012: ใครชอบหลอกเด็กต้องอ่านป้ายนี้
ผมเป็นคนหนึ่งที่เวลาไปเยี่ยมเด็กที่ตึกแล้วเด็กมักจะไม่พูดด้วย หรือไม่ก็ร้องไห้ไปเลย ผมเคยพูดบ่อยๆ ว่าการระงับปวดในเด็กนั้นผมถูกจัดอยู่ในประเภท หน้าตาไม่ให้แต่มีใจรัก (ด้วยเหตุนี้ทางทีมงานระงับปวดของเราจึงมีสาวๆ หลายคน เอาไว้หลอกเด็ก)
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสะกดจิต บอกว่าการสะกดจิตในเด็กนั้นทำได้ง่ายกว่าในผู้ใหญ่เพราะเด็กจะไม่มีความคิดที่คอยต่อต้านนั่นเอง
ดังนั้นการสอนให้เด็กเกิดการเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่นเป็นการช่วยระงับปวดในเด็กได้วิธีหนึ่ง ซึ่งทีมงาน Palliative care ของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ที่มีคุณเกศินี เป็นแกนนำ จึงได้ใช้เทคนิคการเบี่ยงเบน (เพื่อหลอกเด็ก) ในหลายๆ รูปแบบ เช่น การบีบลูกบอล การเป่าลูกโป่ง เป่าฟองสบู่ เป่ากังหันลม หรือการเล่านิทาน ขณะเจาะเลือดเลือดหรือฉีดยา เป็นต้น
หลังจากเจาะเลือดหรือฉีดยาแล้วเด็กๆ ก็จะได้รางวัลเป็นของเล่นต่างๆ เช่น ตุ๊กตา ขนม หรือดาวเด็กดี ฯลฯ
เช่นเดียวกับที่ห้องตรวจ MRI หากเด็กคนไหนยอมให้ตรวจดีๆ ก็จะได้รางวัล เช่นเดียวกัน
หรือที่ดมยาก็จะมีของเล่นหลายๆ รูปแบบไว้ให้เด็กเล่นก่อนเข้าห้องผ่าตัด รวมทั้งรูปตัวการ์ตูน ชนิดต่างๆ ไว้ให้เลือกตามที่เด็กชอบ ถ้าเป็นเด็กดีก็จะได้รับไปหลังผ่าตัดเสร็จแล้ว
ดังนั้นที่บ้านผมจึงไม่มีตุ๊กตาเหลือติดบ้าน เพราะเวลาได้มาก็จะนำไปบริจาคให้หมดวันนี้มีอีกหนึ่งเทคนิคที่นำมาฝาก คือ
การใส่ถุงมือวิเศษ
ใส่ให้เด็กก่อนเจาะเลือดหรือให้น้ำเกลือ อธิบายให้เด็กทราบว่าถุงมือนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้หนูเจ็บเวลาถูกฉีดยา เมื่อเขายอมรับ ก็จะสวมถุงมือให้
เด็กมักจะถามว่า “ถุงมืออยู่ไหน ทำไมหนูมองไม่เห็น”
ก็ต้องตอบว่า
“ก็มันเป็นถุงมือวิเศษไม่มีใครมองเห็นได้ ยกเว้นคนที่ได้รับการฝึกมาแล้ว”
(เช่นหมอ)
เมื่อเด็กยอมใส่ถุงมือแล้ว ก็ต้องยืนยันอีกครั้งว่าคราวนี้ไม่ทำให้เจ็บแน่นอน (แต่ถ้าให้ดี ควรพูดคุยเรื่องอื่นให้เด็กคล้อยตามไปด้วย กันไว้สองชั้น)
และที่สำคัญคนฉีดยาหรือให้น้ำเกลือก็ต้องมือแม่นด้วย ทีเดียวได้ ไม่เช่นนั้นก็....ล้มเหลว!!การหลอกเด็กนั้น แม้ว่าเด็กจะถูกหลอกได้ง่าย แต่ก็ต้องอาศัยความพยายามอย่างมากเหมือนกัน
และไม่ใช่ว่าเด็กจะหลอกได้ทุกคน จริงไม๊ครับ 
ใครมีประสบการณ์ด้านหลอกเด็ก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน หากยินดีแลกเปลี่ยน ก็ขอเชิญนะครับ
หรือใครต้องการนำไปทดลองหลอกเด็กบ้าง ก็เชิญนะครับ ได้ผลอย่างไร อย่าลืมมาบอกด้วย
แต่คนที่ไม่ควรนำไปทดลองใช้ คือ อ.ขจิต และ นายบอน เดี๋ยวจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ จะหาว่าไม่เตือน (อิ อิ)
หมายเหตุ: การ์ตูนสองตัวแรกยืมจาก อ.ขจิต ตัวล่างยืมจากคุณฉัตรชัย ครับ
ความเห็น (12)
พี่ขจิตนั้น คงไม่ต้องไปหลอกใครให้เสียเวลาหรอกครับ เพราะหลายคนจะรักตั้งแต่แรกพบเลยก็ได้
ส่วนนายบอนนั้น ถูกผู้เยาว์หลอกให้ชอกช้ำใจอยู่บ่อยๆครับ โดยเฉพาะผู้เยาว์แถวตึกสงฆ์อาพาธ ตึกเด็ก ...(พยาบาลทั้งนั้น)
- ผมชอบหลอกเด็กครับ โดยเฉพาะเด็กที่ร้อง
- ใช้การเล่านิทานเด็กๆจะมารุมเต็มไปหมด
- ผมค้นพบว่าเรื่องที่เด็กชอบมากที่สุดกลายเป็นเรื่อง ผี แกล้งเล่าว่ามีลมพัด มีเสียงหมาหอน นกแสกร้อง แกว็กๆๆ ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาเด็กถามว่าลุงเป็นอะไร ชายคนนั้นขอบตาช้ำหันมา(พูดเสียงดังว่า เป็นผี) เด็กๆวงกระจายครับ
- อีกเทคนิคหนึ่งเรื่องคืนเดือนมืด มีสัตว์ประหลาดตัวเขียวโผล่มา ครั้งนี้หักมุมครับ เด็กถามว่าตัวอะไร ตอบว่าเป็นกบเคอร์มิส อ๊อบ อ๊อบ ๆๆสนุกดีครับ
- ขอบคุณมากครับผม จริงๆแล้วชอบสังเกตพฤติกรรมเด็กแล้วดูว่าเขาชอบอะไร มากกว่าเช่นเล่นเกมภาษาอังกฤษ การต่อคำศัพท์ สนุกมาก
-
- คุณบอนชมจนตัวลอยเลยครับ
- เดี๋ยวจะเอาเชือกมัดไว้
- มีเทคนิคหลอกเด็กให้กลัวผีนี่เองเด็กถึงวิ่งเข้าหา อ. ขจิต เป็นแถว
- ต่างจากเด็กที่มา ร.พ. มีแต่จะวิ่งหนีห่าง
- ส่วนนายบอนนั้น "รู้ว่าเขาหลอก ก็เต็มใจให้หลอก" จริงไม๊ครับ
- ขอบคุณมากครับ
- เขียนเก่งมากครับ สนุกดี ดีใจที่ประสบผลสำเร็จครับ
- เพราะได้ อ.ขจิต ช่วย นั้นเอง
- ตกลงจะรับเป็นลูกศิษย์ หรือเป็นลูกน้อง (ใน gotoknow) ดีครับ
- แนะนำ อ.ขจิต ว่า...ตกลงรับ ท่าน อ.สมบูรณ์เป็น"ลูกคอ หรือ ลูกคู่" ก็ได้ค่ะ
- "ลูกคอ หรือ ลูกคู่" น่าจะออกทาง ..ฮา..เฮ..ไปหน่อย คงไม่ไหวมั๊ง
- รับเป็นอาจารย์ดีกว่าครับ
- สำเร็จ เสร็จสมบูรณ์....ยิ้ม ยื้ม
- ขอบคุณสำหรับเทคนิคดีๆค่ะอาจารย์
- ไว้จะขอยืมไปใช้มั่งนะคะ
- ว่าแต่.. เมื่อไหร่จะเขียนเรื่อง เทคนิคการหลอกผู้ใหญ่คะ
- จะรออย่างใจจดจ่อเชียว ^___^
- น่าสนใจครับเทคนิคหลอกผู้ใหญ่ กำนันไม่เกี่ยวใช่ไหมครับ
- ยิ้ม ยิ้ม
คุณหมอคะ
หลอกเด็กนี้สมพรก็ใช้ได้
หลอกผู้ใหญ่ก็เข้าขั้น แต่ไม่เล่า รอต่อยอดคุณหมอดีกว่า 5555
ไม่นานเกินรอคะหนูจูน คุณหมอคงเล่าให้ฟัง แต่ผู้ใหญ่นี่หลอกยากพอดู ต้องใช้กลเม็ดเด็ดพราย ตัวอย่างสักหน่อย คุณแม่ข้าพเจ้าเป็นต้น ไม่ต้องหลอกเท่าไร แต่ใช้ไม้ตาย เพราะความกลัวไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนวัยอันควร (5555) เช่นก่อนแม่ผ่าตัด ก็กลัวดมยาแล้วไม่ฟื้น เราก็บอกต้องฟื้น มรดกยังไม่ได้จัดการ (5555) พอฟื้นมาแล้ว ก็ทานข้าวทันที ป้อนแทบไม่ทัน มาถามทีหลัง แม่บอกแม่กลัวตาย (5555) ให้ทำอะไรทำหมด แต่มาตอนนี้หลังจากทุกอย่างในร่างกายซึ่งได้บการผ่ามา ไม่น้อยกว่า 4 รายการ เข้าอยู่ในอาการปกติ คุณแม่ก็กลับไปเมือนเดิม ไม่(ค่อย)คุมอาหาร ไม่ออกกำลังกาย ไม่ค่อยเดิน ไม่........ จนตอนนี้ก็ต้องตามใจ เพราะแม่บอกว่า อยู่มานานแล้ว ......เอ......แล้วคุณหมอจะแนะนำว่าไงดีเนี่ย....หลอกอย่างไรให้อยู่กับเรานาน ๆ ๆ ......(แม่คงเบื่อหน้าสมพรแล้ว....55555)