การทำงานของครูนั้นมีตำแหน่งแบ่งเป็น 3 อย่าง คือ หนึ่ง.....ตำแหน่งผู้บริหารซึ่งประกอบด้วย ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ สอง.....เป็นครูผู้สอน สาม....สายสนับสนุนการสอน เช่น ศึกษานิเทศก์
ครูอ้อยเป็นครูมาแล้ว 27 ปีนี้ ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนตำแหน่ง หรือสายงานการปฏิบัติ ยังยึดมั่นกับการเรียนการสอนที่เป็นประโยชน์ หมายถึงครูอ้อยรู้คุณค่าของตนเองว่า ควรจะอยู่ตรงไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง
เมื่อสามปีก่อน น้องสาวของครูอ้อยสอบเป็นผู้บริหารได้
คุณพ่อเร่งเร้าให้ครูอ้อยไปสอบเป็นผู้บริหาร เหมือนน้อง ด้วยมีความเข้าใจว่า สบายและโก้หรูกว่าการเป็นครูน้อย
คุณอ้อยเคยเถียงกันด้วยเหตุผล ซึ่งครูอ้อยอธิบายถึงเหตุผลว่า การที่เรียนจบมานั้นก็เพื่อเป็นครู และหน้าที่ครูเป็นหน้าที่ที่สำคัญ หากทุกคนเปลี่ยนเข็มมุ่งหมายชีวิตการทำงานเป็นฝ่ายบริหารเสียหมด แล้วนักเรียนก็จะขาดครู ครูจึงมีความสำคัญมากกว่า
จนกระทั่ง...เมื่อ ปีพ.ศ.2546 ครูอ้อยขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ จากอาจารย์ 2 ระดับ 7 เป็นอาจารย์ 3 ระดับ 8 ด้วยการกำหนดตำแหน่งแบบประจักษ์ เมื่อผ่านการขอกำหนดตำแหน่งดังกล่าวครูอ้อยได้รับผลประโยชน์จากการขอกำหนดตำแหน่ง คือ เงินประจำตำแหน่ง ซึ่งนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาเอก
แต่สถานะในเรื่องการทำงาน ยังคงเป็นครูไม่เปลี่ยนแปลง การทำงานเหมือนครูทั่วไป ทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และหยุดในวันเสาร์และอาทิตย์
แต่สถานะในเรื่องการทำงานของฝ่ายบริหาร ต้องรับผิดชอบตลอดเวลา ไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ สำหรับฝ่ายบริหารที่ขยันขันแข็งและมีความรับผิดชอบ
น้องสาวของครูอ้อย...น้องป๋อ..เมื่อตอนเด็กเรียกกัน อ้อ...แต่เมื่อโตขึ้นมากลายเป็น ป๋อโดยไม่ทราบสาเหตุ
เธอเป็นคนจริงจังในการทำงาน ดังนั้นวันหยุดจึงไม่มีความสำคัญกับเธอ เธอจึงไปทำงานทุกวัน แต่ละวันกลับบ้านมึดค่ำ ทำให้คุณพ่อเปลี่ยนความรู้สึก ชอบให้ลูกเป็นฝ่ายบริหารนั้น เปลี่ยนมาเป็นสายผู้สอนและเป็นอาจารย์ 3 แบบครูอ้อย ดีกว่า ไม่ต้องกลับบ้านมึดค่ำ รับผิดชอบในส่วนงานของตนเอง ไม่ต้องไปโรงเรียนในวันหยุดบ่อยนัก
และคำพูดที่ครูอ้อยเคยเกริ่นไว้ว่า " จะเป็นตำแหน่งอะไร ถ้าเป็นคนดี มีค่าเท่ากัน " คุณพ่อก็นำมาพูดแล้ว
จากนั้นคุณพ่อก็จะเห็นคุณค่าของครูอ้อยเสมอ ให้กำลังใจในการปฏิบัติงาน การเรียน หรืออื่นๆที่ครูอ้อยเล่าให้ฟัง
******************
วันนี้ เพื่อนครูอ้อย เธอชื่อเล่นว่า " หมี " เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่โรงเรียนประถม เธอสอบเป็นฝ่ายบริหารได้ และมาฝึกงานที่โรงเรียนที่ครูอ้อยสอนอยู่
พิจารณาจากภาพนี้ ความสวยพอๆกัน แต่พิจารณาจากการแต่งตัว จะพบว่า
ครูอ้อย แต่งตัวเหมือนเด็กมัธยม ในชุดฝึกงาน เตรียมลุย
ท่านรอง แต่งตัวเหมือนจะไปงานแต่งงาน อะไรปานนั้น
แต่คิดให้ลึกๆกว่านี้ การเป็นผู้บริหารจะมาแต่งตัวแบบครูอ้อยได้อย่างไร แต่ครูอ้อยสามารถแต่งตัวแบบท่านรองได้เสมอ ถ้าอยากจะแต่ง
ท่านรอง ดีใจมากที่พบครูอ้อย และบอกกับท่านอื่นที่มาด้วยกันว่า " อ้อย เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นประถม "
เราถามสารทุกข์สุกดิบกันพอประมาณแล้ว ก็ขอตัวแยกย้ายกันไปทำงานของตน ครูอ้อยไปสอน เธอไปประชุมกัน
ถึงเวลาตอนพัก เธอเดินมาหาครูอ้อยและถามเรื่อง KM เธอบอกว่า " อ้อย ช่วยอธิบาย เราจะไปพูดสรุปให้คนอื่นฟังในที่ประชุม ในเรื่องของบุคลากรที่ประสบความสำเร็จ และจะพูดเรื่องที่อ้อยได้รับรางวัล "
ครูอ้อยอธิบายเสียยืดยาว
และถามเรื่อง การเป็นผู้บริหารต้องอย่างไร เธอเดินทางมาแบบนี้แล้ว ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
ตำแหน่งอะไรก็ตาม..หากเป็นคนดี....มีค่าเท่ากัน
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะคุณจ๊อด
การเป็นคนดีไม่ยากนะคะ ผลของความดีที่ทำให้ชีวีสุขค่ะ ขอบคุณค่ะคุณจ๊อด
ครูอ้อยคะ เขียนบันทึกนี้ได้น่ารักจังค่ะ....
ตำแหน่งอะไรก็ตาม..หากเป็นคนดี....มีค่าเท่ากัน
อรุรสวัสดิ์ ค่ะ กำลังจะละไปนอนต่อเพื่อทำสิ่งนี้ในวันพรุ่งนี้ค่ะครูอ้อย ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...(เพลงเพราะจัง....)
ขอบคุณค่ะคุณจ๊อด
เรียน ผอ.บวร
ขอบคุณค่ะ