จากการเขียนบันทึกของผมในgotoknowมาราว 7 เดือน ผมมีความรู้สึกว่าทุกครั้งที่ปลายนิ้วชี้ของผมกดแป้นบันทึกเพื่อสั่งตีพิมพ์บทความแต่ละบทความ มันแสนจะสร้างความรู้สึกสุขใจสบายใจให้กับผมอย่างบอกไม่ถูกครับ
ผมวิเคราะห์ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสาเหตุทำให้ผมมีความรู้สุขเช่นนั้น ผมว่ามันน่าจะมีสาเหตุมาจากหลายประการรวมกัน แตกต่างๆไปตามพื้นฐานของแต่ละคน อย่างผมนี่ต้องเสียค่าบริการอินเตอร์เน็ตให้กับทีทีแอนด์ทีเดือนละหหกร้อยกว่าบาท มันคือต้นทุนที่ผมจ่ายไป ผมตีพิมพ์ได้หนึ่งบทความมันก็ทำให้ผมมีความรู้สึกคุ้มค่า คุ้มทุน ผมต้องทำงานหลายๆอย่างในแต่ละวันทั้งงานในหน้าที่ราชการเยอะแยะมากมาย งานการส่วนตัวอีกจิปาถะ เมื่อตีพิมพ์ได้ ผมก็มีความรู้สึกภูมิใจว่าเห็นไหมงานเรายุ่งปานไหนเราก็บันทึกได้ เราก็เก่ง ....(นี่หว่า) ระบบเทคนิคต่างๆที่เราจะต้องอาศัย หรือใช้ในการบันทึกแต่ละครั้งเราไม่ชำนาญต้องลองผิดลองถูกต้องอ่านต้องถามคนโน้นคนนี้ ต้องฝึกฝนตนเองเรียนรู้ฟันฝ่ากว่าจะสำเร็จได้สักบันทึก เมื่อจัดแจงได้ผมก็รู้สึกว่าผมก็เอาชนะอุปสรรคนั้นได้ เป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกันที่เอาชนะตัวเองได้ ...และจากสาเหตุอื่นๆอีกหลายๆสาเหตุที่ทำให้ผมมีความสุข ...แต่สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้สั่งตีพิมพ์หรือบันทึกบทความแต่ละบทความคือการได้ปลดปล่อยความคิดนึกของตนเองออกไป เป็นความรู้ประสบการณ์ภายในตัวของผมเอง จะเป็นประโยชน์กับคนอื่นหรือไม่ผมไม่ทราบ บอกได้แต่ว่าสิ่งที่ได้ให้ไปมันเป็นความตั้งใจของผม เมื่อได้ให้ไปแล้วผมก็มีความสุขใจ
ฉะนั้นเมื่อกดแป้นบันทึก หรือสั่งตีพิมพ์ในหน้าเพิ่มบันทึกแต่ละครั้ง มันทำให้ผมมีความสุข และเมื่อข้อความที่จะขึ้นตามมาในหน้าต่อไปว่าบันทึก....ชื่อบันทึกของเราเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ยิ่งทำให้ผมมีความรู้มีความสุขยิ่งขึ้นไปอีก....เพราะความสุขที่เกิดขึ้นอย่างนี้นี่เองมันทำให้ผมต้องเรียนรู้ค้นคว้างานการที่ทำอย่างไม่รู้จบ จะเหน็จจะเหนื่อยยากสักปานใดก็ตาม เพื่อทำให้ตนเองได้มีความสุขอีก....อีก ..เรื่อยไป ประมาณว่าอาการติดเกมส์ของเด็กอย่างไงอย่างงั้น.....ช่วงที่ gotoknow มีปัญหาทางเทคนิคบางประการก็ดี หรือช่วงย้ายสำมะโนครัวgotoknow จากสหรัฐมาเมืองไทย บันทึกแล้วขัดข้องทางเทคนิค หรือไม่ได้บันทึก มันมีอาการหงุดหงิดเอานะครับ.....gotoknow ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้วหรือเปล่านี่....... ขอบคุณมากๆครับ gotoknow
ท่านละ! ....เมื่อยามที่ท่านกดแป้นบันทึกบทความของท่านไป ท่านมีความรู้สึกอย่างผมหรือเปล่าครับ
บันทึกมาเพื่อการแลกเปลี่ยน สร้างสีสันให้ห้องย่อย gotoknow ในงานมหกรรมจัดการความรู้แห่งชาติครั้งที่ 3 วันที่ 1-2 ธันวาคม 2549 คึกคักครับ
เป็นความรู้สึกร่วมที่เข้าใจได้ทันทีเลยค่ะ มีความสุขที่ได้เขียน ได้ปลดปล่อยความคิด ที่ทำให้เราอยากคิดอีก เรียกได้ว่าเราได้บริหารสมองตลอดเวลา ซึ่งเป็นประโยชน์กับตัวเราเอง จริงไหมคะ
ส่วนประโยชน์ต่อผู้อื่น ก็เช่นที่ได้รับจากการอ่านบันทึกครูนงนี่แหละค่ะ ได้รับความสุข ได้รู้ว่ามีคนคิดเหมือนหรือแตกต่างจากเรา ได้แลกเปลี่ยนต่อยอดเติมเต็มกับกัลยาณมิตรทั้งหลาย ยิ่งรู้ว่าสิ่งที่เราเขียนมีคนได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะทางจิตใจหรือการกระทำ ก็ยิ่งเป็นการสร้างความสุขให้เกิดกับคนเขียน คนอ่านและคนที่เข้ามาพูดคุย
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่า เราต้อง ขอบคุณ Gotoknow ที่ทำให้การ blogging ของเรา มีประโยชน์กับบ้านเมืองของเราไปด้วยค่ะ
เขาเรียกว่า "แฟนพันธุ์แท้" หรือเปล่าคะ
ไม่ได้ตามใครมา แต่โผล่มาเองค่ะ ... หลังจากบรรเทาภาระกิจงานที่ยุ่งเหยิงค่ะ
รู้สึกคล้ายกันเลยครับ การที่เราได้สร้างผลงาน(บันทึก) สักอันหนึ่งคล้ายกับได้สร้างอะไรที่สำเร็จออกมา ได้ทบทวนตัวเองอีกด้วยว่าได้คิดทำอะไรไป บางทีก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาระหว่างพิมพ์
ที่สำคัญ คือ ทุกท่านในที่นี้จะมีความรู้ ความสุขที่ได้มาเผยแพร่ให้ทุกคนได้ไป
ผมก็หนึ่งในคนติด G2K ด้วยครับ อิอิ
เรียน พี่น้องชาวบล็อก ทุกท่าน
ผมจึงฝากคำถามประจำวัน ! สำหรับถามตัวเราเองเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ(บันทึก)ว่า "วันนี้เราได้ใช้ปลายนิ้วชี้กดแป้นความสุขแล้วหรือยัง"
คุณเมตตา ครับ
ดีใจด้วยครับที่มีความสุขวันนี้...พรุ่งนี้ และวันต่อๆไป
อ.ลูกหว้า ครับ
อาจารย์จะเรียกมันว่าแป้นอะไรก็ได้ครับ ที่อาจารย์กดแล้วมันรู้สึกสุขใจที่ได้ให้ ได้แบ่งปันความรู้ให้กับมวลหมู่สมาชิก gotoKnow ของเราด้วยความบริสุทธิ์ใจครับ ดีใจที่อาจารย์เห็นคุณค่าของ gotoKnow