ซึ่งคำตอบที่เกิดขึ้นหลังจากเราได้ร่วมกันทำงานในพื้นที่ภาคสนามโดยเริ่มตั้งแต่
ขั้นที่ 1 เรียนรู้บทบาทหน้าที่ของการทำงานเป็นนักส่งเสริมการเกษตรกับ
เกษตรกร
ขั้นที่ 2 การปรับเปลี่ยนบทบาทนักส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
ขั้นที่ 3 การจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในบทบาทของการเป็น "วิทยากรกระบวนการ”
ขั้นที่ 4 การสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ในงานส่งเสริมการเกษตร
ขั้นที่ 5 การพัฒนาเจ้าหน้าที่ให้ “จัดการความรู้ในการทำงานส่งเสริมการเกษตร” กับชุมชนเป็น
ขั้นที่ 6 การสร้างความยั่งยืนในงานส่งเสริมการเกษตรโดยใช้วิธีการและแนวทางของการทำ “วิจัยชุมชน”
แล้วมาวันหนึ่งเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2549 (ปลายเดือนกันยายน 2549) พวกเราก็ได้ร่วมกันสรุปบทเรียนและงานที่ทำร่วมกัน ภายใต้การตั้งประเด็นคำถามเพื่อปรึกษาหารือถึงรูปร่างหน้าตาของ “นักส่งเสริมการเกษตรที่เราทำกันอยู่ในปัจจุบันนี้ที่เป็นจริงนั้น “ควรมีหัว มีสมอง มีหู มีตา มีจมูก มีปาก มีมือ มีแขน และมีขา เป็นอย่างไร?”
โดยให้สรุปเป็นองค์ความรู้จากประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นและผ่านการเรียนรู้ ทำสำเร็จ และสัมผัสได้ถึงตัวตนที่แท้จริงและมีให้เห็น...
หลังจากนั้น ทีมงานแต่ละคนก็นั่งคิดกันสักพักใหญ่ ๆ แล้วจึงค่อยระดมประสบการณ์ที่ ทำแล้วสำเร็จเป็น “องค์ความรู้” เพื่อมาสรุปร่วมกันถึงการเป็น “นักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพ” นั้นจะต้องมี " 12 องค์ประกอบ" คือ
1. ใฝ่เรียนรู้
2. ทำงานเป็นทีมได้
3. ใจเปิด / คิดเห็นถูกต้อง
4. คิดสร้างสรรค์
5. เชื่อมโยงทฤษฎีสู่การปฏิบัติได้
6. ใจรักต่องานและอาชีพนักส่งเสริมฯ
7. คิดทำงานเป็นระบบ
8. ทำกระบวนการกลุ่มเป็น
9. จัดการความรู้เป็น
10. ใช้ชุมชน/ชาวบ้านเป็นศูนย์กลาง/เป็นตัวตั้งในการทำทำงาน
11. มีความรู้ IT
12. คิดเชิงกลยุทธ์
เมื่อได้สรุปองค์ประกอบของ “นักส่งเสริมมืออาชีพ” จะเห็นได้ว่า “ครบหนึ่งโหล” พอดี ดิฉันจึงได้ถามต่อว่า...คงจะหานักส่งเสริมตามองค์ประกอบดังกล่าวยาก เพราะมีเงื่อนไขที่ต้องทำเป็นตั้ง 12 องค์ประกอบ...
ฉะนั้น คำตอบจากข้อสงสัยก็คือว่า...เราต้องค้นหาดูว่า...ตกลงแล้วในแต่ละองค์ประกอบนั้นคือใคร? และเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ที่ไหนบ้าง? เพื่อจะได้นำมาใช้เป็นตัวอย่างขององค์ประกอบในเรื่องนั้น ๆ ที่เรียกว่า “Best Practice”
ตัวอย่างของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรที่ทำงานตามองค์ประกอบต่าง ๆ แล้วบรรลุผลสำเร็จเป็น “เทคนิคในงานส่งเสริมการเกษตร” นั้นมีอยู่แล้วในองค์กร และ เจ้าหน้าที่บางท่านสามารถเป็น Best Practice ได้หลายองค์ประกอบ ก็ถือว่า “องค์กรมีกำไร กลุ่มมีกำไร และตนเองมีกำไร” ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่ผิดที่ 12 องค์ประกอบ องค์กรจะมี Best Practice จำนวน 12 คน แต่อยู่ที่ว่า...
1) เราจะสร้างและพัฒนาคนให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?
2) เราจะเชิดชูและเสริมหนุนคนเหล่านั้นได้อย่างไร? และ
3) เราจะให้ขวัญกำลังใจคนเรานั้นได้อย่างร?
เพราะคนเหล่านั้นได้แสดงถึงตัวตนของความเป็น “มืออาชีพในงานส่งเสริมการเกษตร” ให้กับองค์กรอย่างแท้จริง.