เก่ง..ดี..มีสุข
ในครั้งนี้ได้รับฟัง พี่มาริษา ซึ่งไปฝึกอบรมเกี่ยวกับเรื่อง "จิตตปัญญาศึกษา" เป็นเวลาสี่วัน ได้นำเรื่องราวมาถ่ายทอดให้พวกเราฟัง นับว่าเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้เรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง....
พี่มาริษา ได้ขยายความคำว่า เก่ง ดี มีสุข ไว้ดังนี้ค่ะ....
- เก่ง ก็หมายถึงการทำงานให้ได้ผลลัพธ์ของงาน (out come) ออกมาคุ้มค่า
- ดี หมายถึงคนทำงานนั้นเป็นคนดี มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี มีมิตรภาพกับผู้อื่น
- มีสุข ก็คือคนๆนั้นมีความสุขกับการทำงาน ด้วยความพอเพียง
"เก่งอย่างเดียวไม่พอ ขอให้เป็นคนดี และมีความสุขกับการทำงานด้วย...
ความเห็น (12)
- สวัสดีครับพี่เม่ย
- เป็นบันทึกที่ให้ข้อคิดมาก ๆ เลยครับ
- ขออนุญาตนำไปปฏิบัติและทำตามอย่างที่พี่เม่ยบอกครับ
- ใช่ครับ เก่งนะดี ทำอย่างไร ให้คนเก่งเป็นคนดีไม่โกง นี่น่าสนใจนะครับ
- ขอบคุณพี่เม่ยมากครับ
- ไม่พบกันนานแล้วนะคะ พี่เม่ยยังคงติดตามอ่านบันทึกของคุณปภังกรอยู่นะคะ แต่ไม่ค่อยได้ทิ้งร่องรอยไว้....
- พี่เม่ยยินดีให้นำแนวคิดนี้ไปต่อยอดค่ะ...
- เก่งน่ะดี แต่เก่งอย่างเดียวน่ะไม่ค่อยดี ใช่ไหมคะ?
- พี่เม่ยว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ น่าจะต้องสามารถบูรณาการ เก่ง ดี มีสุข ให้เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะ...ไหมคะ?
ถูกใจจังค่ะ แต่ที่ตรงตัวก็น่าจะเป็น
- ความสุขกับการทำงาน (อย่างพอเพียง)
- ดี คงจะพอได้เข้าเค้ากับเขาได้บ้าง (แอบเข้าข้างตัวเองเล็ก ๆ )
- เก่งนี่อีกไกล
2 ข้อก็ OK น๊ะค๊ะ พี่เม่ย
- คุณศิริน่ะ เป็นตัวอย่างของคนที่บูรณาการ "เก่ง ดี มีสุข" เข้าด้วยกันได้อย่างเนียนๆเชียวค่ะ...
- ถ้าจะขาดความเก่งไปบ้าง ก็คงจะเป็นเรื่องไม่ช่วยนายดำดูเบอร์รองเท้าให้ดีๆก่อนซื้อนั่นแหล่ะ.....ฮา..
- เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
- ขอสำรวจตัวเองด้วยนิดนึง
- เก่ง (ในงานที่รับผิดชอบ) พอประมาณ
- ดี (อันนี้ เป็นคนดี 100%)
- มีสุข เดิมเคยคิดว่า การมีความสุขในงาน สิ่งประกอบที่สำคัญ คืองาน สิ่งแวดล้อม และองค์กร แต่เดี๋ยวนี้ สิ่งเดียวที่จะทำให้เรารู้สึกมีสุขได้ คือ ใจ ถ้าใจเราสุข อุปสรรคใด ๆ ที่เป็นตัวส่งผลทำให้เราไม่มีสุขในการทำงาน ก็จะลดน้อยลงค่ะ
พี่เม่ยค๊ะ เก่ง ดี มีสุข หายากมาก ๆ ในปฐพี หากจะมีก็คงมีอยู่ไม่มากในโลกนี้ แต่ประเภทขาด ๆ เกิน ๆ มีเยอะ ผู้เขียนขออยู่ในชนหมู่มากดีกว่าค่ะ
ยืนยันค่ะ 2 ข้อก็พอเพียง -อิ อิ ถึงไม่สนใจช่วยดูเบอร์นายดำไงค๊ะ --เดี๋ยวเชียร์มากกลัวจะต้องช่วยออกตังค์--อิ อิ เป็นงั้นไป
ยังไม่เก่ง เข้าโครงการนี้ได้หรือเปล่าคะ พี่เม่ย (แซวนะ)
เสียดายจัง ติดประชุม เลยไม่ได้ฟังคุณมาริษาเล่าให้ฟัง
ขอเติมนิดนะคะว่า รู้สึกโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ข้อต้นๆว่า ต้องการให้คนรู้คุณค่าของตัวเอง รู้ว่าตัวเองมีดี มีค่า รู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น จึงจะทำให้เราทำงานอย่างเห็นอกเห็นใจกัน เข้าใจกันและมีความสุขในการทำงาน
สำหรับความเก่งนี่เราไม่เน้นใช่ไหมคะ เราเน้นที่รู้จักตนเอง รู้ว่าตัวเองมีดีอะไร เข้าใจว่าผู้อื่นเป็นอย่างที่เป็นเพราะอะไรมากกว่า สำหรับเก่ง พี่เม่ยคงหมายถึงประเด็นที่พี่มาริษานำมาเล่าให้ฟังเป็นหลักมากกว่าที่จะหมายถึงโครงการที่อ.เสาวรัตน์ตั้งใจจะทำทั้งหมด เพราะฉะนั้น เก่ง ไม่เก่งก็เกี่ยวหมดค่ะ อ. ปารมี ถูกต้องไหมคะ พี่เม่ย...คนเก่ง คนสวย คนดี ของเรา
- เห็นด้วยค่ะ ว่าความสุขอยู่ที่ใจของเราเอง... "หากเพียงพอก็สุขได้"
- เมื่อยืนยันเช่นนั้น..."ก็เป็นเช่นนั้น..ค่ะ"
- พี่มาริษาเล่าได้เห็นภาพในการฝึกอบรมมากๆเลยค่ะ
- ใช่แล้วค่ะ...เรื่องราวที่นำมาเล่าในบันทึก เป็นประเด็นที่จับได้จากเรื่องเล่าของพี่มาริษาค่ะ
- ส่วนประเด็นของการทำโครงการของ อ.เสาวรัตน์ คงไม่ได้เน้นที่ความเก่ง หรือคนเก่งค่ะ! (พี่เม่ยจึงเลี่ยงไปใช้คำว่า เก่งอย่างเดียวไม่พอ...) แต่มุ่งเน้นให้ทุกคนได้มองเห็นคุณค่าของตัวเอง มองเห็นประโยชน์ที่ตนเองได้ทำให้กับองค์กร(out come)มากกว่า เนาะ!
- สรุปว่าเห็นด้วยกับความเห็นของคุณโอ๋ทุกประการเลยค่ะ ยกเว้นประโยคสุดท้ายค่ะ (พี่เม่ยไม่เก่ง ไม่สวยด้วย แถมยังไม่ค่อยดีเท่าไรนักค่ะ...แฮ่ะ..แฮ่ะ!)