ผมปลีกเวลามานั่งบันทึกไม่ได้เสียหลายวัน เพราะต้องเร่งมือปั่นต้นฉบับพ๊อกเก็ตบุ๊คชุดความรู้และประสบการณ์ในโครงการจัดความรู้แก้จนเมืองนคร (นัยว่าจะใช้ชื่อการจัดการความรู้เพื่อชุมชนเข้มแข็งสมบูรณ์และยั่งยืน หรือชุมชนอินทรีย์ แทน ในปี 2550 นี้ เป็นเวอร์ชั่นใหม่ของ KM แก้จนเมืองนคร) เพราะเขาสมมติให้เป็นบรรณาธิการ เพื่อจัดทำหนังสือสำหรับนำไปแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายอื่นๆในงานมหกรรมฯครั้งที่ 3 ที่จะถึงในวันที่ 1-2 ธันวาคม นี้
ผมได้เรียนรู้การทำหน้าที่บรรณาธิการก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรก จะเรียกว่าบรรณาธิการก็กระดากปาก เอาว่าเป็นคนรวบรวมเรื่องราวจากนักเขียนบทความหลายๆคน แล้วจัดลำดับเนื้อหา ดูความสอดคล้องของเรื่องราว ตรวจแก้เนื้อหาบ้าง ดูคำผิด ก็เท่านั้นเอง มากไปกว่านี้ผมไม่รู้ไม่มีทักษะเอาเลย ผมได้รู้เอาจากการลองผิดลองถูก แก้ปัญหาไปตามสถานการณ์ เรียกว่า KM มันพาไปอะไรทำนองนั้นก็ได้ เมื่อได้ลองลิ้มชิมรสของการทำหน้าที่นี้แล้วทำให้ผมได้รู้ว่าการทำหน้าที่นี้ไม่ง่ายเลย ต้องเป็นนักประสานสิบทิศจริงๆ ไม่ง่ายเลยกับการที่แต่ละคนบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาเขียนรวมทั้งตัวผมเองด้วยที่มีเรื่องที่จะต้องจัดการมากเหลือเกินในช่วงนี้ (กำหนดว่าจะประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน 2 ครั้ง แต่ในที่สุดก็ประชุมกันได้เพียงครั้งเดียวเนื่องจากเวลาว่างไม่ตรงกัน) ไม่ง่ายเลยที่บางท่านเมื่อเขียนไปบ้างแล้วท้อแท้ไม่อยากเขียนต่อไปแล้ว ซึ่งผมก็จะต้องโทรให้กำลังใจ ไม่ง่ายเลยที่จะสื่อสารถึงกันให้รวดเร็วทันใจให้ได้ในยามที่จะต้องทำงานแข่งกับเวลา (นึกถึงประโยชน์ของบล็อก เว็ป gotoknow ขึ้นมาตะหงิดๆ ) เหตุประการหลังนี้แหละครับผมจึงตัดสินใจพักการเขียนบล็อกไปอาทิตย์หนึ่งพอดี วันนี้ส่งต้นฉบับโรงพิมพ์แล้ว ก็มานั่งเขียนบันทึกได้ตามปกติ แต่ก็ไม่ปกติเท่าไหร่ครับเพราะต้องมาลุ้นต่อว่าโรงพิมพ์ที่รับงานจะพิมพ์ทันกำหนดหรือเปล่า
ออ! เกือบลืมบอกชื่อหนังสือครับ หนังสือชื่อ นครศรีธรรมราชปฏิบัติการเรียนรู้สู่ชุมชนอินทรีย์เพื่อชีวีที่พอเพียง มีบทความ 15 บทความ จัดประเภทหมวดหมู่บทความได้เป็น 3 ประเภท คือ ประเภทแรกเป็นแนวคิด หลักการ (ที่เกิดจากการปฏิบัติ)และแนวทางการพัฒนาไปสู่ชุมชนที่มีความเป็นอินทรีย์ ประเภทที่สองเป็นประสบกาณ์ของหน่วยงานเครือข่ายต่างๆที่เข้าร่วมโครงการว่าจัดกิจกรรมอะไรเพื่อสร้างชุมชนอินทรีย์ และประเภทสุดท้ายคือประสบการณ์ของคุณอำนวยและคุณกิจเด่นๆของโครงการนี้
ผมตั้งใจเขียนเรื่องนี้ก่อนเพราะมันคือกิจกรรมล่าสุดของผม เรื่องอื่นๆที่เขียนไว้ในสมุดบันทึก(เหลือใช้ของลูก) ที่โน้ตไว้ที่นั่นที่นี่ผมก็จะทะยอยนำมาเล่านะครับ ในที่สุดผมก็ดินพอกหางหมูเช่นเคย
เรียน อาจารย์จำนง
ดีใจครับที่เสร็จแล้ว แต่ก็มานั่งลุ้นเรื่องการพิมพ์อีก เห็นใจครับ แต่เชื่อว่าต้องทันแน่ ๆ เพราะเป็นเรื่องไม่เล็กครับ
ครูนงไม่เอามาลงไว้ในบล็อกของครูนงด้วยหรือค่ะ เป็นเหมือน Blog to Book ไงค่ะ เหมือนอย่างที่ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ทำค่ะ คือ เขียนเรื่อง KM วันละคำ ค่ะ แล้วท่านก็ทำเป็นหนังสือค่ะ คิดว่าจะจำหน่ายในงานมหกรรมครั้งที่ 3 นี้นะค่ะ
เรียน คุณหมอนนทลี แห่งเพื่อนร่วมทาง
คงจะได้พบกันครับ หากพิมพ์เสร็จทันคงได้แน่นอน
เรียน คุณชาญวิทย์
ขอบคุณที่ช่วยลุ้นต่อ...คุณชาญวิทย์เองก็คือทีมเขียนคนหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก และคอยประสานงานหลักในทีมของ สนง.เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช และยินดีด้วยกับการที่ได้ย้ายมารับตำแหน่งใหม่ในสำนักงานเกษตรจังหวัด งานยุทธศาสตร์ นะครับ คิดว่าคงจะเดินทางอย่างเป็นทางการหลังจากเสร็จงานมหกรรมฯ นี้...ดีใจที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น มอเตอร์ไซต์ไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
เรียน อ.ดร.จันทวรรณ น้อยวัน
ขอบคุณที่แนะนำครับ ปกหนังสือเสร็จเรียบร้อยจาโรงพิมพ์แล้ว จะนำลงเป็นตอนๆครับ
เรียน น้องสิงห์ป่าสัก
ขอบคุณ คห. ดีๆ ซึ่งพี่เองก็เห็นด้วยอย่างยิ่งว่า gotoknow คือต้นฉบับงานเขียนที่ดีที่สุด เห็นชัดจากสรุปงานของน้อง พี่อ่านหมดแล้วทุกบททุกตอนได้ข้อคิดดีๆมากเลย ไม่มีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติม เพราะตัวเองก็เตาะแตะ http://gotoknow.org/blog/yutkpp/57125