ดูงานสัจจะวันละ 1 บาทที่ตำบลน้ำขาว


     วันที่ 1 พ.ย. 2548 ผมได้มีโอกาสไปดูงานของกลุ่มสัจจะวันละ 1 บาทที่ตำบลน้ำขาว จังหวัดสงขลา ผม กับพี่แป้น พี่แหม่ม และตัวแทนของกลุ่มสัจจะจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่(อากาศกำลังดี)  เราไปถึงสงขลากันประมาณ 10.30 น. และได้เข้าไปฟังคำบรรยายเกี่ยวกับโครงการกลุ่มสัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาท ที่มูลนิธิ ดร.ครูชบ  ยอดแก้ว หรือที่ชาวสงขลารู้จักกันดีในนามของครูชอบ ส่วนคำว่าDoctor ที่นำหน้าครูชอบนั้นได้มาจากการที่ท่านได้สร้างผลงานและอุทิศตัวเพื่อชุมชนท่านจึงได้ตำแหน่งนี้มา ผมได้ความรู้จากครูชบเกี่ยวกับกลุ่มสัจจะวันละ 1 บาทว่า ตอนนี้นั้น มีจังหวัดนำร่องอยู่แค่ 3 จังหวัด คือ ลำปางเป็นจังหวัดแรก ต่อมาก็เป็นสงขลา แล้วก็ นครศรีธรรมราช ครูชบบอกว่าสัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาทนั้นเป็นโครงการที่เน้นในตัวคน ไม่ได้เน้นในตัวเงิน ในความเข้าใจของผมนั้นผมมีความรู้สึกว่าโครงการนี้เปรียบเสมือนเครื่องมือในการพัฒนาคน เมื่อพัฒนาคนแล้วก็เหมือนกับการพัฒนาชุมชนและสังคมไปด้วย เหตุผลที่ผมคิดแบบนี้ก็เพราะว่า ผมได้ฟังรูปแบบและกระบวนการทำงานของโครงการนี้ที่ตำบลน้ำขาว พร้อมกับการตอบคำถามบางคำถามของครูชบจากกลุ่มผู้ไปดูงาน

     ผมมีความประทับใจในการตอบคำถาม คำถามหนึ่งของครูชบที่ว่า “แล้วพวกคุณจะรู้ได้ไงว่าผมจะออมเงินวันละ 1 บาท ผมอาจจะเก็บครั้งเดียว 180 บาทก็ได้?”   ครูชบตอบว่า “มีคนรู้อย่างแน่นอน” แล้วท่านก็ถามกลับไปว่า “คุณเป็นคนหรือเปล่า?” ถ้าคุณเป็นคนทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำก็ย่อมจะต้องมีคนรู้อย่างแน่นอน

     จาการตอบคำถาม มันเป็นการสอนให้คนเรามีความซื่อสัตย์กับตัวเองก่อน ก่อนที่จะทำอะไรก็ตาม มีพระราชดำรัส อันหนึ่งที่มีความสอดคล้องกันมาก กับแนวทางของโครงการสัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาทนี้

คุณธรรมที่ทุกคนควรจะศึกษาและน้อมนำมาปฏิบัติ มีอยู่ 4 ประการ

ประการแรก คือ การรักษาความสัจ ความจริงใจต่อตัวเอง ที่จะประพฤติปฏิบัติต่อสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม

ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัจจะความดีนั้น ประการที่สาม คือ การ อดทน อดกลั้น และอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจ สุจริต ไม่ว่าจะด้วยเหตุประการใด

ประการที่สี่ คือการรู้จักสละความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง 

            คุณธรรมทั้งสี่ประการนี้ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝัง และบำรุงให้เจริญงอกงามขึ้นโดยทั่วกันแล้ว จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุขความร่มเย็น และมีโอกาสที่จะปรับปรุงพัฒนาให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไปได้ดังประสงค์

 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 6279เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2005 14:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 09:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
เขียนเล่าได้ดีมากเลย อยากให้เล่าเป็นตอนๆ เพราะน่าจะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาก เอาตั้งแต่ตั้งขบวนที่ศาลาประดู่หกก็ได้ จะติดตามอ่านครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท