วันละหลายครั้งที่โกรธคนนั้น เกลียดคนนี้ อิจฉาคนโน้น ชีวิตที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท เร้าร้อนทุรนทุราย และมักจะโทษคนอื่นเสมอว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราโกรธ เรารู้สึกทุกข์ทรมานกับอารมณ์อย่างนี้มาเป็นเวลานานมากจนรู้สึกว่าจะทนไม่ไหวแล้ว (ใกล้บ้า) พอดีช่วงนี้เป็นเวลาที่ปิดภาคเรียน ทำให้ว่างจากการสอนหน้งสือ ว่างจากการพบปะผู้คน จึงทำให้เรามีโอกาสถอยห่างจากสังคมที่เรารู้สึกสับสนว้าวุ่น มีเวลาได้ศึกษาธรรมะ มีเวลาทบทวนเรื่องราวของตัวเราที่ผ่านมาว่าเราเอาแต่โทษคนอื่น ด่า ตำหนิคนอื่น และมันก็ทำให้เรายิ่งโกรธ ยิ่งโมโห ยิ่งทุกข์ไม่รู้จบ เราพบว่าที่เราต้องทุกข์ทรมานด้วยความโกรธ เกลียดนั้นมันมาจากจิตใจความคับแคบ ความมากเรื่อง ความหลงตัวเองว่าดีและฉลาด จึงคิดว่าต่อไปนี้เมื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเรา เราเปลี่ยนมาด่า ตำหนิตัวเราเองน่าจะดีกว่า แล้วทุกเรื่องจะจบลงด้วยความสงบปล. คนเราเกิดมาพร้อมกับความทุกข์แต่อย่าขังทุกข์ไว่กับตัว
ความทุกข์ของคนเรานั้นมักจะมีมาเสมอๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเก็บความทุกข์นั้นมาคิด หรือเก็บไว้ในสมองเราหรือเปล่า ถ้าเรารู้จักถอยให้ห่างจากความทุกข์นั้นๆ เราก็จะรู้สึกสบายขึ้น เหมือนกับการยกภูเขาออกจากอกใช่มั้ยคะ ทำใจให้สบาย...เลิกคิดและเลิกกังวล เราก็จะ Happy
เป็นคติน่าสนใจดีนะ ตรงกับที่เคยศึกษามา