การสอนเพื่อพัฒนาการปฏิบัติการพยาบาลอย่างเอื้ออาทร
เป็นความประทับใจเล็ก ๆ แต่ก็รู้สึกอิ่มเอมใจกับผลที่เกิดขึ้นค่ะ และคิดว่าเป็นการสอนโดยบังเอิญที่จะช่วยส่งเสริมความเอื้ออาทรให้กับนักศึกษาที่ขึ้นฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยได้ ที่ต้องบอกว่าเป็นการสอนโดยบังเอิญก็เพราะว่าเหตุที่ทำให้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นไม่ได้มาจากจุดเริ่มต้นของการที่คิดจะสอนนักศึกษาค่ะ
มีอยู่วันหนึ่งขณะกำลังนิเทศนักศึกษาพยาบาลอยู่ที่หอผู้ป่วยของโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ซึ่งแบ่งเป็น 2 ทีม ดิฉันเองรับผิดชอบทีมที่ 1 ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาเย็นเตรียมพร้อมสำหรับการส่งต่อเวร ได้ยินเสียงร้องโอดครวญอย่างทุกข์ทรมานของผู้ป่วยอีกทีมหนึ่ง มองไปก็เห็นว่ามีพยาบาลและนักศึกษาพยาบาลอยู่บริเวณรอบ ๆ เตียงและกำลังให้ความช่วยเหลืออยู่ แต่คิดว่าผู้ป่วยคงยังไม่ทุเลาอาการเพราะยังได้ยินเสียงร้องอย่างทุกข์ทรมานนั้นอยู่ ดิฉันจึงเดินเข้าไปดูด้วยความสงสารเผื่อว่าจะมีอะไรที่พอช่วยเหลือได้บ้าง พบว่าเป็นผู้ป่วยหญิง อายุประมาณ 50 ปี มีสายยางให้อาหารต่อจากจมูกลงขวดอยู่ 1 เส้น มี content สีเขียวเกือบ 1,000 ซีซี ในขวด บริเวณท้องมีแผลปิดไว้ ผู้ป่วยดิ้นไปมาเล็กน้อยบนเตียง สีหน้าเหยเกและร้องครวญคราง พยาบาลที่ดูแลอยู่บอกว่าผู้ป่วยกินอาหารเร็วเกินไปหลังผ่าตัดทำให้แน่นท้องรายงานแพทย์แล้วให้ใส่ NG ต่อลงขวด ดิฉันจึงคิดว่าผู้ป่วยน่าจะมีภาวะ Heart bern เพราะตัวเองเคยมีอาการเช่นนี้เหมือนกันแต่คิดว่าน่าจะน้อยกว่าที่ผู้ป่วยยังเป็นอยู่ จึงเข้าไปพูดคุยสอบถามอาการ ช่วยขยับตัวให้นอนสบายขึ้น และให้คำแนะนำต่าง ๆ ผู้ป่วยทำตามด้วยดี จนกระทั่งผู้ป่วยสงบลง นักศึกษาพยาบาลประมาณ 4 คน ก็ยังคงยืนมองอยู่รอบ ๆ เตียงตลอดเวลา ดิฉันจึงคิดว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นน่าจะเป็นการสอนที่ครูทำให้ดูเป็นตัวอย่างได้ จึงพูดคุยกับนักศึกษาพยาบาลกลุ่มนั้นว่าครูคิดว่าผู้ป่วยมีภาวะ Heart bern การช่วยโดยใส่ NG เป็นวิธีการที่ถูกต้องแล้ว แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งอาการจึงจะทุเลา ถ้าเราได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ป่วยด้วยความใส่ใจและมีความรู้ เมื่อสอบถามอาการใดไปก็ตรงกับอาการที่ผู้ป่วยเป็นเราก็จะให้คำแนะนำกับผู้ป่วยได้ง่าย ผู้ป่วยจะยอมปฏิบัติตาม การจับมือผู้ป่วยไว้ขณะพูดคุยก็เป็นการสัมผัสที่ช่วยให้ผู้ป่วยรับรู้ได้ว่าเรากำลังให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ สิ่งที่เห็นเป็นตัวอย่างหนึ่งของการดูแลด้วยความเอื้ออาทรและช่วยให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกที่ดีขึ้น นักศึกษาจะรู้สึกอิ่มเอมใจที่มีส่วนช่วยผู้ป่วยได้ แม้จะยังไม่ได้เรียนไม่มีความรู้มากพอขอให้มีใจก็ช่วยผู้ป่วยได้ระดับหนึ่งแล้วค่ะ แต่ถ้ามีความรู้ดีด้วยและมีใจด้วยก็ยอดเยี่ยมค่ะ
ยอดเยี่ยมมากเลยครับ ผมคิดว่าการที่ครูเป็นแบบอย่างที่ดีมีผลต่อการเรียนรู้ของนักศึกษามากกว่าการสอนด้วยคำพูด เยอะมาก
คิดว่า อาจารย์รัชชนก คงมีเรื่องมาเล่าให้เราได้อ่านและมีความสุขจากการอ่านเรื่องเล่าอีกนะครับ