เมื่อวันที่ ๑๓-๑๔ พ.ย.๔๙ ที่ผ่านมาสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยพี่เกรียงไกร เลขาพันธ์ จัดเสวนาการจัดการความรู้ KM ในโครงการการผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษ ตามยุทธศาสตร์จังหวัด
ผู้เข้าร่วมการเสวนา มีนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบโครงการระดับอำเภอ/ตำบล และเกษตรกรผู้ร่วมโครงการ
เริ่มต้นภาคเช้า ท่านเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราชท่านสุทิน ศรีเผด็จ พบปะให้นโยบายเรื่องของการจัดการความรู้ ท่านได้เน้นให้ จทน.ทำความเข้าใจและฝึกปฏิบัติบ่อย ๆ จะได้เข้าถึงโดยเร็ว และต่อด้วยผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะของกองเลขาโครงการการแก้เมืองนคร ได้เล่าประสบการณ์การทำงานการใช้กระบวนการ KM ในการจัดทำแผนแก้จนเมืองนคร และเพื่อเชื่อมโยงการที่สำนักงานเกษตรจังหวัดมีหน้าที่รับช่วงต่อ หมู่บ้านเป้าหมาย ๔๐๐ หมู่บ้านที่ได้จัดแผนแก้จนแล้ว เพื่อดำเนินการต่อในปี ๒๕๕๐
ภาคบ่าย แบ่งกลุ่มเพื่อสกัดองค์ความรู้จากอำเภอต่าง ๆ ที่มาหลายองค์ความรู้ เพื่อกลั่นกรองเป็นองค์ความรู้ให้เป็นมาตราฐานเดียวกัน แล้วบันทึกไว้เพื่อนำไปใช้ในการผลิตผักที่ปลอดภัยต่อไป แต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร และเกษตรกรผู้ร่วมโครงการ กระบวนการภายในกลุ่ม เมื่อแยกออกมาจากห้องประชุมแล้ว ต่างก็ดำเนินการโดยตกลงกันเองภายในกลุ่มว่าให้ใครทำหน้าที่เป็น "คุณอำนวย" และ "คุณลิขิต" กลุ่มที่ผมร่วมอยู่ด้วยก็เสนอให้ผมช่วยทำหน้าที่เป็น "คุณอำนวย" ในการนี้ผมขออาสาสมัครช่วยการ "ลิขิต" ผมเริ่มทำหน้าที่ตามที่ในกลุ่มให้ความไว้วางใจ โดยแจ้งให้ในกลุ่มทราบว่าเกษตรกรผู้ปฏิบัติจริงนั้นมีประสบการณ์หลากหลาย อยากให้ผู้ปฏิบัติเล่าการปลูกผัก โดยให้เลือกเอาผักชนิดที่ตัวเองชอบปลูกเล่าให้ฟัง ว่าตั้งแต่เริ่มคิดปลูกนั้นทำอย่างไรบ้าง ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการคอยเสริมจากประสบการณ์ที่พบเห็น
ผมสังเกตพฤติกรรมของเกษตรกรแต่ละอำเภอ ได้เห็นว่ากระบวนการ KM ในช่วงนี้เหมาะกับการให้ความรู้แก่เกษตรกรมากจริง ๆ เพราะทุกคนมีความสุขกับการได้พูดคุย และความเอื้ออาทรนั้นเห็นได้ชัด ทุกคนพร้อมที่จะให้กับเพื่อนร่วมอาชีพในส่วนของประสบการณ์ที่มี
หลังจากที่แต่กลุ่มสกัดภายในกลุ่มเรียบร้อย ก็มารวมกลุ่มใหญ่นำเสนอองค์ความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนในกลุ่ม โดยทุกกลุ่มให้เกษตรกร "คุณกิจ" ขึ้นนำเสนอยิ่งเห็นความชัดเจนมากขึ้นว่าองค์ความรู้ในตัวเกษตรกรนั้นยิ่งสกัดโดยการให้ได้พูดจะยิ่งออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ และความสุขของเกษตรกรผู้นำเสนอกับผู้ฟังเป็นบรรยากาศที่สนุกสนาน ผมเสียดายมากที่เวลานั้นจวนจะค่ำ อำเภอก็อยู่ไกลๆ กัน จำเป็นต้องรวบรัดเพื่อให้กลับทันถึงบ้านก่อนค่ำเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
ผมสังเกตพฤติกรรมของเกษตรกรในการกระบวนการ KM แล้วเห็นว่า การถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยใช้ KM นั้นได้ผลมากครับ เพราะเป็นการให้ความรู้ที่เขาพร้อมรับ พร้อมแลก พร้อมให้ โดยเห็นในช่วงที่เกษตรกรผู้นำเสนอออกมายืนหน้าบอร์ดนำเสนอนั้นตั้งใจที่จะถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกของเขาจริง ๆ
เรียน อาจารย์ขจิตครับ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ หวังว่าคงได้ F2F ที่งานมหกรรมนะครับ
เรียน คุณน้องสิงห์ป่าสัก
ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมให้กำลังใจยามดึก
คุณชาญวิทย์ ที่นับถือ
เรียน พี่นันทา
เรียน พี่ไชยยงค์
ผมติดตามพี่ชาญวิทย์ มาหลายบท/หลายบล็อกแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาศดีๆ ที่จะได้พบตัวจริงของพี่ชาญวิทย์...สักทีนะครับ.
ขอขอบคุณครับ.
เรียน ผอ.ธุวนันท์ครับ
เรียน คุณวิศว์