วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๙ ผมเดินทางไกลไปเรียนจากผู้รู้ ท่านประจำอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มอ. วิทยาเขตหาดใหญ่ รองศาสตราจารย์ไพโรจน์ คีรีรัตน์ ท่านเป็น "อาจารย์ผู้พัฒนาครู" และคิดว่าท่านจะเป็น "ครูผู้สอนอาจารย์" ในด้านการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ปศพพ.) ด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัย ... (ผมเคยเขียนสะท้อนการเรียนรู้จากท่านแล้วครั้งหนึ่ง อ่านได้ที่นี่)
การสนทนาเป็นไปอย่างสนุกได้เรื่องประเทืองปัญญา จุดเด่นคือคนไม่เยอะ จึงได้อภิปรายเสนอความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และมี feedback จากทุกประเด็น เห็นข้อสรุปที่ชัดเจนว่าการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ในมหาวิทยาลัยทำอย่างไร เน้นจุดไหน ที่ทำมาได้ผลอย่างไร ฯลฯ
การพูดคุยครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งใดๆ ที่มักเริ่มจากจุดมุ่งหมายและปัญหาที่มักกำหนดมาด้วยตนเองหรือกระบวนกรกำหนดไว้ แต่การสนทนาเริ่มตั้งแต่ร่วมกันหาว่าอะไรที่เราอยากคุย อยากคุยแบบไหน กระบวนการควรเป็นอย่างไร จะเปลี่ยนแปลงจาก "ตุ๊กตา" ที่ท่านวางไว้หรือไม่ควรจะใช้เวลาเท่าไหร่ พร้อมๆ กับการแลกเปลี่ยนกันไปมา
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มากๆ คือวิธีการตั้งคำถาม เป็นการถามที่ไม่ได้มุ่งให้ได้คำตอบ เช่น ไม่ใช่ถามว่า จะทำให้เข้าใจปศพพ. อย่างถูกต้องอย่างไร? หรือ อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดของการทำให้ผู้เรียนเข้าใจ ปศพพ. อย่างถูกต้อง? แต่ตั้งคำถามว่า จะตั้งคำถามอย่างไรให้นำไปสู่ความเข้าใจวิธีการทำให้ผู้เรียนเข้าใจได้อย่างถูกต้อง?
กลไกที่ท่านใช้คือ บูรณาการทั้งเนื้อหาและทักษะเกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงลงในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาเสริมหลักสูตรของคณะขนาด ๑ หน่วยกิตวิชาหนึ่ง เป็นวิชาเรียนทั้งภาคเรียน ไม่มีห้องเรียนประจำ อาจารย์ผู้สอนจะทำความเข้าใจร่วมกันถึงจุดมุ่งหมายและขั้นตอนวิธีการสอนและทำหน้าที่เป็นเหมือน "ผู้ตั้งปัญหา" (ยิงคำถาม) มากกว่าจะเป็น "ที่ปรึกษา" เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้
วิธีการคือแบ่งนักศึกษาเป็นกลุ่มๆ ละ ๕-๖ คน แล้วมอบหมายให้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ในโรงเรียน ด้วยโจทย์ประมาณว่า จะทำอย่างไรก็ได้ให้นักเรียนเข้าใจปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถูกต้องผ่านการพานักเรียนลงมือทำ ใช้การเรียนรู้แบบโครงงานหรือกิจกรรมจิตอาสา ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านการลงมือทำ แล้วกลับมานำเสนอเป็นระยะๆ ตั้งแต่ นำเสนอ "ข้อเสนอโครงงาน" -> นำเสนอหรือสาธิตกิจกรรมที่จะนำไปสอนนักเรียน ->นำเสนอรายงานความก้าวหน้า ->นำเสนอผลการเรียนรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม โดยมีอาจารย์และตัวแทนครูที่อยู่โรงเรียนช่วยกัน "ตั้งคำถาม" และสะท้อนการเรียนรู้ของผู้เรียน
โดยสรุปคือ การใช้กิจกรรมหรือโครงงาน เป็นเครื่องมือ (หรือท่านใช้คำว่าตัวกลาง) ทำให้นักศึกษาเข้าใจ ปศพพ.
หลักคิดที่ตกผลึกแล้วจากการปฏิบัติและเห็นผลชัดแล้ว ของ รศ.ไพโรจน์ คือ การสร้างความเข้าใจและเข้าถึงความ "พอเพียง" จากการฝึกใช้เหตุและผล ท่านบอกว่าต้องเริ่มที่การฝึกคิดวิเคราะห์เหตุและผล พิจารณาจากสไลด์ของท่านด้านล่างครับ
ผมเรียนรู้จากท่านผ่านสไลด์นี้ดังนี้ครับ
บันทึกต่อไป มาดูโมเดลของอาจารย์พีรวัศ กี่ศิริ ที่ท่านได้นำมาเสนอในการเสวนาครั้งนี้ด้วย
ขอบคุณมากครับอาจารย์
สวัสดีป่ีใหม่ไทย ครับอาจารย์