ความก้าวหน้า จริงหรือที่ทุกคนต้องการ


คงต้องเลือกแล้วหละ ว่าชื่อเสียง กับเงินที่ได้มา แต่ต้องทุกข์ถนัดทุกวัน กับความสุขที่จะมีทุกวันจนวันสุดท้ายที่มีลมหายใจ กับเงินทองพอมีพอใช้อย่างไหนกันแน่ที่พวกคุณต้องการ

       เมื่อวันเสาร์ที่แล้วมีโอกาสได้ไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนที่เรียนปริญญาตรีด้วยกัน ก็ได้เจอเพื่อนหลายคน มีอยู่ช่วงหนึ่งเราก็คุยกันเรื่องงานการที่ทำกัน มีเพื่อนคนหนึ่งบอกมาว่างานที่ทำอยู่เหมือนจะไม่ก้าวหน้า (เพื่อนคนนี้ทำงานเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์อยู่โรงเรียนเอกชนย่านฝั่งธนฯ) บอกว่าเงินเดือนก็น้อย งานก้อเยอะทั้งสอน ทั้งทำสื่อ ทั้งเตรียมการสอน อีกซ้ำยังต้องทำงานเว็บไซต์ให้โรงเรียน  งานสื่อประชาสัมพันธ์ และงานอื่นๆที่เกี่ยวกับพวก ITอีก เงินเดือนก็ไม่กี่พัน เทียบกันไม่ได้กับเพื่อนที่ทำงานบริษัทฯ

     ได้ยินเพื่อนบ่นมาอย่างนี้ก็พอเข้าใจ เพราะรู้จักเพื่อนหลายคนที่เป็นครูทั้งบรรจุและไม่บรรจุ เป็นครูน้อยในโรงเรียนมัธยมทั้งรัฐบาล เอกชน และอาชีวะ ประสบปัญหาเดียวกันชักหน้าไม่ถึงหลังกันแทบทั้งนั้น  กลับมาที่เพื่อนคนเดิมนะคะ ก็พ้อว่า หมดเทอมนี้จะลาออกแล้วไปทำงานบริษัทฯดีกว่า  อย่างน้อยเงินก็ดีกว่า ที่บ้านก็หวังเพื่อนคนนี้แหละ ส่งร่ำเรียนจนจบปริญญาตรี เป็นครูบาอาจารย์ ได้หน้าคุยอวดข้างบ้านได้ แต่ไม่รู้หรอกว่าลูกไส้แห้งไม่มีเงิน จะบอกที่บ้านก็ไม่ได้ เดี๋ยวแม่จะเป็นกังวล ก็ต้องทนกันไป

    กลับมาเรื่องงานอีกทีนะคะ ได้ยินว่าจะลาออกไปหางานบริษัทฯ  แล้วบริษัทฯที่เพื่อนมันพูดถึงก็หมายถึงบริษัทฯใหญ่โต เอาแบบที่ก้าวหน้าทางสายงานได้ด้วย ได้ยินก็ รีบเตือนมันในฐานะนายน้อยในบริษัทฯของครอบครัว ก็เสนอความคิดเห็นไปว่า  ไอ้สิ่งที่คิดว่าก้าวหน้าหนะคืออะไรกันแน่ที่ต้องการ เงิน ชื่อเสียง หน้าที่การงาน  หรือหน้าตา  เพราะการที่เราทำงานในบริษัทฯใหญ่โตใช่ว่าจะมีความสุขเสมอไป  มีข้อสังเกตุให้เลือกอยู่ นิดหนึ่งนะคะ

    อย่างแรก ทำงานในบริษัทฯ ใหญ่ๆ เพื่อหวังว่าวันนึงจะได้ก้าวหน้าเป็น boss ใหญ่ในหน่วยงาน แต่กว่าจะฝ่าฟันอุปสรรค เสือ สิงห์ กระทิง แรด เข้าไปต่างคนต่างก็ต้องการไปสู่จุดๆเดียวกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นมันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกไอ้การแก่งแย่งฉิงดี ใครดีใครได้ ทำงานเอาหน้า แล้วจะเอาความสุขมาจากไหนทุกวันต้องทำงานเดิมๆ ไปเจอบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตร ยืดอกคุยได้ว่าฉันทำงานในบริษัทฯใหญ่ ลงท้ายด้วยมหาชน บริษัทฯชั้นมีชื่อเสียง ในขณะที่หน้าชื่น แต่อกกลับตรมชีวิตนี้ต้องการแบบนั้นเหรอ

    อย่างที่สอง ยอมทำงานในบริษัทฯที่ไม่ใหญ่มากแต่ถามว่าจะก้าวหน้าได้ไหม คงไปได้ไม่มากหรอก เพราะบริษัทฯขนาดเล็กส่วนใหญ่ เจ้านายก็จะลงมาทำงานด้วย เขาไม่มีทางยกบริษัทฯให้พวกคุณหรอก แต่เมื่อไม่มีผลประโยชน์ ความอิจฉาตาร้อนก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน การได้ทำงานอย่างมีความสุข มีเจ้านายที่ทำงานด้วยกันเหมือนพี่น้อง เพื่อนสนิท มีความสุขในการทำงาน เงินเดือนตามความสามารถ แต่แน่นอน เอาไปคุยโอ้อวดไม่ได้เพราะบริษัทฯที่เราทำอยู่ไม่ได้ ลงท้ายด้วย มหาชน แต่ทุกวันที่เราทำงานนั้นเรามีความสุขกับมันทุกวัน หนึ่งชีวิต ตื่นขึ้นมาด้วยความสุข และหลับตาลงด้วยความสุขเช่นกัน

     อย่างสุดท้าย ก็คือ ทำต่อไปเถอะ แม่พิมพ์ พ่อพิมพ์ของชาติหนะ มันจะอดจะอยาก แต่ก็มีความสุขเล็กๆนะ เราว่า เคยตอนไปฝึกสอน เด็กจะมองเราด้วยสายตามีความหวัง มีความเชื่อถือ ยังไงไม่รู้ เราคงจะได้รับความรักจากเด็กๆไปเรื่อยๆทุกๆรุ่นหมุนเวียนกันไป จนกว่าเราจะสอนไม่ไหวหนะแหละ  แต่ถ้าจะถามถึงเงินทองร่ำรวยเหรอ อย่าหวังเลย ครูน้อย เงินน้อย เป็นสัจธรรม

    บอกเพื่อนไปอย่างงี้ก็โดนสวนทันที มันว่าก็ใช่สิ แกไม่เคยเป็นลูกจ้างใครก็ไม่รู้หรอก  ก็ไม่เถียง แต่เราว่า คงต้องเลือกแล้วหละ ว่าชื่อเสียง กับเงินที่ได้มา แต่ต้องทุกข์ถนัดทุกวัน กับความสุขที่จะมีทุกวันจนวันสุดท้ายที่มีลมหายใจ กับเงินทองพอมีพอใช้อย่างไหนกันแน่ที่พวกคุณต้องการ

    วันนั้นเราจบการคุยกันด้วยเรื่อง สรรพเพเหระเรื่อยไป แต่ยังไม่มีบทสรุปของเรื่องนี้หรอกคะ เพราะเราเองก็ยังไม่มีใครเลือกได้จริงๆหรอกว่าเราจะได้สิ่งที่เราอยากจะได้ อยากจะเป็นหรือเปล่า

หมายเลขบันทึก: 62411เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2006 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท