Patho OTOP2 (2) : โครงการที่น่ารัก "ประหยัดไฟช่วยชาติ..."


โครงการประหยัดไฟช่วยชาติของ OPD Lab และ Center Lab   เป็นโครงการ Patho OTOP2   ของกลุ่มประหยัดพลังงาน   วันนี้มีพี่อร (อรอนงค์)   เป็นตัวแทนมานำเสนอความสำเร็จของงาน

พี่อรพูดไปยิ้มไป   แถมมีหยอดมุกทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจเป็นระยะ    เล่นเอาคนฟังขำ (เกือบ) กลิ้ง     ช่วงนี้บรรดาผู้ฟังเริ่มอารมณ์ดี   เพราะทานข้าวอิ่มกันแล้ว    อ้อ..ลืมเล่าค่ะว่า    มีแจกข้าวและน้ำด้วยนะคะ   วันนี้เป็นกระเพราไก่ไข่ดาวราดข้าว   ข้าวคะน้าหมูทอด   และอีกอย่าง (น่าจะเป็น) ข้าวหมกไก่      กินข้าวฟรีก็ถือเป็นการประหยัดช่วยเศรษฐกิจส่วนตัวให้พอเพียงยิ่งขึ้น      อิ่มข้าวแล้วยังอิ่มใจ  อิ่มความรู้อีกแน่ะ   ดีๆ แบบนี้หาได้ไม่ง่ายหรอกนะ....ขอบอก

พี่อรอนงค์

เอาล่ะ... อิ่มแล้วมาฟังกันต่อ    ขอสารภาพตามตรงว่าแรกๆ  ที่ได้ยินโครงการนี้    ยังนึกในใจว่า    การปิดไฟเปิดไฟนี่เป็นโครงการได้ด้วยเหรอ ?    แต่พอนึกๆไปแล้ว...ว่า   ไฟที่โต๊ะทำงานของเราเอง  ช่วงไหนที่ไม่ได้ใช้   มีปิดมั๊ยนะ   มันก็มีปิดบ้าง  แต่บางทีก็ลืม (ลืมไปว่าไฟเปิดอยู่)     นั่นแค่ไฟดวงเดียว    แต่ที่ OPD Lab  มีไฟหลายๆๆๆๆสิบดวง   และพัดลมอีกหลายตัว   ช่วงเช้าที่มีผู้ป่วยมาใช้บริการมาก   จะเปิดกันเต็มที่    ส่วนช่วงบ่ายคนน้อยลง    ก็จะทยอยปิด    ซึ่งก่อนทำโครงการ    การปิดหรือไม่ปิดถือเอาตามสะดวกและเท่าที่นึกได้

พอมาทำโครงการ    จะจัดกำหนดเวลาเปิดปิด (ตามความเหมาะสม)    จัดเวรผู้รับผิดชอบในแต่ละวัน   นอกจากนั้นก็มีแผ่นป้ายเชิญชวน  และบอร์ดข้อมูลข่าวสารเรื่องการประหยัดพลังงาน    ตั้งอยู่บริเวณหน้า OPD Lab  

หลังทำโครงการ    สามารถลดค่าไฟได้โดยเฉลี่ยถึง 17 %     ค่าไฟนี้ได้มาจากการคำนวณ (เนื่องจากไม่มีมิเตอร์แยก)  โดยเจ้าหน้าที่จากวิศวซ่อมบำรุง  ที่ร่วมอยู่ในโครงการด้วย      คือเมื่อปิดไฟปิดพัดลม   ก็จะบันทึกไปว่าปิดกี่หลอดกี่ตัว    แล้วคำนวณกลับไปเป็นกระแสไฟและค่าไฟ

พี่อรบอกว่า   โครงการนี้ช่วยลดได้เยอะจริงๆ ด้วย    และอันที่จริงน่าจะลดได้มากกว่านี้   เพราะบางทีปิดสวิตท์แต่ว่าลืมบันทึก    ซึ่งอันนี้ช่วงหลังๆ เป็นบ่อย     เพราะชักจะติดนิสัย "ชอบปิดไฟ"    วันไหนไม่ได้ปิดรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง    บางทียังเผลอไปปิดไฟของที่อื่นด้วย  (ด้วยเห็นว่าเปิดทิ้งไว้....เสียดายค่าไฟน่ะ)

โครงการนี้เป็นการ "สร้างนิสัย (ที่ดี)  และแสดงให้เห็น (ว่าทำได้จริงๆ และเห็นผล)"    และนอกจากเจ้าของโครงการจะเป็นปลื้มที่ได้ช่วยชาติแล้ว     ยังได้ฝึกการทำงานเป็นทีมด้วยนะ

มีคณะกรรมการท่านหนึ่งเสนอแบบขำๆ  ว่า  น่าจะตั้งรางวัลนำปิด  (คล้ายๆ รางวัลนำจับ)    ว่าใครปิดไฟได้เยอะมีรางวัลให้   พี่อรตอบแบบขำยิ่งกว่า..ว่า.....อย่างนี้เดี๋ยวก็แย่งกันปิดไฟ   OPD Lab   ได้มืดกันพอดี....55555

อ้อ...พี่อรตบท้ายด้วยว่า   โครงการปิดๆ แบบนี้  จะทำต่อนะคะ   (แต่คงไม่บันทึกแล้ว)      ทำเพราะเห็นว่าดีและติดเป็นนิสัยซะแล้ว........ได้ช่วยชาติแล้วรู้สึก...   ปลื้มค่ะ....จบ

 

หมายเลขบันทึก: 58877เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2006 15:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
คุณนิดหน่อยเล่าได้น่ารักจัง...ฝากชมและคำอวยพรไปยังพี่อรอนงค์ด้วยนะคะ ขออวยพรให้ได้พบรักกับหนุ่ม "การไฟฟ้าฝ่ายผลิต"  ด้วยอานิสงค์จากโครงการปิดๆ แบบนี้ค่ะ

อดไม่ได้ต้องขอรีบบอกคุณเมตตาว่า พี่อรอนงค์เธอหน้าเด็กค่ะ พบรักมานานมากแล้วจนลูกเรียนเภสัชฯปี 2 แล้วล่ะค่ะ

แต่ที่แน่ๆคือ ใครพบก็ต้องรักเธอแน่ เพราะเธอน่ารัก ยิ้มหวาน เธอมีบล็อกของตัวเองด้วยนะคะ เขียนได้น่ารักๆตามสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ไว้จะไปลุ้นให้เขียนอีกที หลังจากห่างหายไปสักพักแล้ว

  • ดีจังเลยที่ช่วยกันประหยัด
  • อยากกิน
  • กระเพราไก่ไข่ดาวราดข้าว   ข้าวคะน้าหมูทอด   และอีกอย่าง (น่าจะเป็น) ข้าวหมกไก่     

ขอสารภาพตามคุณ nidnoi ด้วยคน ตอนแรกที่ได้ยินก็คิดเหมือนกันว่า   การปิดไฟเปิดไฟนี่เป็นโครงการได้ด้วยเหรอ ? แล้วก็ทำได้จริงๆ และ ก่อให้เกิดประโยชน์ที่กว้างขวางกว่าแค่ทำโครงการ  เพราะคิดว่า โครงการนี้ ทำให้หลายคนในภาค นอกจากคนผู้ทำโครงการแล้ว เกิดอาการปิดไฟ (เวลาไม่ใช้งาน) จนเป็นนิสัย (อย่างน้อยก็ตัวเองคนนึงละค่ะ)

อยากยกความดีของโครงการนี้ส่วนหนึ่งให้คุณเพ็ญแข center  ผู้กระตุกความคิดให้คุณอรอนงค์

คุณเมตตาคะ
พี่อร   น่ารักอย่างที่พี่โอ๋บอกจริงๆ ค่ะ เจอหน้าเมื่อไหร่ยิ้มตลอด   ไม่เคยเห็นหน้าบึ้งเลย    ส่วนคำอวยพรของพี่เมตตา    นิดหน่อยขอรับไว้เอง...นะ..น่านะ

คุณ ดร.ขจิต  คะ

วันพุธและพฤหัสนี้     จะมีการนำเสนอ pathoOTOP  อีกครั้ง     คุณขจิตไม่ต้องทานข้าวเที่ยงนะคะ   นิดหน่อยจะทานเผื่อ   จะยอมทานคนเดียวสองห่อ

เห็นด้วยกับ  อ.ปารมีค่ะ  ว่าพอฟังแล้วก็เกิดอาการ "อยากปิดไฟ"   ขึ้นมาบ้าง

ปัญหาก็มีอยู่ว่า  ความรู้สึกแบบนี้จะมีอยู่นานมั๊ย...ยังสงสัยตัวเองเหมือนกัน

พี่ nidnoi เล่าได้เนียนจังเลยค่ะ

อยากบอกว่าตั้งแต่เข้าร่วมโครงการของพี่อรทำให้ปลูกฝังนิสัยได้จริง ทั้งทีปรกติก็งกเอ๊ย !ช่วยประหยัดอยู่แล้ว -อิ อิ

ขอบคุณคุณศิริ  ค่ะ

อย่างนี้เราต้องมีโครงการแบบนี้บ่อยๆ  นะ  จะได้ปลูกและฝัง   และรดน้ำพรวนดิน  นิสัยดีๆ  แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท