เกิดเป็นหมอ


การเขียนบันทึกนี้จึงเป็นการเตือนใจตนเองให้ระลึกถึงสิ่งดีๆที่คนเป็นหมอควรกระทำ เป็นการเตือนใจตนเองมากกว่า

                ผมเองก็ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะมาเป็นหมอ สมัยเด็กๆอยากเป็นทหารแต่พออยู่ชั้นม.ปลายก็ให้เกิดการเปลี่ยนใจเพราะมีแรงดลใจหลายประการ ตอนจบม.6 สอบได้แพทย์ 2 ที่คือม.เชียงใหม่กับมศว.ประสานมิตร ผมเลือกเรียนเชียงใหม่ ไม่ใช่เพราะเชียงใหม่ตั้งมาก่อน แต่ผมชินกับชีวิตต่างจังหวัดและชอบบ้านนอกมากกว่า จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็รู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่เลือกมาเป็นหมอ ตอนอยู่ปีหนึ่ง มักมีเพื่อนๆต่างคณะที่ไม่เชื่อว่าผมอยู่คณะแพทย์ เขามักคิดว่าผมอยู่คณะเกษตร เพราะหน้าตาจะถูกมองไปทางบ้านนอกๆตัวดำๆเหมือนชาวไร่ชาวนา(เขาว่ากันอย่างนี้ แต่ชาวไร่ชาวนาแถวบ้านผมที่ขาวๆหน้าตาดีๆก็มากและคนที่เรียนเกษตรหล่อๆสวยๆก็เยอะ ดูอย่างคุณอภิรักษ์ก็ได้)และบางทีผมก็ถือความเข้าใจผิดนี้หลอกคนอื่นๆเหมือนกัน

                 ช่วงที่เรียนหมอผมจะสนใจอ่านหนังสือเกี่ยวกับชีวิตของหมอชนบทมาก รวมทั้งนิยายหรือบทความที่เกี่ยวกับหมอเช่นเรื่องเขาชื่อกานต์ ถนนลูกรัง หมอเมืองพร้าว กระท่อมไม้ไผ่ เกิดเป็นหมอ เป็นต้น และจากการอ่านสิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นสิ่งดลใจที่ฝังอยู่ในใจว่าเมื่อจบออกมาแล้วจะมาทำงานในชนบท มีข้อเขียนที่ผมคัดลอกไว้ที่ถือเป็นแรงดลใจส่วนหนึ่ง เช่น

"การเป็นแพทย์ที่ดี ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณะภายนอก แต่อยู่ที่จิตใจที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและเมตตาปราณีต่อคนไข้"

สิ่งแรกที่คนเป็นหมอจะต้องรู้จักก่อนที่จะรู้จักเข็มฉีดยาหรือมีดผ่าตัดนั้นก็คือต้องรู้จักหัวใจที่เต็มไปด้วยความเมตตาปราณี หัวใจเต็มร้อยของความเป็นหมอ"

มีคนขยายความคำว่า Doctors ไว้น่าสนใจ ดังนี้ ครับ

D=Decision การตัดสินใจ

O=Observation ช่างสังเกต

C=Care ดูแล

T=Teacher เป็นครู

O=Optimism มองโลกในแง่ดี

R=Responsibility มีความรับผิดชอบ

S=Smile ยิ้ม

                    และจากปาฐกถาพีร์ คำทอน ของคุณสุลักษณ์ ศิวลักษณ์ เมื่อปี 2531 ได้กล่าวถึงแพทย์ไว้ว่า " ด้วยเหตุฉะนี้ ผู้ที่เรียนวิชาแพทย์จึงต้องเรียนเพื่อเป็นมนุษย์ที่ดีก่อนและเรียนรู้อย่างเป็นครูเพื่อสอนตนเองและสอนคนอื่นได้ด้วย พร้อมๆกันกับการรักษาโรคให้ตนเองและคนอื่น ซินแสจึงเป็นทั้งครูและเป็นทั้งหมอ โดยวิถีชีวิตของเขา ย่อมไม่แตกต่างจากคนไข้มากนัก หากมีกิจกรรมทางปัญญาที่อาจแตกต่างไปจากคนอื่นก็คือย่อมรู้จักงานอันอมตะของเล่าจื๊อ ขงจื๊อ เม่งจื๊อ ฯลฯ เพือ่เป็นคุณค่าหล่อเลี้ยงชีวิตและจิตใจอย่างสูงส่งกว่าการแสวงหาทรัพย์หรือชื่อเสียงเกียรติยศ"

                    มีบางประโยคที่น่าสนใจจากคนไข้ ญาติก็คือ"อยากให้หมอมองเห็นคนด้วย อย่าเห็นแต่ไข้" หรือครั้งหนึ่งผมเคยฟังจากการสัมมนาของชาวบ้านว่า "พยาบาลทำตามorderหมอ แต่ไม่ได้ทำตามความต้องการของคนไข้" ผมฟังแล้วไม่ได้คิดโทษพยาบาล แต่นึกถึงหมอว่าสิ่งที่หมอorderไปนั้นก็คงไม่ใช่ความต้องการของคนไข้นะสิ อย่างนั้นเป็นความต้องการของใครล่ะ ของหมอหรือของหลักวิชาการในตำรา

                     ในเรื่องที่เกี่ยวกับการสอนแพทย์นั้นที่แพทย์ทุกคนพึงจำใส่ใจโดยไม่ต้องจดคือพระราสดำรัสของสมเด็จพระราชบิดาแห่งวงการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ที่ทุกพระราชดำรัสล้วนเป็นไปเพื่อให้แพทย์ดำรงไว้ซึ่งคุณธรรมและจรรยาบรรณ โดยเฉพาะพระราชดำรัสที่ว่า"ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นแพทย์อย่างเดียวแต่ต้องการให้เธอเป็นคนด้วย"

                    จากวันเวลาที่ผ่านมาก็ได้พยายามเป็นหมอที่ดีของชาวบ้าน การเขียนบันทึกนี้จึงเป็นการเตือนใจตนเองให้ระลึกถึงสิ่งดีๆที่คนเป็นหมอควรกระทำ เป็นการเตือนใจตนเองมากกว่าที่จะเขียนเพื่อให้ผู้อื่นอ่าน โดยเฉพาะในยุควัตถุนิยมที่วงการแพทย์มักมีข่าวในหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ 

หมายเลขบันทึก: 6066เขียนเมื่อ 29 ตุลาคม 2005 23:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 03:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ชอบปรัชญาในวิชาชีพของคุณหมอมากคะ ขอบคุณคะ

ขออนุญาตส่งบันทึกของอาจารย์ส่งให้ลูกสาวซึ่งเรียนหมออยู่ที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อ่าน  ขอขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ ชอบมากค่ะ ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นหมออย่างเดียวต้องการให้เป็นคนด้วย เป็นคำคมเลยค่ะ เป็นหมอแล้วต้องมีเวลาให้คนในครอบครัวด้วยนะค่ะ ดูแลคนป่วยแล้วอย่าลืมดูแลคนในบ้านด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

ชื่นชมต่อการทำงานอย่างเสียสละเพื่อประชาชนของคุณหมอครับ  อยากให้มีคุณหมอที่มีแนวคิดอย่างนี้หลายๆ คน จะได้ช่วยกัน เอาใจช่วยคุณหมอทุกคนที่ทำเพื่อส่วนรวมครับ

เขาชื่อกานต์ นวนิยายเรื่องนี้ผมชอบมาก  พอได้ดูภาพยนตร์ก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่...

แต่สงสารหมอกานต์มากเลยทีเดียว  อาภัพทั้งรักและงาน   แต่การจากไปก็ตราไว้ซึ่งความงดงามอย่างไม่รู้จบ

.....

หนังเรื่องหมอเจ็บ  ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ  ถึงแม้จะดูเปิ่น ๆ ไปหน่อย  แต่ก็เข้ากับยุคสมัยดีเหมือนกันครับ

  • "การเป็นแพทย์ที่ดี ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณะภายนอก แต่อยู่ที่จิตใจที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและเมตตาปราณีต่อคนไข้"

  • ได้สำเนาประโยคที่โดนใจมาวางไว้ก่อนหน้า เพื่อบอกกับคุณหมอและท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมว่ามีความซาบซึ้งใจ

  • ผมอยู่น่านได้พบคุณหมอดีมีคุณธรรมมากมาย นับจาก นพ.บุญยงค์ นพ.คณิต นพ.นิวัตรชัย นพ.ชาตรี น.พ.กิตติศักดิ์ฯ ความจริงมีอีกหลายท่าน นับว่าโชคดีที่ท่านที่กล่าวไม่ได้ถือตัว วางมาดให้เราไม่สบายใจ

  • เรียนคุณหมอและทุกท่านไว้ว่าดีใจที่เรามี GotoKnow ทำให้เราได้เห็นเรื่องราวดี ได้รับรู้สิ่งดีงามบนโลกใบนี้ครับ

ก่อนอื่นต้องขอชื่มชม และขอบคุณ คุณหมอทุกท่านด้วยนะคะ ที่ท่านได้ช่วยรักษาผู้ป่วยให้หายจากความเจ็บปวด ไม่ว่าจะด้วยหน้าที่หรือด้วยความเต็มใจก็ตาม

ดิฉันเคยปวดท้องรุนแรง(มาก)ตอนดึก ๆ เพราะอาหารเป็นพิษ ทั้งอ้วก และถ่ายเหลว เพื่อนำส่งโรงพยาบาล จากที่พักกับโรงพยาบาลห่างกันประมาณ 20 กิโลเมตร ความรู้สึกฉันในตอนนั้นเหมือนกับสัก 100 กิโลเมตร และนึกใจว่าเราจะรอดหรือไม่ เพราะปวดมาก พอไปถึงโรงพยาบาลคุณหมอเข้ามาตรวจ และบอกกับดิฉันว่าอาหารเป็นพิษ จะฉีดยาให้ และให้นอนพัก จากนั้นไม่นานพยาบาลก็นำยามาฉีดให้ สักพักอาการปวดท้องของดิฉันก็ลดลง แต่ก็ยังไม่ดีขึ้นเดิน ก็ปวด นอนก็ปวด นั่งก็ปวด ต้องทานยาแก้ปวดตลอด คุณหมอให้ทานทุก ๆ 4 ชั่วโมง ดิฉันทานทุกชั่วโมงเลยค่ะ และกว่าดิฉันจะหายปวดท้อง 1 อาทิตย์เต็ม ๆ ถ้ามองย้อนกลับไปวินาทีนั้น ถ้าดิฉันไม่ได้คุณหมอมาช่วย ดิฉันคงจะไม่รอดมาถึงทุกวันนี้ค่ะ..

สวัสดีครับ

ขอบพระคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกๆท่านครับ ทำให้ผมระลึกได้ว่าผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ พอกลับมาอ่านอีกครั้งก็พบว่ามีความผิดพลาดในคำว่า Obtimism ที่จริงต้องเขียนว่า Optimism ผมได้แก้ไขแล้วและได้เพิ่มความหมายเข้าไปด้วยสั้นๆ

ผมเชื่อว่าหมอที่ดีมีอยู่ทุกจังหวัด แต่อาจจะไม่เป็นข่าว ยิ่งช่วงนี้มีข่าวที่แพทย์ถูกตัดสินเรื่องคดีอาญาด้วย นับว่าเป็นประเด็นเปราะบางของสังคมไทยอย่างมาก ที่จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ชนะ-ชนะ (win-win situation) ด้วยกันทั้งสองฝ่าย อย่าให้เกิดสภาพที่แพ้-แพ้ด้วยกันทั้งสองฝ่ายแบบที่เกิดในบางประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเจริญแล้วโดยแพทย์ต้องทำประกันการฟ้องร้องและรักษาแบบปกป้องตัวเอง (Protective medicine) ทำให้คนไข้ต้องถูกตรวจนั่นตรวจนี่เต็มไปหมดทั้งๆที่อาจไม่จำเป็น แต่หมอก็ตรวจกันไว้ก่อน เวลาถูกฟ้องจะได้มีหลักฐานว่าตรวจให้แล้ว คนไข้ต้องจ่ายแพง พอมีปัญหาการรักษาเกิดความผิดพลาดหรือภาวะแทรกซ้อนก็ฟ้องร้องแพทย์ในอัตราค่าเสียหายที่สูงมาก

ผมภาวนาว่าอย่าให้เกิดขึ้นเลยในเมืองไทยเรา ที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งรอยยิ้ม พุทธศาสนา ขอให้สามารถจรรโลงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างแพทย์กับคนไข้ไว้ให้ได้ ร่วมกับความรู้สึกแบบยาขอหมอวาน ให้และรับกันด้วยใจมากขึ้น

  • ข้อความคืบเศษที่บันทึก ณ เวลาที่ผมเข้ามาเยี่ยมชมอีก มีผู้เข้ามาคลิ๊กชม 1192 ครั้งแล้วครับ มีจำนวนโพสต์ 8 ครั้ง รวมที่จะคลิ๊กส่งครั้งนี้เป็นโพสต์ที่ 9  สวัสดีตอนเช้าครับ

เข้ามาชื่นชมและยินดีกับคนที่เป็นหมอครับ

ผมนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เป็นหมอของมนุษย์ นึกถึงหมอชีวกะ และบรรดาพระสงฆ์ที่ก็เป็นหมอรักษาจิตใจของมนุษย์ด้วยเหมือนกัน

ขอบคุณสำหรับข้อเขียนดีๆ นี้ครับ

สวัสดีค่ะ

  ความทรงจำที่ยังมีอยู่ คือครั้งหนึ่งคุณหมอได้เขียนถึง สถานีอนามัย ด้วยความเห็นใจ และมีการพูดคุยกันต่อมาหลายกระทุ้ และคุณหมอได้ยกมา เป็นบันทึก ระหว่างดิฉัน กับคุณหมอ ทำให้ระลึกถึงเสมอว่า แม้งานจะยากลำบาก แต่มีคนหนึ่ง เข้าใจวิชาชีพของเรา

ขอบคุณประเทศชาติ ที่ได้มีหมอที่ดี เกิดขึ้นในแผ่นดินค่ะ

อ่านแล้วทำให้อยากเป็นหมอมากเลยค่ะ

อยากเป็นหมอจังเลย

ขอเอาไปทำข้อสอบหน่อยน่ะค่

ขอบพระคุณค่ะ เป็นอีกแรงบันดานใจเลยค่ะ หนูจะตั้งใจเรียนรู้ และจบมาเป็นหมอที่ดีค่ะ ตั้งใจว่าจะทำงานที่โรงพยาบาลชุมชนค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท