OLPC เรื่องเศร้าระดับโลกของเด็กไทยเพราะความไร้สาระของผู้ใหญ่

ประเทศไทยดังระดับโลกอีกแล้วครับวันนี้

สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ ประเทศไทยเรานั้นเป็นประเทศที่ "ดัง" มากครับ เราจะมีเรื่อง "ดังๆ" เป็นประจำที่คนได้ยินแล้วต้องส่ายหัวว่า "ประเทศไทย" อีกแล้ว

วันนี้ก็มีอีกเรื่องหนึ่งครับ เป็นเรื่องของการที่ประเทศไทยจะไม่สานต่อนโยบายการซื้อ OLPC หรือเครื่อง laptop ราคา US$100 เพราะสาเหตุหลักๆ สามประการคือ หนึ่ง เป็นนโยบายของ "ทักษิณ" (อะไรที่ "ทักษิณ" ทำต้องผิดไว้ก่อน ต้อง NIH -- It's Not Initialized Here) สอง ไม่เข้าใจว่า OLPC คืออะไร (การขาดความรู้ด้านเทคโนโลยีเพียงพอจนทำให้ขาดวิสัยทัศน์) สาม ตกเป็นเหยื่อของบริษัท Intel ที่ต้องการล้มคู่แข่งบริษัท AMD ซึ่ง OLPC ใช้ microprocessor จากบริษัทนี้ (ถ้าเป็น "ทักษิณ" หนังสือพิมพ์ต้องเล่นว่ารับเงินจากบริษัท Intel แล้วนะเนี่ย)

ส่วนสาเหตุที่สี่ที่คาดเดากันก็คือ ต้องการเอาใจผู้ค้าคอมพิวเตอร์ในประเทศ เพราะหากซื้อแล้ว OLPC จะกระทบธุรกิจคอมพิวเตอร์ในประเทศค่อนข้างมากนั้น เราจะไม่พูดถึง เพราะยิ่งกระทบถึงการพยายามเอาใจนายทุนโดยเอาความลำบากของเด็กตาดำๆ เป็นเครื่องมือ วิธีอย่างนี้เป็นวิธีที่ "ทักษิณ" เท่านั้นทำ รัฐบาลใหม่นี้คงไม่ทำหรอก

ในวันนี้รายละเอียดจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ "'สิทธิชัย'กดปุ่ม คอมพ์เอื้ออาทรพันธุ์ใหม่ ผู้ผลิตผู้ค้าแนะศึกษาข้อผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียน" ได้ดังไปทั่วโลก เว็บดังอย่าง Engadget ได้รายงานให้ผู้อ่านทั่วโลกได้ รับรู้ กันว่า ในขณะที่ประเทศอย่างบราซิลได้รับเครื่องต้นแบบให้ทดลองแล้ว ประเทศไทยกลับถอนตัวในการร่วมโครงการนี้

สาเหตุที่ประเทศไทยถอนตัวเพราะ รมต. ICT ของไทยคิดว่าโครงการนี้เป็น "ของเล่น" เพราะดูเหมือนข้อมูลที่ รมต. ได้รับจะมาจากบริษัทขายคอมพิวเตอร์ซึ่งโดนผลกระทบจากโครงการ OLPC ทั้งสิ้น

คุณ iTeau ก็ได้รายงานไว้ ที่นี่ และ คุณ Kamthorn ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาให้ OLPC สามารถใช้ภาษาไทยได้ก็ได้ชี้แจงไว้ ดังนี้

เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าครับ เด็กไทยขาดอุปกรณ์ในการศึกษาไปอีกอย่างแล้ว OLPC เป็นโครงการที่ดีมากและผมได้ติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอดก็พบว่าเป็นโครงการที่ "กล้าฝัน" และ "กล้าทำ" จริงๆ การถอนตัวจากโครงการครั้งนี้ทำให้รัฐบาลที่มาจากทหารของไทยเสียคะแนนในสายตาต่างชาติเพิ่มขึ้นอีก กลายเป็นรัฐบาลที่จ้องจะลดความสามารถในการเรียนรู้ของคนในชาติเพื่อจะได้ปกครองได้ง่ายเช่นเดียวกับรัฐบาลพม่า ในขณะเดียวกันก็เพิ่มคะแนนให้ "ทักษิณ" ดูดีขึ้นในสายตาของต่างชาติทันทีทีเดียว

หลายท่านอาจนึกว่า laptop ในขณะนี้ราคาถูกลงมากแล้ว แต่ laptop ที่ถูกๆ ในขณะนี้คือ laptop ที่พังง่ายมากครับ อย่าว่าแต่เด็กใช้เลย ผู้ใหญ่ใช้เดี๋ยวเดียวก็พัง นี่ยังไม่ต้องพูดถึงความสามารถอย่างอื่นที่แตกต่างกันอีกนะครับ

แต่ OLPC ใช้เทคโนโลยีเครือข่ายที่ซับซ้อน (Mesh Networking) หมายความว่าเมื่อไหร่ OLPC อยู่ในมือเด็กไทยแล้ว การจะปิดกั้นข่าวสารก็จะทำได้ยากขึ้นด้วย พอนึกถึงเรื่องนี้แล้ว การยกเลิก OLPC อาจจะไม่ได้เป็นการที่ไม่มีวิสัยทัศน์ แต่เป็นการที่มีวิสัยทัศน์ "ดีมาก" ในการ "ปิดกั้น" ข่าวสารก็เป็นได้

ถ้านักข่าวต่างชาติวิเคราะห์ในมุมนี้เมื่อไหร่ รัฐบาลทหารปัจจุบันก็ยิ่งเสียคะแนนอีกแน่นอน

ผมคงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากขอแสดงความเสียใจกับเด็กไทยทุกคน การต่อต้านการเข้าถึงอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ของเด็กนั้น เป็นบาปครับ แล้วยิ่งเด็กไทยที่ขาดโอกาสทางความรู้นั้นต้องตกไปในอุตสาหกรรมขายบริการทางเพศที่ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นที่หนึ่งอันดับโลกแล้ว คนยกเลิกโครงการ OLPC คงต้องรับบาปทุกครั้งที่เด็กคนหนึ่งต้องขายบริการครับ ขอเชิญรับกันไปเต็มๆ ก็แล้วกัน

บอกตรงๆ ว่างานนี้ผมเซ็งเป็นที่สุด!!!!