ทีมสุดท้ายของการนำเสนอในวันที่ 3 ชื่อทีม "สดใส" เรื่อง "การฉีดน้ำยารักษาศพ" เป็นโครงการของคนห้องศพเขาล่ะ ..
จะว่าไปก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนเลยนิ ก็ห้องเก็บศพน่ะเขาอยู่ข้างล่างห้องผู้เขียนตรงกันเดี๊ยะ ผู้เขียนก็เดินผ่านทุกวี่ทุกวัน แต่ก็ยังมีอาการที่เรียกกันว่า "ปอดแหก" อยู่ เอาเป็นว่าเดินกลางวันถึงไหนถึงกัน อย่าให้มาเดินเล่นตอนกลางคืนก็แล้วกัน ตัวใครตัวมันล่ะ ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ บอกตามตรง ก ล ัว ค่ะ
พี่สมนึก ขุนฤทธิ์ (พูดไปยิ้มไป)
พี่เขาเล่าให้ฟังว่าเดิมทีการฉีดน้ำยา (ฟอร์มาลีน) รักษาศพ จะใช้วิธีการผ่าตัดเลาะหาเส้นเลือดใหญ่บริเวณหน้าขานั่นแหละ แต่มีปัญหาก็คือ
- โอกาสสัมผัสเลือดและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะโรคร้ายแรง
- ใช้เจ้าหน้าที่ 2 คน แต่นอกเวลามีอยู่เวรเพียงคนเดียว
- ใช้เวลามาก 45 นาทีขึ้นไป
- ใช้พื้นที่มาก
-
อุปกรณ์ก็แยะ ต้องใช้ set ชุดผ่าตัดทั้งชุด กรรไกร มีด เข็ม ด้าย ฯ
วัตถุประสงค์ก็เพื่อพัฒนาวิธีใหม่ให้เป็นมาตรฐานในการปฏิบัติงาน และ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ง่าย และ ปลอดภัย
วิธีใหม่ที่จะใช้ก็คือการฉีดฟอร์มาลินตรงไหนไม่บอก ปล่อยให้งง เพราะเป็นกลเม็ดเคล็ดลับเฉพาะโครงการ วิธีการก็โดยถามความสมัครใจของญาติ (ไม่ใช่ศพ) ว่าจะเลือกใช้วิธีใด ถ้าเลือกวิธีเก่ากด 1 หากเลือกวิธีใหม่กด 2 เอ๊ะ ! ไม่ใช่ค่ะ ถ้าหากเลือกวิธีใหม่ก็ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ เมื่อพิธีเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็จะโทรไปถาม เน่ามั๊ย ? เหม็นมั๊ย? ลักษณะศพ เปลี่ยนไปหรือไม่
ตั้งแต่ทำโครงการมามีกรณีที่เลือกใช้วิธีใหม่ 10 รายด้วยกัน ซึ่งผลก็เป็นที่พอใจ ไม่เน่า ไม่เหม็น ศพลักษณะไม่เปลี่ยนแปลง จำนวนรายขึ้นอยู่กับแต่ละเดือน บางเดือนก็เลือกใช้วิธีใหม่หลายราย บางเดือนก็เลือกน้อย
ซึ่งวิธีใหม่โดยฉีดน้ำยาฟอร์มาลินผ่านทางหัวใจ สามารถ
- ทำได้เพียงลำพังคนเดียว
- ใช้พื้นที่น้อย
- อุปกรณ์ก็มีเพียงเข็ม
- ใช้เวลา 20 นาที
- เสี่ยงและสัมผัสเลือดน้อย
- ปริมาณน้ำยาพอ ๆกันทั้งวิธีเก่าและใหม่ คือ 2500 -3000 CC
พี่สมนึกพูดหน้าตาเฉยม๊าก มาก แต่คนดูนี่สิ!!! แอบลักเปิด ลักปิดตาซ้ายบ้าง ตาขวาบ้าง บางคนปิดมันทั้งสองข้างเลย แม้ลักษณะศพที่เลือกมาจะสวยงามแล้วก็ตาม จน อ.ปลื้มจิต คุณอำนวยอดแซวไม่ได้
เนี่ย ! ถ้าไม่มีโลงเย็นมาตีตลาดล่ะก็ พี่สมนึกและคนอื่น ๆ มีงานเยอะแหง ๆ