การตรวจสุขภาพก่อนหมดสภาพ หรือการไม่รอซ่อมเมื่อสุขภาพเสีย/ป่วยแล้ว คือ กระบวนการค้นหาปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียสุขภาพ (ก่อนการป่วยเป็นโรค) เพื่อจัดการสร้างเสริมให้เหมาะสมกับบุคคลนั้น โดยเน้นตรวจก่อนการเป็นโรค แต่เมื่อตรวจแล้ว “ปกติ” ควรระมัดระวังป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค การซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์หากไม่พบความเสี่ยงของการเกิดโรคก็อาจไม่ต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือเอ็กซเรย์เพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น (ข้อความบางส่วนของข่าวจาก สปสช.)
การตรวจร่างกายควรต้องตรวจอะไรบ้าง และตรวจอย่างใด เช่น การชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง ควรตรวจทุกวัยอายุ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง การตรวจวัดความดันโลหิต ควรตรวจทุกครั้งที่มาพบแพทย์อย่างน้อยปีละ 1ครั้ง การตรวจความผิดปกติสายตา ทั้งชายและหญิง เมื่ออายุได้ 21 ปีขึ้นไปหรือตรวจวัดความสามารถในการมองเห็นได้อย่างชัดเจน ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 1ครั้ง การตรวจเต้านม (Clinical Breast Exam) สำหรับผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้หากอายุมากกว่า 20 ปี ก็ควรตรวจด้วยตนเองอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง สำหรับการตรวจหามะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ในหญิงที่มีเพศสัมพันธ์หรือมีอายุมากกว่า 35 ปี ควรจะได้รับการตรวจปีละครั้งติดต่อกัน 3 ปี หลังจากนั้นก็ควรตรวจทุก 3 ปี จนถึงอายุ 65 ปี ส่วนการตรวจปัสสาวะและอุจจาระ ตรวจได้ทุกเพศ ทุกวัย ควรจะได้ตรวจทุก 1 ปี และทุก 3 ปี ครับ
การส่งเสริมสุขภาพหรือการป้องกันการเจ็บป่วย
มีต้นทุนที่ถูกกว่าการรักษา และการฟื้นฟูสภาพในภายหลัง
ทั้งนี้ทั้งต้นทุนที่เป็นสุขภาพของตนเอง และสังคม
รวมถึงต้นทุนการเงินการคลังสุขภาพในภาพรวมด้วยครับ
ไม่มีความเห็น