ครม. ไฟเขียวยุบ สนง.คลังอิเล็กทรอนิกส์

ครม. ไฟเขียวยุบ สนง.คลังอิเล็กทรอนิก

ครม. ไฟเขียวยุบสำนักงานจีเอฟเอ็มไอเอส  แล้วโอนถ่ายงานให้กรมบัญชีกลาง ชี้เพื่อลดงานที่ซ้ำซ้อน

นางเนตรปรียา ชุมไชโย รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี       เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน อนุมัติให้ยุบสำนักงานกำกับการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ     จีเอฟเอ็มไอเอส ตาม ที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ        เพื่อเป็นการลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน เพราะกรมบัญชีกลางสามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้ จากนี้ให้โอนถ่ายงานทั้งหมดแก่กระทรวงการคลัง   นอกจากนี้ ยังพิจารณาต่อสัญญาจ้างดำเนินงานกับธนาคารกรุงไทย ด้านการวางระบบ  และบำรุงรักษาต่อไปอีก 1 ปี วงเงินไม่เกิน 438 ล้านบาท   รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการทำโครงการส่วนต่อขยายเร่งด่วน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบบริหารหนี้สาธารณะ และโครงการรองรับข้อมูลของรัฐวิสาหกิจ  เพื่อติดตามและวิเคราะห์เรื่องรายได้รายจ่ายของรัฐบาล ก่อนหน้านี้ สำนักงานจีเอฟเอ็มไอเอส ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี      เริ่มเปิดโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2547 ถือเป็นหน่วยงานบริหารรูปแบบพิเศษ สังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้วางระบบ มีศูนย์คอมพิวเตอร์หลักและสำรอง สามารถรายงานสถานะการเงินของประเทศได้ ได้รับเงินว่าจ้างจากรัฐบาล 1.49 พันล้านบาท   และในปี 2548 ที่ผ่านมา รัฐบาลต้องเสียเงินชดเชยค่าวางระบบให้ธนาคารกรุงไทยอีก 338 ล้านบาท รวมทั้งยังต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทยอีก 100 ล้านบาท แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ขณะนี้ระบบสามารถเดินได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว การยุบเลิกสำนักงาน จีเอฟเอ็มไอเอสคงไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะแต่เดิมนั้นรัฐบาลก็ตั้งใจที่จะโอน งานไปให้กระทรวงการคลังดูแลอยู่แล้ว ประมาณเดือนตุลาคม 2550 แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของรายได้ของธนาคารกรุงไทยจากโครงการนี้ นั้น ธนาคารคิดค่าบริการ     ในฐานะเป็นผู้วางระบบและบำรุงรักษาตามต้นทุนจริง ส่วนรายได้จากการโอนเงิน นับเป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้ให้บริการ ธุรกรรมทางการเงินต้องเรียกเก็บเป็นปกติอยู่แล้ว   ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคที่นายวิโรจน์ นวลแข เป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย โดย ครม. ให้ธนาคารลงทุนก่อนแล้วตั้งงบประมาณชดเชยทีหลัง ขณะที่      ในส่วนของรัฐบาลมอบให้นายนิพัทธ พุกกะณะสุต ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลสำนักงานจีเอฟเอ็มไอเอส โพสต์ทูเดย์  ผู้จัดการออนไลน์  8  พ.ย.  2549