดจังกึมได้เริ่มชักชวนให้คนงานทั้งหลายปลูกผัก/สมุนไพร ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลัง ด้วยความคิดที่ว่า”อยู่ที่ไหนก็มีความหวังได้ ขึ้นกับว่าเราจะหยุดการเรียนรู้หรือไม่” ในสถานที่แห่งนี้แดจังกึมได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่ต้องปลูก ทั้งประโยชน์และการใช้งาน แถมโชคดีได้พบกับอดีตหมอหลวงที่ถูกส่งมาอยู่ก่อนหน้านี้ เราคงคาดเดาได้ไม่ยากว่าต่อไปแดจังกึมต้องเก่งเรื่องสมุนไพรและการรักษาโรคเป็นแน่หากเป็นเราล่ะ ถ้าเจอสภาพอย่างนี้ เราจะปรับตัวให้เรียนรู้หรือจะเฉื่อยชาตามคนรอบข้างคะ?
เป็นคนนึงที่ดูแดจังกึม คิดเห็นเกี่ยวกับเธอว่า ช่างเป็นคนที่มีใจโอบอ้อมอารี กับผู้คนแม้เธอไม่รู้จัก กล้าความคิดเห็นในสิ่งที่ตัวคิดว่าถูกต้อง ไม่หวงวิชาความรู้ที่ค้นพบ ไม่ตีโพยตีพายเมื่อมีผลของความผิดที่เกิดจากการคิดช่วยเหลือผู้อื่น มีหนังอย่างนี้ดูบ้างก็ดี อย่างน้อยก็สามารถสะท้อนเตือนผู้คน(ถ้าคิดได้) ที่ใช้ชีวิตอยู่กับผลประโยชน์ การเรียกร้องเอาแต่ได้ และคนที่เฉื่อยชาไม่สามารถทำอะไรได้ถ้ามีความไม่พร้อม ต้องมีโน่น มีนี่ถึงทำได้
ดิฉันกำลังเบื่อสภาพแวดล้อมสุด ๆ และกำลังคิดหาทางจะเปลี่ยนที่ทำงาน ขอบคุณที่เขียนให้คิดได้ว่ามันไม่มีประโยชน์อันใดกับความพยามเช่นนั้น หลาย ๆ ครั้งที่เราไม่อยากอยู่ในที่ ๆ เราต้องอยู่ เนื่องจาก แนวคิดและวิธีการดำรงชีวิตที่แตกต่าง มีคนมากมายในสังคมล้วนแต่แตกต่างกันทั้งสิ้น มันอยู่ที่เราว่าจะเรียนรู้ที่จะอยู่และปรับตัวกับสภาพแวดล้อมอย่างไร ที่สำคัญกว่านั้นจุดยืนของเราจะเฉื่อยชาตาม หรือคงมั่นในความเป็นเรา
เมตตา
ขอ share แดจังกึม
ดิฉันเพิ่งจะได้ดูตอนเดียวกับท่านอ.ปรียาภรณ์เล่ามาค่ะ
รู้สึกโดนใจมากๆ เนื่องจากตอนเช้าวันเสาร์ที่ 4 พย 48 ดิฉันเป็นวิทยากรพิเศษ เรื่องการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องของหน่วยงานหนึ่ง ของ ม.ขอนแก่นค่ะ ในการประชุมได้มีการวิเคราะห์ปัญหาของ ตน หน่วยงาน และองค์กร ทำให้มองเห็นว่า 99% คิดว่าปัญหามาจาก รอบตัวไม่ได้มาจากตนเองเลย เช่น งานหนักไม่มีเวลา หัวหน้าไม่ดี สถานที่ไม่อำนวย ค่าตอบแทนไม่ดี ไม่มีแรงจูงใจ
อยากเห็นคนที่มีทัศนคติ เหมือน แดจังกึม สักครึ่งหนึง คงจะทำให้งานพัฒนา HA หลายๆแห่งที่กำลังตั้งไข่ ก้าวไปข้างหน้าได้อยากต่อเนื่องเหมือนที่ตั้งเป้าไว้
ผศ พัชรี เจียรนัยกูร
ที่ปรึกษาศูนย์ความร่วมมือ พรพ.ม.ขอนแก่น (HACC KKU)
ชอบ Full house มากกว่า