เสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2549 (ต่อ)
เวลาที่ UB และ Beijing ใช้เวลาเดียวกันซึ่งจะเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชม. ผมจะต้องออกจากโรงแรมในตอนเย็นประมาณ 6 โมงครึ่ง เครื่องบินออกประมาณ 3 ทุ่ม กว่าจะถึงสุวรรณภูมิคงเป็นเวลาท้องถิ่น (ไทย) ประมาณตี 1 หรือ 01.00 น. ของเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 ต.ค. 49 ผมกำลังลุ้นว่าผ่านวันศุกร์ที่ 13 มาแล้ว ต่อไปคงจะมีแต่เรื่องปกติ ไม่มีอะไรมาทำให้ชีวิตมีรสชาติเป็นพิเศษเหมือนวันวาน
ความจริงวานนี้ถ้าคิดในแง่ดีก็คือเหมือนได้ทุนได้รางวัลให้หลายคนได้เข้าไปเที่ยวใน Beijing ฟรีอีก 1 วันสนับสนุนโดย Air China ตัวผมเองไม่ได้เข้าไปเที่ยวกับเขา ก็ได้มีโอกาสอยู่คนเดียวเป็นเจ้าของโรงแรม (อยู่คนเดียวจริง ๆ) ได้มีโอกาสคิดทบทวนอะไรต่อมิอะไร และเอางานที่ยังคั่งค้างออกมาสะสาง เพื่อทำการบ้านส่งให้ สมศ. ภายใน 2-3 วันข้างหน้า
เวลาประมาณ 16.00 น. ผมกำลังศึกษาเอกสารอยู่ตามลำพังในห้องพัก พลันก็มีเสียงเคาะประตู ผมเปิดประตูออกไปพบเจ้าหน้าที่โรงแรมเป็นสุภาพสตรี 2 คน ยืนถือป้ายบอกให้ผมไปรับประทาน Dinner เวลา 17.00 น. และเวลา 18.30 น. จะมีรถมารับไปส่งสนามบิน ผมงง ๆ กับวิธีการสื่อสารอยู่สักครู่เพราะไม่เคยเจอ แต่ก็เข้าใจและยังนึกชมวิธีการแก้ปัญหาของเขา แต่วิธีที่ดีกว่าน่าจะเขียนบอกกำหนดการทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบแจกเพื่อให้เข้าใจตรงกันจะได้ไม่วุ่นวายตลอดเวลาเช่นนี้
วิธีการสื่อสารของเจ้าหน้าที่โรงแรม
เป็นการยืนถือป้ายบอกเวลาให้ไปรับประทานอาหาร
วิบูลย์ วัฒนาธร
.
ยังดี....ที่ อ. beeman ไม่ทักว่า หน้าคล้ายๆ อาจารย์ท่านหนึ่งที่คณะศึกษาศาสตร์นะครับ...
เพราะ อ.วิบูลย์ คงไม่แค่งง แต่คง ต๊กกะใจกว่านี้...