เด็กและเยาวชนกับการรู้เท่าทันสื่อ
หลังจากจบปาฐกถาของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรประเทศภูฏาน (H.E. Lyonpo Dr. Jigmi Singay) แล้ว ก็เป็นช่วงของสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ซึ่งจ๊ะจ๋าก็สมัครใจเข้าร่วมในห้องย่อยที่ 6 ในประเด็น “ เด็กและเยาวชนกับการรู้เท่าทันสื่อ” ซึ่งเป็นช่วงที่น่าสนใจอีกช่วงหนึ่งคือ มีการนำเสนอผลการศึกษาของ ผศ. ดร. พรทิพย์ เย็นจะบกในเรื่อง “ สื่อมวลชนศึกษาในประเทศไทย (Media Education in Thailand)” ซึ่งเป็นการนำเสนอผลการสังเคราะห์องค์ความรู้เท่าทันสื่อในประเทศไทย ในเชิงทฤษฏีหลักการ เพื่อสร้างกระแสการขับเคลื่อนเชิงนโยบายการรู้เท่าทันสื่อในประเทศไทยต่อไป
มี 5 หลักการที่สำคัญที่เรียกว่า เบญจทัศน์คือ
1. มโนทัศน์ (Conceptual) เป็นการสรุปประเด็นความเชื่อมโยงและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการรู้เท่าทันสื่อทุกมิติเข้าด้วยกัน แล้วสื่อออกมาเป็นกรอบแนวคิดสร้างเป็นภาพความคิด ซึ่งกรอบมโนทัศน์ต้องอาศัยกระบวนการคิดเชิงมโนทัศน์ 10 คิด คือ การคิดเชิงอนาคต การคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสังเคราะห์ การคิดเชิงวิพากษ์ การคิดเชิงเปรียบเทียบ การคิดเชิงประยุกต์ การคิดเชิงบูรณาการ การคิดเชิงสร้างสรรค์
2. วิสัยทัศน์ (Vision) มองไกล แต่ต้องมองเป็น เชื่อมโยงเป็น มองไปข้างหน้าด้วยการใช้บทเรียนจากอดีตผสมผสานกับประสบการณ์ในปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้นหรือได้ออกมาคือ การก้าวล่วงทางความคิดไปยังอนาคต ดังนั้น การเคลื่อนไหวทางสังคมให้รู้เท่าทัน เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการตระหนักรู้ ประกอบไปด้วยรู้เขา รู้เรา รู้ทัน รู้กัน และ รู้แก้ วิสัยทัศน์ไม่ใช่สิ่งที่เพ้อฝันแต่คือการสร้างความชัดเจนให้กับการเดินทาง
3. กระบวนทัศน์ (Paradigm) เป็นกรอบของการมองหรือมุมในการมองของแต่ละภาคส่วนแต่ละคนอันนำไปสู่การแสดงออก ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาอาจเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากระบบชีวิตและระบบสังคม กระบวนทัศน์ประกอบไปด้วย การปรับประบวนทัศน์ (Paradigm shift) การเปลี่ยนกระบวนทัศน์(Paradigm change) ซึ่งทั้งสองส่วนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะในปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รุนแรง และต่อเนื่อง
4. โลกทัศน์ (Worldview) การนำเสนอเรื่องราวเพื่อการสร้างภาพความคิดให้เกิดขึ้นใหม่ มุมมองใหม่ในการวางจุดยืนของกระแสสื่อ คันหาจุดเปลี่ยนร่วมกัน เพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ของการรู้เท่าทันสื่อ อาจมีการเรียนการสอน โดยการสร้างหลักสูตรตั้งแต่ชั้นประถม เพื่อช่วยเอื้ออำนวยต่อการสร้างโลกทัศน์ให้กับคนในสังคม
5. ฉากทัศน์ (Scenario) ความคิดบนฐานการคิดเชิงอนาคต การมองให้รอบด้านถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้น
การเชื่อมโยงทั้ง 5 ทัศน์เข้าด้วยกันจะเป็นพื้นฐานของการสรุปบทเรียนในการรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งจะต้องมองเชิงระบบ (System Thinking) นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอปัจจัยที่สำคัญอื่นๆ คือ ทักษะการรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ การเข้าถึง การวิเคราะฆ์ การประเมินค่าสื่อ และการสร้างสรรค์ การวิเคราะห์สื่อ ด้วยการตั้งคำถาม เช่น ใครคือผู้สร้างเนื้อหาสาระของสื่อนั้นขึ้นมา? ใช้เทคนิคอะไรบ้างในการดึงดูดความสนใจ? คนอื่นตีความเนื่อหาสาระของสื่อแตกต่างกันอย่างไร? สิ่งนั้นๆ เสนอค่านิยม รูปแบบการใช้ชีวิตมุมมองอะไรและอย่างไร? และใครได้รับประโยชน์จากการนำเสนอของสื่ออย่างแท้จริง? กระบวนการในการรู้เท่าทันสื่อ รวมถึงผลกระทบของสื่อ ซึ่งมีหลายระดับตั้งแต่ ระดับสำนึกรู้ ระดับทัศนคติ ระดับอารมณ์ความรู้สึก จนไปถึงระดับพฤติกรรม
และ มีการเสวนาในเรื่อง “สื่อมวลชนศึกษาในบริบทสังคมไทย ความพร้อมและความเป็นไปได้” โดยผู้ร่วมเสวนามาจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคประชาสังคม ภาครัฐ และภาคการศึกษา นำโดย
สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ
จากการเข้าร่วมงาน ทำให้จ๊ะจ๋ามีแนวความคิดได้ว่าน่าจะเกิดความเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในสังคมไทย และในงานนี้ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่เริ่มเห็นประกายนั่นแล้วคะ