เรื่องสั้น : ก้างปลาสลิด


  ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ... เพื่อนของผมคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เขาเลิกกับภรรยาเหตุเพราะก้างปลาสลิดตำคอ.....

   มนูญ เพื่อนสนิทของผม สนิทมากแค่ไหน บอกได้เลยว่าสนิทชนิดแลกดูกระเจีียวกันได้เลยล่ะ แล้วเรื่องกินเรื่องเที่ยวล่ะ ไม่ต้องพูดถึง ประมาณว่าถึงไหนถึงกัน เมาหัวราน้ำแทบทุกวัน ร่ำสุราตั้งแต่หัวค่ำหลังเลิกงานยันสว่างคาตา แบบว่าเห็นพระเดินบิณฑบาตรยังไปนินทาพระอีกว่าเป็นพระไม่รู้จักจำวัดมาเดินเที่ยวในที่อโคจรทำไมอีก

   สิ่งที่ไม่น่าเชื่อต่อมาก็คือมนูญหรือไอ้นูญแต่งงาน ผมไม่อยากเชื่อที่ยังมีผู้หญิงมาหลงรักมันได้อีก มันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ส่วนผมยังเหมือนเดิมและดูจะเลวร้ายกว่าเดิมเพราะเริ่มจะดื่มคนเดียว เมาคนเดียว เพื่อนๆเริ่มตีตัวออกห่างทั้งหน้าที่การงานที่ใหญ่โตขึ้น ทั้งบางคนก็แต่งงานไปมีครอบครัว ต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทางสองทางรวมทั้งไอ้นูญเพื่อนสนิทของผมที่ย้ายไปทำงานที่ฝั่งธนกับเมียสุดที่รักของมัน

   20 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก....

   ต้องขอขอบคุณ LINE Facebook ที่ทำให้ ...รักจริงไม่ติงนัง...มาสมัครเป็นเพื่อนผม ไอ้ผมก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องโพสข้อความหรือคอมเม้นท์อะไรมากมายนัก นอกจากชมรมพระเครื่องกับชมรมคนรักหนังสือเก่า ค้าของเก่า ประมาณนี้ ก็รับเป็นเพื่อนเผื่อจะได้พระดีๆสักองค์ พอเห็นรูปในโปรไฟล์แรกๆก็เหมือนจะคุ้นๆ แต่คำทักทายหยาบๆมาหลังคำขอบคุณที่รับเป็นเพื่อนเท่านั้นรู้เลย ไอ้นูญ เพื่อน เ  ี้..ยๆ เมื่อ 20 ปีก่อน

   มันกลับมาแล้ว หลังเงียบหายไปนาน

   "กูนึกว่ามึงตายแล้ว"

   "มึงเช่นกันยังอยู่อีกเหรอ"

   "ไอ้เ..ี้ ย" "ไอ้.. ัด แม่ม ไม่น่ารอดมาได้ถึงวันนี้นะมึง" 

   คำทักทายที่ไม่รู้หลุดออกมาเป็นภาษาเขียนของผมหรือของมันสลับกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นคำพูดของใคร ด้วยภาษาที่จริงใจของเพื่อนร่วมสมัยในยุค 90 ผ่านไลน์ในยุคปัจจุบัน

   หลังจากนั้นผมก็ได้เจอตัวเป็นๆในวันหยุดวันหนึ่ง   ไอ้นูญหรือตามนามบัตรที่มันเอามาอวด ปัจจุบันคือคุณมนูญ ผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน มีครอบครัวอบอุ่นน่าอิจฉา ภรรยาคนยังคนเดิมที่หน้าที่การงานใหญ่โตกว่ามันอีก ทั้งคู่ครองรักกันในบ้านทาวน์โฮมพร้อมลูกสาวน่ารักคนหนึ่งที่กำลังเรียนในมหาวิทยาลัยดังของรัฐ 

   ชีวิตของมันน่าจะดูดีมากๆเมื่อเทียบกับชีวิตผม ที่ครองความเป็นโสดอยู่คนเดียวในห้องเช่าหลังเก่าๆย่านอุดมสุข ถ้าหากมันไม่หลุดปากออกมาว่า

   "ชีวิตคู่ของกูมันจบแล้ว สงสารแต่ลูกสาวเธอไม่อยากมีชีวิตแบบนี้" ไอ้นูญเสียงเบาลง เบือนหน้าหนีเมื่อเอ่ยถึงลูกสาวสุดที่รัก มือยื่นไปหยิบแก้วเหล้ายกขึ้นดื่ม

    ไอ้นูญเล่าให้ผมฟังว่า หลังผ่านช่วงต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้ได้บ้าน รถยนต์ ลูกให้เรียนที่ดีๆ สิ่งที่ได้มาพร้อมๆกันก็คือหนี้สิน ซึ่งเขาคิดว่ามันธรรมดามากสำหรับครอบครัวขนาดกลางอย่างเขา แต่สิ่งที่ติดตัวเขามาอีกอย่างหนึ่งจะว่าไม่รู้ตัวก็ไม่เชิงเสียทีเดียวก็คือ ความเครียด การย้ำคิดย้ำทำ การมุ่งทำแต่งานเพื่อให้สำเร็จ ให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ชีวิตการทำงานเขาจึงคอยวิ่งตาม KPI อยู่ตลอดเวลา จนลืมดูแลสุขภาพของตัวเอง และสุขภาพของครอบครัว

"กูรักครอบครัวมากเกินไป รักมากก็ทุกข์มาก" ไอ้นูญเปรยเบาๆแล้วกระดกแก้วเหล้าลงคอไป

"ยังดีมึงยังมีความรัก กูอยู่คนเดียวไม่มีความรักใช่ว่าจะไม่ทุกข์"ผมพูดปลอบใจเพื่อนปลอบใจตัวเองด้วย

"แล้วก้างปลาสลิดมันเกี่ยวอะไรกับชีวิต ถึงต้องเลิกลากัน"ผมพยายามย่นเรื่องราวให้สั้นลง

   มนูญเล่าว่าหลังจากหาหมอจากอาการนอนไม่หลับติดต่อกันสองวัน โดยไปทำงานได้เหมือนตามปกติผิดปกติตรงที่จิตใจคอยคิดแต่เรื่องแฟน วิตกกังวลแต่ว่าแฟนจะทิ้งตัวเองไปมีคนใหม่ เห็นภาพจากโทรศัพท์ จากไลน์ จากเฟสบุ้ค ก็หวั่นไหวไปว่าแฟนมีคนที่มาชอบพอ แฟนไปสนใจคนอื่น เพื่อนผู้ชายที่ทำงานมารับมาส่งก็ยิ่งคิดเตลิดไปใหญ่ 

   จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ระเบิดอารมณ์ออกมา หลังทราบว่าเพื่อนชายที่ทำงานมารับแฟนกับหลานชายไปเที่ยวห้าง เขาฟูมฟายร้องห่มร้องไห้ ตัดพ้อตัวเอง แล้วเดินออกจากบ้านไปโชคดีที่คืนนั้นแม่ยายที่มาเยี่ยมกับหลานชาย แม่ยายและลูกสาวที่โทรตามเป็นบุคคลที่ทำให้เขาฉุกคิดได้ เขายอมกลับเข้าบ้านพร้อมอาการเมามายจากการซื้อเบียร์ดื่มระหว่างเดินหนีออกจากบ้าน ผ่านร้านสะดวกซื้อก็แวะซื้อดื่มหมดเจอร้านค้าห้องแถวก็แวะซื้อดื่มจนขาดสติ

    มนูญกินยา Sertaline และยาอื่นๆที่หมอให้กินพร้อมกันนานเกือบปี อยู่ๆก็เลิกกินเขวิ้ยงยาทิ้งหมด มันบอกทรมานกับอาการสลึมสลือที่ต้องกินยา มันบอกมันหายเป็นปกติแล้วสำหรับโรคซึมเศร้า มันไม่อยากถูกใครๆมองอย่างที่เป็นอยู่

   "กูไม่หึงหวงเมียอีกต่อไปแล้ว และยังสงสัยว่าตอนนั้นกูคิดแบบนั้นได้อย่างไร พอนานไปกลับเป็นว่ากูเริ่มเกลียดเมียมากขึ้นๆทุกวัน" ไอ้นูญยกมือกุมขมับท่าทางครุ่นคิด

   มันบอกว่าระยะหลังเมียทำอะไรเป็นที่ขัดใจเขาไปหมด รูปร่างหน้าตาก็เหมือนจะแก่เร็วมาก เข้าห้องน้ำต้องแยกกันด้านบนด้านล่าง นอนต้องหาหมอนข้างมาขวาง กลิ่นตัวก็เหมือนจะเหม็นจนไม่อยากเข้าใกล้ กับข้าวก็ทำซ้ำๆเดิม พอซื้อมาทานก็ซ้ำๆเดิมอีก โดยเฉพาะ... ยำปลาสลิด...

   ไอ้นูญเล่าว่าเมียมันชอบกินยำปลาสลิดมาก และก็จำเป็นต้องกินไปด้วย มีคืนหนึ่งเลิกงานดึกกลับถึงบ้านสามทุ่มกว่า เช่นเคย ยำปลาสลิด ข้าวต้ม มันกินด้วยความหิวแม้จะเป็นอาหารแบบเดิมๆ ความหิวทำให้ก้างปลาสลิดตำคอ จนโมโหเทยำปลาสลิดทิ้งไปพร้อมข้าวต้ม มันโวยวายอยู่คนเดียวโดยไม่ทันคิดว่าเมียเดินลงมายืนดูตั้งแต่เมื่อไหร่   ข้าวต้มเรี่ยราดใต้โต๊ะอาหาร ขวดน้ำแก้วน้ำกระจัดกระจาย หนังสือพิมพ์ที่เอามานั่งอ่านเปียกยุ่ยเลอะเทอะไปหมด

    "กูกลับมากินยาคลายเครียดอีกครั้งแล้วเพื่อน กูเป็นอะไรก็ไม่รู้"ไอ้นูญเริ่มร้องไห้เหมือนเด็ก จนผมต้องลุกขึ้นไปโอบมันไว้

    ผมไม่ซักถามเรื่องราวชีวิตของมันต่อแล้ว เพราะสักพัก เมียของมนูญก็ขับรถมาตาม เธอบอกว่ามันแอบทิ้งยาอยู่บ่อยๆ ไม่ยอมทานยาตามหมอสั่ง ที่ที่เล่ามาทั้งหมดว่าหายจากโรคก็เป็นเรื่องเท็จ มนูญยังต้องกินยาอยู่ต่อเนื่องตามคำแนะนำของหมอ

    "ต้องขอโทษมากๆเลยนะคะ ที่ต้องรบกวนอีกครั้งหนึ่ง"

    "ไม่เป็นไรครับ "

     หลังรถคันนั้นหลับตา ผมนั่งลงดื่มคนเดียวต่อไปในค่ำคืนนั้น

...................

     

   


   

    

หมายเลขบันทึก: 633304เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2017 17:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม 2017 12:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ชีวิต...เปลี่ยน ตามเวลา นะคะ .... รออ่านต่อค่ะ

ผมชอบคำทักทายของคนที่ห่างหายไปจากกันราวใครสักคนแตกดับไปตามชะตากรรม จังเลยครับ

....

"กูนึกว่ามึงตายแล้ว"

   "มึงเช่นกันยังอยู่อีกเหรอ"

   "ไอ้เ..ี้ ย" "ไอ้.. ัด แม่ม ไม่น่ารอดมาได้ถึงวันนี้นะมึง" 

ชอบเรื่องเล่าครับ

มีเกร็ดความรู้มากเลย

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท