เล่าเรื่องชุมชนตอนที่ 1...แล้วเราก็เริ่มทำตามแผนที่กำหนดในปี 48 เมื่อถึงเวลาทำจริงเราปรับเปลี่ยนแผนไปพอสมควรเนื่องจากเราเข้าใจในเรื่องการจัดการความรู้เพิ่มขึ้น ในมุมของประโยชน์และสิ่งที่จะได้รับ ในปีแรกๆ เราทำความเข้าใจกับบุคลากรเสียส่วนใหญ่ปรับระบบบ้าง เช่นฐานความรู้ในการการค้นหาผู้เชี่ยวชาญในมหาวิทยาลัยของเรา ทำไป ทำไปเรียนรู้ไปจากบุคคลบ้างจากเครือข่ายการจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย(UKM) เชิญผู้รู้มาพูดบ้างท่านหนึ่งที่เชิญมาคือ คุณพูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ มาทำความเข้าใจ“ชุมชนแนวปฏิบัติ” (Community of Practice)เราพบว่าเรามีชุมชนโดยธรรมชาติอยู่แล้ว คือ ชุมชนโอเพนส์ซอร์ส มีผู้ก่อตั้งคือคุณวิภัทร ศรุติพรหม และมีชุมชนผู้ดูแลระบบไอทีอยู่แล้วที่เกิดโดยธรรมชาติที่คอยช่วยกันแก้ปัญหาในงาน หารือปรึกษาหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เราเห็นว่าการชุมชนแนวปฏิบัติเนี่ยน่าจะเป็นไปได้ในองค์กรของเรา สามารถที่จะทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยง เกลียวการพัฒนางานความรู้ไหลเวียน ลักษณะงานที่เหมือนกันของเรามีอยู่ในต่างคณะทั่วทั้งมหาวิทยาลัย เช่นงานด้านการเจ้าหน้าที่ งานพัสดุการเงิน งานบริการวิชาการ งานการเรียนการสอน งานดูแลระบบไอที งานบริการนักศึกษา ฯลฯ ทุกคณะมีหมด เรารู้หลักการของชุมชนที่กล่าวไว้แล้วข้างต้นและเราเชื่อในภาพของ CoPs ว่าจะช่วยเราผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วทั้งองค์กรได้ คณะกรรมการฯมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมภาวะผู้นำในอาชีพส่งเสิริมให้เกิดการช่วยกันทำ ช่วยกันคิด ช่วยกันถ่ายทอดประสบการณ์ จึงออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย “ชื่อประกาศส่งเสริมชุมชนแนวปฏิบัติ” ในประกาศว่าไว้คร่าวๆ ว่ามหาวิทยาลัยจะส่งเสริมกลุ่มคนที่รวมตัวกันเป็นชุมชนเพื่อพัฒนางานมหาวิทยาลัยจะประเมินความเป็นไปของชุมชนทางระบบไอทีแล้วเราก็ประชาสัมพันธ์ประกาศออกไป
มีคณะหน่วยงานสนใจโทรศัพท์เข้ามาถามเป็นจำนวนมากแต่ไม่มีใครกล้ารับข้อเสนอของมหาวิทยาลัยในเรื่องงบสนับสนุนเลยเนื่องจากเขามีความเห็นว่ายากและไม่รู้ว่าความรู้จะออกมาจากชุมชนหรือเปล่า ดิฉันวิเคราะห์ได้ในทันทีว่าการดำเนินการอย่างเป็นทางการเช่นนั้นใช้ไม่ได้ในเรื่องชุมชนแนวปฏิบัติ หากจะเกิดขึ้นได้ต้องมีแรงปรารถนาแบบแรงๆในตัวบุคคลที่ที่ต้องการจะพัฒนางานร่วมกัน....ผู้คนไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เขารู้เขาคุยกันในแต่ละครั้งจะหยิบจับออกมาเป็น Tacit Knowlwdgeหรือไม่ อย่ารับการสนับสนุนดีกว่าเดี๋ยวผูกพัน....ผู้เชี่ยวชาญทักดิฉันว่าไม่น่าจะไปได้ คุณเล่นทำแบบเป็นทางการขนาดนี้ดิฉันก็งง..หากไม่ทำเป็นประกาศหลักเกณฑ์กรอบความหวังหรืออื่นๆ ที่ต้องตกลงแล้วการเจรจาขอสนับสนุน แล้วเราจะสนับสนุนกันยังไง...ภายหลังจึงรู้ว่ามีวิธีอื่นที่ดีกว่า.....มีตอนต่อไปโปรดติดตาม ค่ะ
มีไฟล์อยู่ในเครืองค่ะแต่ส่งไม่ออก เอาเป็นว่าพิมพ์ รายละเอียดคร่าวๆ นะ ที่สำคัญ เดี๋ยวจะไปพิมพ์ให้ที่ถามปภังกรนะคะ
ตามดูกระบวนการอยู่ค่ะ
กำลังเฝ้าดูว่า มช. จะขับเคลื่อน KM กันอย่างไร
ในส่วนของคณะตนเอง ก็กำลังดำเนินการอยู่
แอบขอกำลังใจด้วยนะคะ