เรื่องเล่านี้เกิดจากความขี้เหนียวของดิฉัน หลายวันก่อนดิฉันใจลอยขับรถคู่ชีพไปเสยเสาไฟฟ้าทำเอาไปเลี้ยวซ้ายเสียหาย ถามที่ศูนย์มาสด้าเขาบอกว่า 1,800 บาท ด้วยความขี้เหนียวไม่ยอมเข้าศูนย์คิดว่าน่าจะหาได้ตามร้านอะไหล่ยนต์ แอบหวังเล็กๆว่าพ่อบ้านจะเป็นธุระให้ที่ไหนได้คุณบอกว่า "พี่เลี้ยงลูกเองเธอไปจัดการ" ด้วยความว่าง่ายวันนั้นทั้งวันดิฉันขับรถเวียนในหาดใหญ่ไปบ้านอะไหล่ยนต์รวมจำนวน 8 ร้านในทำเลร้านที่อยู่ต่างทิศต่างที่ คนละมุมเมือง โดยการบอกต่อของแต่ละร้าน ....ลองไปร้านนั้น....ลองไปร้านนี้....ดิฉันก็ไปเรื่อย...นึกสนุกดีเหมือนกันได้เรียนรู้ประสบการณ์...หลังจากเข้าออกอยู่หลายร้านมีอยู่ร้านหนึ่งบอกว่า "900 พี่...แต่ต้องรอของ 3 วัน"...ดิฉันจึงจากมาและบอกว่า "เดี๋ยวพี่จะโทรมานะคะถ้าจะพี่เอา".....แล้วจึงไปอีกร้าน ร้านนี้ดูดีเถ้าแก่ดูเชื่อถือได้ดิฉันคุยอยู่ซักพัก..แกบอกว่า...ไม่มีของต้องสั่งราคา 600 บาท อีก 2 วันค่อยมา
แล้วดิฉันก็กลับบ้านด้วยความอิ่มใจว่าไปเล่าคนที่บ้านว่าจาก 1800 ดิฉันหาได้ในราคา 600.-ต้องรอ 2 วัน
ดิฉันไปตามนัดทุกครั้งเถ้าแก่บอกว่า"ยังไม่ได้อาทิตย์หน้ามาใหม่" ไปอีกครั้งยัง"ไม่มีครับลองมาดูใหม่อาทิตย์หน้า" เอาล๊ะ!....ไม่เป็นไรยังไงดิฉันก็จะยังไม่อยู่อีกหลายวัน ไม่อยู่รถไม่ได้ใช้รอหน่อยไม่เป็นไร "ไม่มีหายากรถเก่าแล้ว" รวมแล้ว 14 วันสำหรับร้านนี้ ดิฉันพูดกับเขาไม่เป็นไร......ค่ะเดี๋ยวจะไปหาร้านอื่น.....พลางโกรธเล็กน้อยทำไมไม่รู้จักโทรบอกลูกค้า...จะได้ไม่เสียเที่ยว
ดิฉันโทรกลับไปร้านเดิมที่บอกราคา 900.-......"พี่คะหนูจำไม่ได้พี่ต้องขับรถมาให้หนูดูใหม่อีกทีนะคะขอโทษค่ะมันหลายวันแล้ว" ระยะทาง 6 กม. ....ไปก็ไป...."อีกสามวันนะพี่...หนูจะโทรบอกเองถ้าของมา" ค่อยยังชั่ว.... ดิฉันรวมแล้ว 21 วันที่ดิฉันรอไฟดวงนี้เนื่องมาจากความขี้เหนียวของตัวเอง จริงแล้วงานนี้ถ้ารวมค่าน้ำมันที่ขับตระเวนหาร้าน.....ปาเข้าไปหลายบาทแล้ว
มองในมุมบวก ดิฉันเรียนรู้ว่า ร้านอะไหล่ยนต์ในหาดใหญ่มีทั้งหมด 32 ร้าน ร้านอะไหล่ยนต์แตกต่างจากร้านประดับยนต์ .....การดูแลลูกค้าสองร้านนี้เฉือนกันขาดลอย.....คราวหลังดิฉันก็จะรู้ว่าควรไปร้านไหน ด้วยคำสำคัญเพียงไม่กี่คำที่ให้เห็นถึงบริการที่แตกต่าง ซื้อของได้แล้วต้องไปให้ช่างให้อีกที ที่ร้านขายอย่างเดียวไม่รับใส่....เพราะเป็นงานของช่าง...ดิฉันพาของไปหาร้านประจำให้เขาใส่ให้พลางแอบมองหน้าดิฉับแบบ ขำๆ กับที่ดิฉัน....บ่น.....ให้เขาฟัง เขาพูดว่า "เรื่องง่ายของผมกลายเป็นเรื่องยากของพี่" เออจริงซิ "อย่างนี้กระมังที่เขาเรียกว่า....ให้มันรู้ว่าอาชีพใคร"
คูรขจิต..เสือปืนไว...หากเป็นดั่งที่คุณขจิตว่า "ดาวน์ลูกสาวไปก่อน เอาลูกสาวมาอยู่กับเรา ขาดส่งพ่อตายึดคืน" พี่ว่าบ้านพี่....ต้องแกล้งขาดส่ง ให้พ่อตายึดคืนตั้งแต่ปีแรกเลยเป็นแน่แท้.....
สวัสดีค่ะคุณเมตตา
ครูอ้อยโชคดีที่พ่อบ้านเป็นช่าง เรื่องประติ๋วค่ะ อิอิ
ช้างไชโย เธอเข็นรถ ฉานจะนั่ง อิอิ
อ.ธวัชชัยคะ พี่คิดอยู่เหมือนกันเรื่องจักรยาน ติดแต่ต้องรับส่งลูกนี่ซิ....พี่เพิ่งใช้คันเดียวนี้หล่ะปกติเค้าก็ไม่เกเร แต่พี่นะซิชอบขับรถกินซ้าย....ไม่รู้เป็นอะไร ข้าซ้ายเนี่ยถลอกปอกเปิกหมด ....สงสัยชินกับการขับมอเตอร์ไซด์ ชิดซ้ายแน่ ๆ
ไม่มีความรู้เรื่องรถค่ะ เลยต้องเอาเข้าศูนย์ทุกครั้งที่มีปัญหา ทั้งที่รถเราก็เก๊าเก่า...แต่ว่าก็สบายใจดีค่ะ ยอมเสียเงินแลกกับความสบายใจ
เคยซื้ออะไหล่มือสองหนเดียวค่ะ คือสวิตเปิดกระจกไฟฟ้าเสีย มีคนแนะนำว่าให้ซื้อของมือสองที่ร้านแถวๆ อุโมง (ถ.ศรีภู) เลยไปถามพี่คนหนึ่ง เค้าก็แนะนำว่า......ไปที่นี่ๆๆ ราคาเท่านี้ๆๆ ต้องดูของด้วยนะ เราก็ได้แต่ทำตาปริบๆ ว่า แล้ว..ดูยังไง (ตอนนั้นยังเด็กกว่านี้ เลยทำตาปริบๆ อ้อนพี่ๆ ได้) สุดท้ายพี่คนนั้นก็จัดการให้ค่ะ เฮ้อ..
จริงอย่างที่คุณเจษฏาว่ามั้ยน้า แต่ที่เกินมาเป็นค่าความรู้ล่ะกัน
^___^
1 ที่สามีใจแข็งน่าจะเป็นเพราะว่าแต่งงานมาหลายปีแล้วกระมัง
2 ทางใคร ทางมัน คนเหนือเขาพูดว่า ทางหนู หนูไต่ ทางไหน่ ไหน่เตียว (ผมลืมไปแล้วครับไม่แน่ใจว่า ไหน่ มันจะใช่กระแต หรือเปล่า)
3 ไม่ทราบว่าข้อ 1 ผมวิเคราะห์ถูกหรือเปล่า?