นินทาพ่อบ้านอีกครั้ง......ด้วยความเคารพ


อย่ามาทำอะไรให้สงสัยสิ จะได้ไม่แอบมานินทา นี่มีรูปการณ์ที่น่าสงสัย ใครล่ะจะไม่นินทา

เวลาอยู่ในหมู่เพื่อนฝูง  คุยกันสนุกสนานเฮฮามากที่สุดเรื่องที่คุยกันก็จะเป็นเรื่อง....เจ้านาย 

แต่เวลาคุยกันนั้นสถานที่ต้องรโหฐาน  น้ำเสียงต้องเบาและราบเรียบ  ลูกนัยน์ตาต้องแพรวพราว....ซึ่งใครจะโผล่มาหรือเปล่า  ..ก็ไม่รู้ 

เมื่อคุยเสร็จแล้วต้องเหยียบไว้ตรงนั้น  ประมาณนั้น  หรือไม่ก็  คนพูดนั่นล่ะถูกเหยียบก่อน.....

แต่ตรงกันข้าม  เรื่องที่คุยแล้วสนุก  ไม่เดือดร้อนใคร  นั่นคือ...คุยเรื่อง..แฟน....

ครูอ้อยไม่เคยคุยกับเพื่อนเท่าไรหรอกเรื่องนี้  แต่ชอบฟังเพื่อนๆเล่า..  เพื่อนๆยังถามว่า  " ไอ้อ้อยไม่มีเรื่องอะไรมาเล่าบ้างหรือ "

ครูอ้อยอมยิ้ม  และพูดสั้นๆว่า  " มี "

วันหนึ่งเมื่อ.....ปลายปีที่แล้วนี่เอง  ใกล้จะถึงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  พ่อบ้านของครูอ้อยก็ไม่ค่อยกลับบ้าน  มีภารกิจต้องอยู่เวรที่ทำงานประจำ หลายๆวันติดกัน  โดยเฉพาะเทศกาลงานรื่นเริง  พ่อบ้านของครูอ้อยไม่คอยมีเวลามาคุยกันสังสรรค์เฮฮากับลูกและภรรยาเท่าไรนัก 

นอกจากสมาชิกในบ้านบอกว่า  " สำคัญนะพ่อ  พ่อต้องมาให้ได้นะ " อะไรประมาณนั้น  เธอถึงจะอยู่เป็นเกียรติ

พ่อบ้านของครูอ้อยก็ไม่เคยขัดใจใคร  กับเพื่อนๆที่ทำงานขอแลกเปลี่ยนเวร  ก็ตกลงกับเขาไปทุกครั้ง  ใจกว้างเป็นแม่น้ำทีเดียว

และวันนั้นครูอ้อยก็ไม่เคยประพฤติปฏิบัติอะไรที่ไม่ดีกับพ่อบ้านสักครั้งเดียว   ในการค้นหาสิ่งแปลกปลอมในกระเป๋าของเธอ  แต่วันนั้นมีผีร้ายตัวหนึ่งดลใจให้ครูอ้อยเดินไป  เปิดกระเป๋า  และค้นหาสิ่งแปลกปลอม  ถ้าเอาวิชาที่ตำรวจสอนสุนัขจับยาเสพติดได้  ครูอ้อยก็จะทำ......

ความสงสัย  ไม่เข้าใครออกใคร  ครูอ้อยเจอสิ่งแปลกปลอม 3 สิ่งคือ...1.......2.......3......

เก็บไว้ไมได้ต้องถาม  ครูอ้อยสอนให้นักเรียนถามในสิ่งที่สงสัย  แล้วถ้าครูอ้อยไม่ถาม  ก็เสียชื่อครูอ้อย 

แต่ถ้าจะถามเธอเลย  ก็จะเสียฟอร์มของครูอ้อยที่ตั้งฟอร์มไว้สูงมาก

ครูอ้อยปรึกษาลูกๆ  และเล่าเรื่องให้เธอๆฟังว่า  "  พ่อของเธอ..นะ  เขาอย่างนั้นล่ะ  อย่างนี้ด้วย  อืมม..แม่ไม่มีใครจะปรึกษา  หวังว่าลูกๆ  คงจะเข้าใจและเห็นใจแม่นะ  "

เจ้าคนเล็ก  น้องขวัญ  " แม่จ๋า  มอเตอร์ไซค์รับจ้างข้างล่างเขารับจ้างเป็นนักสืบจ้ะแม่ "

เจ้า  น้องนิ  คนที่สาม  " แม่จ๋า  ใจเย็นๆ แม่  ไหนเอาเบอร์โทรศัพท์มาซิคะ  หนูจะไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะดู  ถามให้รู้แน่เลย  ว่าเธอเป็นใคร  มายุ่งอะไรกับพ่อของฉัน....."

วันนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เหตุการณ์ปกติ  แต่ตอนกลางวัน  ครูอ้อยอยู่คนเดียว  นี่ล่ะ  " อยู่คนเดียวระวังความคิด  อยู่ในหมู่มิตรระวังวาจา "  โบราณสอนไว้  จงเชื่อถือ  อย่าเอาอย่างครูอ้อยเชียว

ครุอ้อยโทรศัพท์ไปหาพ่อบ้าน  ตัดพ้อต่อว่า  ต่างๆนานา  ความน้อยเนื้อต่ำใจ  ไม่ได้คิดหรือสังเกตอะไร  พ่อบ้านของครูอ้อยเงียบกริบไม่ตอบโต้อะไรเลย  ครูอ้อยยิ่งเดือดปุดปุด  ยิ่งเฉย  ยิ่งปุดปุด

หัวค่ำของวันนั้นเอง  พ่อบ้านของครูอ้อยกลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน  ในมือถือขนมปังเย็นของโปรดของครูอ้อยมาฝากด้วย

ครูอ้อย  ไม่สนใจ  อ่านหนังสือไป  ลูกตามองแต่ตัวหนังสือ แต่หัวใจกระโดดไปอยู่ตรงหน้าเธอ  และอยากจะพูดกับเธอให้รู้ดำรู้แดงไปเลย  .....นี่คืออารมณ์ฝ่ายร้ายของครูอ้อย

แต่ครูอ้อยกลับนั่งนิ่งเฉย  อะไรจะเกิดก็เกิดมาซิ......นี่คืออารมณ์ฝ่ายดีของครูอ้อย

เธอไม่ได้ยื่นขนมปังเย็นมาให่ครูอ้อย  แต่กลับเปิดช่องฟีซและเก็บกล่องไว้ในนั้นเลย...

เธออาบน้ำ  และเด็กๆก็เข้านอนหมดแล้ว  ครูอ้อยก็ระทึก  เจ้าฝ่ายดี  กับเจ้าฝ่ายชั่ว  มันเถียงกันเสียงดังออกมาข้างนอกว่า...........

ฝ่ายชั่ว  " เปิดฉากเลย  ถามเขาเลย  เอาหลักฐานออกมาเลย  มัดตัวให้ดิ้นไม่หลุดเลย "

ฝ่ายดี  " ตีโพยตีพายไปได้  เรื่องเล็กๆ  ผู้ชายเขาต้องอย่างนี้ล่ะ  ธรรมดาของผู้ชาย  ปกติน่า  อย่าคิดมาก "

ฝ่ายชั่ว  " ไม่ได้  ไม่ได้  เขาสัญญาว่า  จะรักเราคนเดียวไงล่ะ  แบบนี้ตระบัดสัตย์นี่  ใช้ไม่ได้ "

ฝ่ายดี  " เออน่า  เห็นแก่ภาพต่างๆ  เรื่องต่างๆ  ที่เคยรักกันหวานชื่นสิ  คิดมากน่า "

โอย !  นี่มันอะไรกัน  เถียงกันอยู่ได้  ครูอ้อยมองหน้า เธอผู้เป็นพ่อบ้านของครูอ้อย  ที่ทาแป้งฝุ่นและหวีผมอมยิ้มอยู่

"ทำไมต้องโทร.ไปหาผมเวลาทำงาน  ทำงานไม่รู้เรื่องเลย  ไหนอธิบายซิ  อะไรกัน "  พ่อบ้านถามครูอ้อย 

เป็นครั้งแรกที่เธอพูดกับครูอ้อยแบบมีคำถามหลายๆคำถามในเวลาเดียวกัน  แปลกมาก....  ซึ่งปกติแล้วเธอเป็นคนปากหนัก....พูดน้อย

ครูอ้อยก็ระเบิดออกมา  รัวถี่ยิบ..................

พ่อบ้าน  หัวเราะ  คิกคิก......

ครูอ้อยยิ่งโมโห......ฮึ่ม.....ฮึ่ม.....

พ่อบ้านบอกว่า  " หมายเลขโทรศัพท์นั้น  คือ  เจ้ามือหวยใต้ดิน "  " และหลักฐานอะไรที่เห็นนั่น  ...เขาแจกทุกคนที่เป็นผู้ชาย  ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง  เป็นของขวัญปีใหม่  กับคุณผู้ชาย  ผม...เป็นผู้ชาย...ผมก็ต้องเอาซิ  ไม่ใช่ตุ๊ด  "

และครูอ้อยก็ได้ยิน  พ่อบ้าน  พูดอะไรต่ออะไรอีกนิดนึงว่า  " ดีใจจัง เมียหึง...."

แล้วเธอก็เอาขนมปังเย็นออกมาจากตู้เย็น  หยิบช้อนมา 1 คัน........

หมายเลขบันทึก: 58146เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2006 12:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

 สวัสดีค่ะครูอ้อย

  • จบลงด้วยความหายสงกะสัย
  • ที่บ้านพี่สาวก็เล่นค่ะ
  • เบอร์โทรก็ต้องแอบเดี๋ยวใครมาเห็น
  • อย่างนี้เลยค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณไก่แก้ว

  • หายสงสัยเลยค่ะ  อิอิ  เข็ดไปนาน อย่าเที่ยวไปสงสัยใครเลยค่ะ
  • ฮา................หลุดโลก
  • จริง ๆ เลย ครูอ้อยของหนู
  • แบบนี้เค้าเรียก "เสียฟอร์ม" อิอิ
  • อะไรที่เป็นของเรา มันก็ต้องเป็นของเรา ค่ะครูอ้อย  อิอิอิอิ

น้องอ๊อบ

  • ครูอ้อยเสียฟอร์มจริงๆล่ะ  ไม่อายหรอก 
  • เผื่อจะเป็นบทเรียนให้สาวๆที่ยังไม่มีบทเรียนได้เรียนรู้ไปก่อน 
  • อย่าเป็นเหมือนครูอ้อยนะ  อิอิ
  • เล่นมีของแปลกตั้ง 3 อย่างใครล่ะจะไม่คิด

กลับมาอ่านเรื่องสนุกและเปิ่นของตัวเอง...ให้รู้จักตัวเองขึ้นมากเลย

หากรู้จักตัวเองแล้ว  ก็ต้องหัดรู้จักคนอื่นด้วย  โดยเฉพาะคนที่เรารัก

  • เย๊ ... ครูอ้อยเสียฟอร์ม กับคนที่บ้านแย้ว
  • บางครั้งเราก็เป็นเหมือนกัน
  • เขาเรียกว่า "สร้างรสชาติ ให้ชีวิตค่ะ"
  • มี เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ให้ครบสูตรสิคะ ... อร่อยดี
  • คุณหมอนนท์คะ   การเสียฟอร์มให้กับคนที่เรารัก  ก็จำยอมค่ะ
  • อย่างนี้ล่ะค่ะ  เธอก็รู้ว่า...ครูอ้อยไปไหนไม่รอดไงล่ะคะ
  • ยิ่งไปเรียนด้วย..ไม่อยากให้เธอคิดมากเล้ยค่ะ
  • อยากเปรี้ยวหวานมันเค็มและเผ็ดอีกต่อไปค่ะ.....อร่อยดีค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท