มีโอกาสได้อ่านข้อมูลการจัดชั้นของ ม.นเรศวรก็เข้าใจว่าผู้บริหารก็อยากส่งเสริมการใช้หนังสือให้มีผู้ใช้บริการมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นความคิดที่ดีมากเลยค่ะที่ยังนึกถึงวัฒนธรรมองค์กร เพราะส่วนตัวแล้วในฐานะที่เป็นบุคลากรในองค์กรเหมือนกันก็พร้อมเสมอที่จะก้าวไปสู่สิ่งดีกว่า และทำให้เรามั่นใจว่าสิ่งนั้นเมื่อก้าวไปแล้วทำให้องค์กรดีขึ้นค่ะ
ถ้าถามว่าดีมั๊ยที่จะเปลี่ยนระบบการจัดชั้นให้หนังสือภาษาไทยกับหนังสือภาษาอังกฤษมาอยู่ด้วยกัน ในหมวดเดียวกัน ในฐานะที่เป็นบรรณารักษ์ ให้บริการในห้องสมุดมีความเห็นว่า
1. การใช้หนังสือของนิสิต ถ้าจะมองว่าให้มีการส่งเสริมการใช้หนังสือภาษาอังกฤษให้มีการใช้มากๆ โดยส่วนตัวแล้ว อาจารย์น่าจะมองเห็นส่วนนี้ได้มากกว่า เพราะที่ ม.บูรพา หนังสือภาษาอังกฤษ หรือหนังสือประเภทต่าง ๆ ส่วนมากผู้ที่เสนอเข้ามาคือให้สิทธิอาจารย์มากที่สุด แล้วอาจารย์ก็เป็นคนที่เสนอหนังสือภาษาอังกฤษมามากที่สุด ถ้าอยากจะให้นิสิตทุกคนหรือส่วนมากใช้หนังสือภาษาอังกฤษ อาจารย์น่าจะต้อง ให้งานนิสิตมาค้นคว้าจากตำราภาษาอังกฤษค่ะ เพราะธรรมชาติของคนแล้วย่อมจะทำในสิ่งที่ตนเองทำได้ถนัดมากกว่า ทำนองเดียวกันกับการใช้หนังสือค่ะ
2. การให้จัดชั้นหนังสือภาษาไทย ภาษาอังกฤษมาไว้ด้วยกัน จากประสบการณ์การได้ให้บริการกับชาวต่างประเทศที่เข้ามาศึกษาในสถาบัน ชาวต่างประเทศก็จะสะดวกและจะมีความสุขมากที่เข้าใช้หนังสือแล้วหาง่าย จัดไว้เป็นหมวดหมู่ ได้สิ่งที่เขาต้องการ
3. ผู้ใช้บริการภายนอก สำนักหอสมุด ม.บูรพาเปิดให้บริการบุคคลภายนอกและมีจำนวนมากที่เข้ามาใช้ห้องสมุด ซึ่งบุคคลส่วนใหญ่ก็อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก มีทุกระดับ ทุกสาขา ก็ได้รับความสะดวกในการที่จะหาข้อมูลหนังสือในแต่ละภาษา แต่ละหมวด ที่เราจัดไว้ งานวิจัยก็ส่วนหนึ่ง ภาษาต่างประเทศก็ส่วนหนึ่ง
4. เจ้าหน้าที่จัดชั้นก็จะสามารถจัดได้สะดวกเพื่อให้ผู้ใช้บริการหาหนังสือง่าย และเมื่อเล่มไหนหาไม่พบก็จะทราบได้ว่าหนังสือหาไม่พบ เพราะสาเหตุใด ทำให้ง่ายในการบริการผู้ใช้ เพราะผู้ใช้บริการมีหลากหลายรูปแบบที่เข้ามาใช้ห้องสมุด
สุดท้าย นี่คือสิ่งที่บรรณารักษ์คนหนึ่งที่ทำงานในห้องสมุดมองเห็นค่ะ