ชีวิตที่พอเพียง : 2878. ไปไต้หวัน ๒๕๖๐ ๕. ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนสอนธรรมะ



๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เวลา ๗.๐๐ - ๘.๑๐ น.


สาวน้อยเอ่ยคำว่า “ทำวัตรเช้า” ทำให้ผมนึกขึ้นได้ ว่านี่คือการทำวัตรเช้าแบบมหายาน และแนวฉือจี้ คือคุยกันเรื่องชีวิตคนปัจจุบัน คนธรรมดา ด้วยภาษาธรรมดา เพื่อขัดเกลาจิตใจคนให้ตั้งอยู่ในแนวทางที่ดียิ่งขึ้น


เมื่อวานเราได้รับแจกหนังสือ จิ้ง ซือ อวี่ 1 ซึ่งรวบรวมวาทะคำสอนสั้นๆ ของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนที่ดีมาก เสียดายที่ไม่มีให้ดาวน์โหลด


เช้านี้เราถูกปลุกเวลา ๔.๓๐ น. กำหนดให้ลงไปกินอาหารเช้าเวลา ๕.๓๐ น. และออกเดินทางจากโรงแรมไปวัดฉือจี้เวลา ๖.๑๕ น. เพื่อเข้าไปนั่งในศาลาฟังธรรมใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ๓ ปี ใหญ่กว่าอาคารเดิมที่ผมเคยไปนั่งฟังคล้ายๆ กันเมื่อ ๑๑ ปีที่แล้วมาก


อาคารออกแบบยอดเยี่ยม หลังคาโค้งทรงหน้าจั่ว ด้านหน้าหอประชุมที่ผู้เข้าฟังหันหน้าไปมีลักษณะคล้ายมีรูปพระโพธิสัตว์ลอยอยู่บนฟ้า ที่มีดาวระยิบระยับ อาคารมีระบบเสียง แสงที่ดีมาก มีไฟส่อง และลำโพงซ่อนในเพดานที่ดูสวยงาม ไม่รกรุงรังเลย ผู้เข้าประชุมนั่งกับพื้นมีเบาะรองเป็นแถวมีระเบียบมาก มีอาสาสมัครคอยจัดระเบียบคนเข้าประชุม นั่งแยกกันเป็นชุดๆ วันศุกร์มีอาสาสมัครโรงพยาบาล ๒๐๐ คนไปฟัง และออกจากห้องประชุมไปหลังท่านอาจารย์จบคำสอนช่วงครึ่งชั่วโมงแรก คนที่นั่งพื้นไม่ได้เขาจัดให้นั่งเก้าอี้ด้านข้างหอประชุมอย่างเป็นระเบียบเช่นเดียวกัน


วันนี้เป็นวันศุกร์ ช่วงเวลา ๗๐ นาที (๓๐ + ๔๐) ที่ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนออกให้ศิษยานุศิษย์เข้าพบและฟังคำสอน เป็นรายการของเจ้าหน้าที่จาก ๖ โรงพยาบาล ไปเล่าเรื่องราวความภาคภูมิใจในการทำงานของตนให้ท่านอาจารย์ฟัง และรับฟังคำแนะนำจากท่านอาจารย์ ตลอดเวลาเป็นการออกรายการสดทางสถานีโทรทัศน์ต้าอ้ายด้วย และฉายขึ้นจอสองข้างผนังข้างหน้าด้วย


เราได้รับแจกวิทยุหูฟังให้ยืม เพื่อฟังคำแปลแบบทันทีโดย ดร. กวิชช์ แต่เครื่องมันถ่านหมดเก่ง ต้องขอเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือขอถ่านมาเปลี่ยน ได้ฟังไม่ติดต่อกัน


ช่วง ๓๐ นาทีแรก ท่านอาจารย์กล่าวคำสอน เริ่มจากกล่าวต้อนรับ “พระโพธิสัตว์” ของฉือจี้ทุกคน (เมื่อ ๑๑ ปีที่แล้วผมก็ได้ยินคำนี้) ที่มาจากทุกโรงพยาบาล และจากคณะนิเทศน์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฉือจี้ด้วย ย้ำการร่วมกันสืบสานพุทธธรรมเพื่อช่วยโลก เพิ่มความสมดุลของโลก ท่านเล่าเรื่องหนอนระบาดและไฟป่าที่รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา และอธิบายว่าเกิดจากความไม่สมดุลทางธรรมชาติ ที่เกิดจากการบริโภคเนื้อ ทำให้มีการทำฟาร์มปศุสัตว์ ทรมานสัตว์ และก่อความไม่สมดุลธรรมชาติ ท่านว่าเมื่อท่านเรียกร้องให้คนกินมังสวิรัต ก็มีคนค้านว่า จะทำให้เสียสุขภาพ แต่เวลานี้ดาราและคนมีชื่อเสียงจำนวนมากกินมังสวิรัตและสุขภาพดี ระหว่างที่ท่านพูดก็มีรูปดาราขึ้นจอหลายคน ที่ผมจำได้คือ di Caprio


ต่อมาท่านพูดเรื่องคนอพยพลี้ภัยจากตะวันออกกลาง ได้ส่งทีมฉือจี้ไปยุโรป ๑๐ วัน เก็บข้อมูลและหาทางช่วยเหลือ โดยทำอาหารฮาลาลไปแจก การวิจัยผลิตอาหารมังสวิรัตของฉือจี้อินโดนีเซียก้าวหน้ามาก ทำมา ๔ ปีและจะยังดำเนินการต่อ เพื่อช่วยผู้ยากไร้ ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ดูแลโลก


ท่านเอ่ยถึงภัยพิบัติอากาศหนาวจัดที่มองโกเลียนอก และรถบัสไฟลุกคนตามที่มณฑลเหนียวหนิง ประเทศจีน ที่ทีมอาสาฉือจี้ไปช่วยเหลือ ท่านเรียกร้องการไปช่วยเหลือ ครอบครัวบุญคุณ โดยแผ่เมตตา แสดงความรักไม่มีเงื่อนไข ไปช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน ไปปรับปรุงบ้านให้ คำพูดของท่าน ประกอบภาพบนจอมีพลังมาก เสียงของท่านยังเข้มแข็งเหมือนเมื่อ ๑๑ ปีที่แล้ว แม้ขณะนี้ท่านอายุเต็ม ๘๐ ย่าง ๘๑ แล้ว


๔๐ นาทีหลังเป็นการนำเสนอแบบเล่าเรื่อง เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากส่วนงานต่างๆ ของฉือจี้ โดยมีสไลด์ฉายขึ้นจอ และออกทีวี บางช่วงผมไม่เห็นคนนำเสนอ บางช่วงคนนำเสนอมายืนด้านหน้า

เรื่องแรกเป็นรายงานการประกันคุณภาพโรงพยาบาลฉือจี้ที่หัวเหลียน ฟังแล้วเป็นประเด็นการดูแลผู้ป่วยและครอบครัวแบบบูรณาการ ไม่ใช่แค่บริการที่โรงพยาบาล ยังตามไปดูแลที่บ้านต่อเนื่องอีกด้วยสำหรับครอบครัวยากลำบาก รวมแล้วเขาบอกว่าได้ติดตามช่วยเหลือกว่า ๓๐๐ ราย เดินทางกว่า ๓ พันกิโลเมตร ไปสนับสนุนชีวิตความเป็นอยู่ และการรับส่งมาโรงพยาบาล


ต่อมาเป็นโรงพยาบาลต้าหลิน ซึ่งอยู่ทางใต้ เล่าเรื่องนักศึกษาแพทย์ ฝึกทักษะจิตอาสาให้แก่นักศึกษาพยาบาล โดยให้เล่น trust game เพื่อสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน โดยให้กระโดดจากที่สูง มีเพื่อนคอยรับ หากไม่ไว้วางใจเพื่อนจะไม่กล้ากระโดด


ต่อมาเป็นเรื่องเล่าของ พยาบาลห้องฉุกเฉิน, หัวหน้าพยาบาลและดูแลนักศึกษา, เจ้าหน้าที่ฝ่ายจริยศาสตร์ สถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย, นักศึกษาแพทย์ปี ๒ ชาย สองคน, จิตอาสาหญิง, จิตอาสาหญิง ๒ คน คนหนึ่งอายุ ๙๙ ปี ยังแข็งแรง เสียงดังฟังชัด แต่ละคนหรือแต่ละทีมเล่าเรื่องงานของตน ตามด้วยคำกล่าวแสดงความพอใจ หรือย้ำคุณค่าของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หรือกล่าวย้ำความห่วงใยคนทำงานของท่าน


รศ. ดร. สุธีระ ประเสริฐสรรพ์ มาบอกผมว่า ได้มาเห็น Transformative Learning ซึ่งผมว่าใช่ เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติ ตามด้วยการทำ critical reflection ของตนเอง และโดยท่านอาจารย์


จะเห็นว่าเป็นการสอนธรรมะที่แตกต่างจากในบ้านเราโดยสิ้นเชิง คือให้คนเรียนรู้จากเรื่องจริงของคนเล็กคนน้อย ตามด้วยการไตร่ตรองสะท้อนคิดเข้าหาหลักธรรม ไม่ใช่มีผู้รู้มาสอนธรรมะสำเร็จรูปที่ลอยอยู่ห่างไกลชีวิตผู้คน


ศาลาฟังธรรมนี้สวยมาก แต่ในพิธีเขาห้ามถ่ายรูป ผมได้ถ่ายห้องและนอกห้องเฉพาะหลังการประชุม


วิจารณ์ พานิช

๑๗ ก.พ. ๖๐

ห้อง ๗๒๕ โรงแรม Chateau de Chine, ไทเป





1 อาคารหลังคาหน้าจั่วกลางภาพคือศาลาฟังธรรม



2 ระเบียง



3 ระเบียง



4 ภายในห้องประชุมหลังการประชุมครู่เดียวเก็บสิ่งของเรียบร้อย



5 ด้านหน้าก่อนเข้าห้องประชุม



6 หน้าอาคาร


หมายเลขบันทึก: 626210เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2017 23:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม 2017 23:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท