โครงการเครือข่ายประสานงานวิจัยคลินิกสหสถาบัน (ควคส.)
โครงการนี้ดำเนินการมาแล้ว 3 ปี โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สวรส. (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข) ในลักษณะโครงการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการวิจัยคลินิก (capacity building) สำหรับปี 2549 ได้รับเงินสนับสนุนจาก วช. & สวรส.
ผมได้รับจดหมายเชิญจาก ศ. นพ. ปิยทัศน์ ทัศนาวิวัฒน์ ผู้ประสานงานกลางของโครงการ ซึ่งเราเรียกชื่อย่อ ๆ กันว่าโครงการ CRCN (Clinical Research Collaboration Network) เข้าร่วมประชุมผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้คำปรึกษา กำหนดเป้าหมาย และชี้แนะแนวทางดำเนินงาน ในวันที่ 4 พ.ย.48 ตอนบ่าย แต่ผมติดนัดอื่นที่ชะอำ จึงให้ความเห็นในบล็อกนี้แทน
อ่านจากเอกสารที่ส่งมา โครงการ CRCN ทำหน้าที่หนุนคนอื่นให้สร้างผลงานวิจัย ผลงานวิจัยไม่ได้เกิดจาก CRCN เอง CRCN เป็นหน่วยให้บริการด้าน networking และ technical support การวัดผลงานของ CRCN อยู่ที่ผลงานของโครงการวิจัยซึ่งจะต้องไปหาเงินสนับสนุนเอาเอง หรือ CRCN จะช่วยแนะนำเชื่อมโยงให้
นี่คือความซับซ้อนและความยากของการจัดการ CRCN
ในเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดกลุ่มวิจัย 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีผลงานมากบ้างน้อยบ้าง มีคำถามสำคัญคือผลงานนั้น justify ทรัพยากรที่แหล่งทุนจ่ายไปหรือไม่ ได้ตกลงกับแหล่งทุนเรื่องวิธีวัดผลสำเร็จหรือ KSI (Key Success Indicators) ไว้อย่างไร ใครเป็นผู้เซ็นสัญญาความตกลง
ตามเอกสารระบุเป้าหมายสำคัญคือ capacity building ก็จะเกิดคำถามว่าจะวัดผลของ capacity building โดยใช้อะไรเป็นตัวชี้วัด ถ้าใช้ผลงานตีพิมพ์เป็นตัวชี้วัด ก็ต้องผลิตผลงานนี้ออกมา ทางผู้สนับสนุนทุนจึงจะสามารถให้การสนับสนุนต่อได้
ผมไม่ทราบว่าสมาชิกของกลุ่มวิจัยแต่ละกลุ่มได้มาอย่างไร มีกลไกในการคัดเลือกอย่างไร เดาว่าเข้ามาโดยสมัครใจ เพราะเป็นผู้ที่ทำงานด้านนั้น ๆ ในแต่ละสถาบัน โดยที่งานหลักคือบริการทางคลินิก ซึ่งจะเป็นคนที่มีจุดแข็งคือมีผู้ป่วยหรือที่เราเรียกว่ามี material หรือ data แต่มักมีจุดอ่อนด้านความสันทัดในการวิจัยและไม่ค่อยมีเวลา ก็จะเกิดปัญหาว่าสมาชิกเหล่านี้มีความรับผิดชอบในการผลิตผลงานวิจัยแค่ไหน ท่านเหล่านี้ได้สัญญาด้านความทุ่มเททำงานวิจัยแค่ไหน ถ้าทุ่มเทแล้วแต่ก็ได้ผลเพียงแค่ระดับปานกลาง ตีพิมพ์ไม่ได้ จะทำอย่างไร
ดังนั้นข้อคิดเห็นของผมก็คือ grant ในปีที่ 4 ของโครงการ (พ.ศ. 2549) ควรให้ตรงไปยังแต่ละกลุ่มวิจัย โดยให้กลุ่มวิจัยเสนอมาว่า output คืออะไร และเจรจาทำความตกลงกัน งานเจรจาทำความตกลงกันคงจะไม่น้อย ผมนึกไม่ออกว่าใครจะเป็นผู้ลงแรง (สมอง) และเวลา
ผมเคยเรียน อ. หมอปิยทัศน์ ว่าถ้าจะให้โครงการนี้ (ซึ่งเป็นโครงการที่เป้าหมายดีมาก แต่อ่อนด้านการจัดการ) เกิดผลจริงจัง อ. หมอปิยทัศน์ต้องจัดการโครงการนี้แบบ fulltime
วิจารณ์ พานิช
27 ต.ค.48
ไม่มีความเห็น