เที่ยวเกาะพยาม(ตอนที่ 2: ยามสาย)

วันที่ 17 มิถุนายน 2560 ประมาณ 09.00 น. ถึงแล้วค่ะ นิธิพร รีสอร์ท แต่พวกเรายังเข้าพักไม่ได้ ต้องรอเที่ยงก่อน เก็บของไว้ที่สำนักงานของรีสอร์ท แล้วออกไปหาเช่ารถมอเตอร์ไซต์

การเดินทางบนเกาะพยาม

บนเกาะพยามไม่มีรถยนต์ ถนนบนเกาะเป็นถนนคอนกรีตขนาดกว้างประมาณ 2 เมตรกว่าๆ พอที่มอเตอร์ไซค์จะวิ่งสวนกันได้เท่านั้น บนเกาะจะใช้มอเตอร์ไซค์เป็นส่วนมาก บริเวณท่าเรือมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังที่ต่างๆ รอบเกาะ ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 50 ไปจนถึง 100 บาท การเดินทางบนเกาะพยามนอกจากจะใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้ว การเช่ามอเตอร์ไซค์เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี สามารถขี่ไปยังหาดต่างๆ รอบเกาะได้ด้วยตัวเอง ค่าเช่าวันละ 200 บาท มีรถมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์ และแบบเกียร์ Auto เลือกแบบ Aoto ค่าน้ำมันต้องเติมเองต่างหากในราคาลิตรละ 50 บาท ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์จะอยู่บริเวณท่าเรือ เช่าด้วยการมัดจำบัตรประชาชน บางร้านต้องทำสัญาและยึดบัตรประชาชน พวกเรามา 6 คน เช่า 3 คัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับมอเตอร์ไซต์ไม่เป็นและมากันหลายคนสามารถว่าจ้างรถลาก (ชาวบ้านเรียกว่ารถแต๊กๆ หรือ อีแต๊ก) ไปส่งยังหาดต่างๆ หรือเหมาเที่ยวชมรอบเกาะก็ได้ ค่าบริการทัวร์รอบเกาะ 1,200 บาท ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง นั่งได้ 6-8 คน

มีรถแล้วสถานที่แรกที่พวกเราจะไปกันคือ วัดเกาะพยาม อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ ใกล้กับท่าเรือ มีถนนคอนกรีตถึงตัววัด ขี่มอเตอร์ไซค์ไปง่าย จุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่โบสถ์กลางน้ำรูปทรงกลมมีกลีบด้านข้างคล้ายดอกบัว ที่ด้านบนโบสถ์มีพระพุทธรูปปางลีลาหันหน้าออกทะเล

วัดเกาะพยาม

มีเอกลักษณ์คือ พระอุโบสถกลางน้ำบนหลังประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ มองเห็นสวยเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกลปัจจุบันทาง เจ้าอาวาสและแม่ชีช่วยกันก่อสร้างพระองค์ใหญ่ และหลวงปู่ทวดไว้ริมน้ำหน้าวัด บริเวณวัดสังเกตุดีๆจะมีระบบนิเวศน์ของสัตว์เล็ก ตามชายหาดและกล้วยไม้บางชนิด เกาะตามต้นไม้ใหญ่

เชิงสะพานจะมีธูป เทียน ทอง ให้เข้าไปปิดทองไหว้พระในอุโบสถ ตามแต่ศรัทธา จะมีพระสงฆ์อยู่คอยให้คำแนะนำที่ตรงนั้น พวกเราได้ธูป เทียน ทองและทำบุญแล้ว ก็เข้าไปปิดทอง เดินไปที่อุโบสถ อากาศกำลังร้อนแดดจ้า แต่เมื่อก้มมองในน้ำจะเห็นปลาสวยงามแหวกว่าย น้ำใสมาก ปลายสะพานที่กำลังก่อสร้างมีรูปปั้นกรมหลวงชุมพรสีทอง ยืนเด่นเป็นสง่าให้ผู้คนได้กราบไหว้ พื้นที่บริเวณวัดเกาะพยาม เป็นเขตอภัยทานมีปู ปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อาจจะมีคนเคยให้อาหาร ปลาเลยมาอยู่ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะปลาสลิดหินลายเสือ

อยู่ที่นี่ไม่นานนัก ไหว้พระ ทำบุญแล้ว พวกเราออกเดินทางต่อไปความตั้งใจจะไปอ่าวเขาควาย การเดินทางก็เริ่มต้นจากวัดเกาะพยามขี่มอเตอร์ไซค์ไปบนถนนซีเมนต์แคบ ๆ มีมอเตอร์ไซต์สวนกันได้ สองข้างทางจะเป็นสวนกาหยู (มะม่วงหิมพานต์ ) มีบ้านเรือนห่าง ๆ และสภาพรีสอร์ทที่รกร้าง แห้งแล้ง ไม่มีการเปิดให้บริการ ตรงกลางเกาะจะมีทางแยกไปยัง อ่าวเขาควาย, อ่าวกวางปีป มีป้ายบอกชัดเจนไม่ต้องกลัวหลง ฮ่า ๆ แต่เราก็หลง ออกไปหมู่บ้านชาวมอร์แกนจนได้ สิ้นสุดถนนจะเป็นป่าโกงกาง ทรายขี้เป็ดที่รถไปต่อไม่ได้ ถามชาวบ้านที่นั่น เขาบอกต้องไม่เลี้ยว ให้ตรงไป บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านของชาวมอแกน ซึ่งตั้งรกรากอยู่ที่นี่นานแล้ว ถ้าเราเดินลงไปตรงบริเวรนี้ก็คืออ่าวเขาควายใต้หรือเรียกว่า อ่าวเขาควาย (ตาเหงี่ยม) ซึ่งเป็นชาวมอแกนตั้งรกรากอยู่ที่นี่นานมาแล้ว

อ่าวเขาควายช่วงกลาง

จากอ่าวเขาควาย (ตาเหงี่ยม) ให้ขี่มอเตอร์ไซค์ลงมาทางทิศใต้ จนเจอทางแยกที่ไปอ่าวใหญ่, อ่าวเขาควาย ให้เลี้ยวขวาเข้าไป วิ่งตามทางไประมาณ 1 กิโลเมตร จะเจอกับป้าย Do Not Drive Motorcycle on the beach! ทางขวามือให้เลี้ยวขวาขับตรงไปจนสุดจะเจอกับทางลงอ่าวเขาควาย เป็นทางลงสาธารณะไม่ผ่านรีสอร์ท

พวกเรามาถึงนี่นี่ 11 นาฬิกาเศษ เราจะเห็นอ่าวเขาควายช่วงกลางมีแนวโขดหินขนาดใหญ่ เป็นจุดที่คนมาเที่ยวเกาะพยามต้องมาถ่ายรูปที่นี่ โขดหินที่นี่มีรูทะลุ คล้ายซุ้มประตู มีหญิงสาวสองคนมาเก็บภาพสวย ๆ ที่นี่ หาดสงบเงียบ

ใกล้เที่ยงแล้ว พวกเรากลับที่พัก กว่าจะถึงนิธิพรรีสอร์ท หลงทางวกไปวนมาอยู่เป็นนาน หิว ทุกคนจึงตัดสินใจไปหาอาหารกลางวันทานกันก่อนที่จะเข้าที่พัก ทางไปท่าเรือมีร้านขนมจีนป้าตุ๋ย จึงไปทีนี่ ขนมจีน ผักพื้นบ้าน สะตอ ลูกเนียง ยอดมะกอกสด ๆ จากต้น สุดยอด ขนมจีนอร่อย รสชาติเหมือนบ้านเรา อิ่มแล้วกลับที่พัก....ถึงที่พักแล้วจะมาเล่าต่อตอนที่ 3 ค่ะ