panittha


ประวัติคอมพิวเตอร์

                              ประวัติคอมพิวเตอร์  

คอมพิวเตอร์ในยุดเริ่มแรก   เป็นสิ่งประดิฐ์ที่สร้าขึ้นเพื่อคำนวน โยไม่มีวงจรอิเลคโทรนิคเข้ามาเกี่ยวข้อง

5,000ปีผ่านมา  มนุษย์เริ่มรุ้จักใช้นิ้วมือและนิ้วท้าว  จึงคิดสร้างสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อช่วยในการคำนวน เช่นการใช้ลูกหินมานับเป็นต้น 

2,600ปีก่อนคริสตกาล  มีนักประดิษฐ์ชาวจีนได้สร้าง"ลูกคิด"ขึ้นมาเพื่อใช่ในการคิดคำนวน ซึ่งเป็นที่นิยมใช้แพร่หลายไปทั่วโลก และยังคงมีการใช้กันอยู่จนถึงปัจจุบัน หลายปีต่อมาก็มีนักประดษฐ์ ได้คิดข้นเครื่องมือต่างๆมาช่วยในการคิดคำนวนแต่เนื่องจากว่ามีขนาดที่ใหญ่ไม่สะดวกต่อการใช้ ไม่สามารภพกพาได้

และในปี 2480    ศาสตราจารย์ Howard Aiken แห่งมหาลัยวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้พัฒนาเครื่องคำนวณโดยเครื่องดังกล่าวทำงานแบบเครื่องจักรกลปนไฟฟ้า และใช้บัตรเจาะรูเป็นสื่อในการนำเข้าข้อมูลสู่ เครื่องเพื่อทำการประมวลผลโดยเครื่องมือนี้มีชื่อว่า MARK 1 และเนื่องจากเครื่องนี้สำเร็จได้จากการสนับสนุน ด้านการเงินและบุคลากรจากบริษัท IBM ดังนั้นจึงมีอีกชื่อ หนึ่งว่า IBM Automatic Sequence Controlled Calculator และนับเป็นเครื่องคำนวณแบบอัตโนมัติเครื่องแรกของโลก 

พ.ศ. 2489   เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ Mauchly และ Eckert คิดค้นขึ้นได้มีชื่อว่า ENIAC ย่อมาจาก (Electronic Numberical Integrater and Caculator) ประสบความสำเร็จใน 

ปี พ.ศ. 2489   ถึงแม้ว่าจะไม่ทันใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ความเร็วในการตำนวณของ ENIAC ทำให้วงการคอมพิวเตอร์ขณะนั้น ยอมรับความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ แต่อย่างไรก็ตาม ENIAC ทำงานด้วยไฟฟ้าทั้งหมดทำให้ในการทำงานแต่ละครั้งจึงทำให้เกิดความร้อนสูงมากจำเป็นต้องติดตั้งไว้ในห้องที่มีเครือ่งปรับอากาศด้วย นอกจากนี้ ENIAC ยังเก็บได้เฉพาะข้อมูลที่เป็นตัวเลขขนาด 10 หลัก และเก็บได้เพียง 20 จำนวน เท่านั้น ส่วนชุดคำสั่งนั้น ยังไม่สามารถเก็บไว้ในเครื่องได้ การส่งชุดคำสั่งเข้าเครื่องจะต้องใช้วิธีการเดินสายไฟสร้างวงจร ถ้ามีการแก้ไขโปรแกรม ก็ต้องมีการเดินสายไฟกันใหม่ ซึ่งใช้เวลาเป็นวัน                                                 

                        เครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละยุค

คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2497-2501)
              คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ใช้ หลอดสูญญากาศ (Vacuum tube) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยังมีขนาดใหญ่มาก ใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้เครื่องมีความร้อนสูงจึงมักเกิดข้อผิดพลาดง่าย คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ได้แก่ UNIVAC I , IBM 600

                                                       

คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2502-2507)
              คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช ้ทรานซิสเตอร์ (Transistor) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และใช้วงแหวนแม่เหล็กเป็นหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กกว่ายุคแรก ต้นทุนต่ำกว่า ใช้กระแสไฟฟ้าและมีความแม่นยำมากกว่า

                                                          

คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 (พ.ศ. 2508-2513)
              คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้ วงจรไอซี (Integrated Circuit) เป็นสารกึ่งตัวนำที่สามารถบรรจุวงจรทางตรรกะไว้แล้วพิมพ์บนแผ่นซิลิกอน(Silicon) เรียกว่า "ชิป"                                                                               

คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4 (พ.ศ. 2514-2523)
              คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้ วงจร LSI (Large-Scale Integrated Ciruit) เป็นการรวมวงจรไอซีจำนวนมากลงในแผ่นซิลิกอนชิป 1 แผ่น สามารถบรรจุได้มากกว่า 1 ล้านวงจร ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ทำให้เกิดแนวคิดในการบรรจุวงจรที่สำคัญสำหรับการทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์นั่นคือ CPU ลงชิปตัวเดียว เรียกว่า "ไมโครโปรเชสเซอร์"

  คอมพิวเตอร์ยคุที่ 5 (พ.ศ. 2524-ปัจจุบัน)
              คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้ วงจร VLSI (Very Large-Scale Integrated Ciruit) เป็นการพัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง  http://www.nfe.go.th/13/banprak/computer/hiscom.html 
หมายเลขบันทึก: 57886เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2006 10:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท