หลังจาก " มองตนเอง" แล้ว ขั้นตอนไปคือ "มองงาน" โดยให้วาดรูปตนเองนั่งกรรมฐาน ด้านล่าง แล้วเริ่มคิดอย่างใคร่ครวญใน ๔ ประเด็นตามลำดับ
รูปนี้สามารถเขียนได้โดยไม่ปากกาเลย นั่นหมายถึง ผู้วาดรูปนี้จะเริ่มจากตรงไหนก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา ผมพยายามสื่อกับคุณครูว่า นี่เป็นวิธีการเตรียมตัว เตรียมพร้อม หรือผมใช้คำว่า "เตรียมภาชนะ" โดยการรวมสติและสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่กำลังจะทำ เป็นเหมือน "ทางเข้า" หรือฝรั่งมักเรียกว่า "Check in"
ตัวอย่างที่ ๑
ลองดูตัวอย่างของ รองฯ อ้อย โรงเรียนเทศบาลสามัคคีครับ ท่านสติ และสมาธิดีเยี่ยม เข้าใจ และให้คำตอบแบบตรงเป้าหมาย "เป๊ะ" ครับ
ชัดเจนมากๆ ครับ .... จากรูปท่านบอกความสำเร็จอย่างภูมิใจว่า นักเรียนได้รับรางวับชนะเลิศการแข่งขันกีฬา อปท. ทั้งระดับเขตและระดับภาค ตลอด ๙ ปีที่ผ่าน ....สุดยอด สุดยอด สุดยอดครับ
ตัวอย่างที่ ๒
สำหรับตัวอย่างของครูเต็ง หรืออาจารย์สุรียนต์ บูรพา BP ของท่านคือ "การสอนวรรณคดี"
ตัวอย่างที่ ๓
เป็น BP จากครูปุ๊ก โพธิศรี คือ การจัดการเรียนการสอนแบบ "เรียนปนเล่น" หรือ "เพลิน" หรือ Plearn มาจากคำว่า (Play+Learn) ผมมีโอกาสเข้าไปนั่งฟังครูปุ๊กเล่าเรื่องให้ฟังด้วยครับ เรื่องการสอนของครูปุ๊กนั้น ท่านใช้คำว่า "การสอนด้วยประสบการณ์ตรง" ท่านยกตัวอย่างเรื่อง การมอบหมายให้เด็กๆ ไปหาดักแด้ หรือลูกน้ำ แล้วนำมาเป็นสื่อในห้องเรียนอนุบาล ทุกๆ วัน เด็กๆจะช่วยกันสังเกตและอธิบายการเปลี่ยนแปลง จนกลายเป็นผีเสื้อ กลายเป็นยุง นักวิชาการเรียนการเรียนรู้แบบนี้ว่า การเรียนรู้แบบรู้จริง (Mastery Learning)... วิธีการของครูปุ๊กต้องถูกนำไปขยายผลให้กับครูอนุบาลทุกคนครับ... เทศบาลจะรุดหน้าแบบก้าวกระโดดทีเดียว
ยังมีตัวอย่างอีกมากครับ ที่เขียนออกมาได้แบบนี้ .... สรุปคือ ครูทุกคนและผอ.ที่เข้าร่วม เรามีหัวเรื่อง BP แล้ว ๔๒ หัวเรื่องครับ ....
คำถามต่อไปคือ แต่ละ BP มีขั้นตอนการทำอย่างไร ... ไปต่อกันบันทึกหน้าครับ
นี่ไงครับท่านรองฯ วัลลภ (รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองมหาสารคาม) ท่านอาจารย์ไสว (ศึกษานิเทศก์) "เรื่องดีที่อยากเล่า" .....
ไม่มีความเห็น